การค้นพบใหม่ ‘ไดโนเสาร์กินขนาดเนื้อยักษ์’ มันน่ากลัวและใหญ่กว่าญาติทีเรกซ์

ถึงแม้ว่าในบรรดาไดโนเสาร์กินเนื้อ ไทแรนโนซอรัส (Tyrannosaurus) จะไม่ใช่ไดโนเสาร์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดก็ตาม แต่มันก็ยังคงโด่งดังมากที่สุดอยู่ดี แต่เป็นเวลาหลายสิบล้านปีที่ญาติของพวกมัน ต้องอาศัยอยู่ใต้เงามืดของนักล่าขนาดใหญ่ที่มีฟันคมเหมือนฉลาม มันคือ คาร์คาโรดอนโทซอรัส (Carcharodontosaurus) หรือกิ้งก่าฟันฉลาม พวกมันเป็นญาติกับไดโนเสาร์ตระกูลอัลโลซอร์ (Allosaurus) ที่เคยครองโลกในช่วงยุคจูราสสิก เมื่อต้นยุคครีเตเชียส พวกมันก็มาแทนที่บรรพบุรุษของพวกมันและปรับตัวให้มีร่างกายที่ใหญ่ขึ้นด้วย

เมื่อไม่นานนี้มีการพบไดโนเสาร์ตระกูล ‘คาร์คาโรดอนโทซอรัส’ ชนิดใหม่ที่อุซเบกิสถาน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการพบสายพันธุ์นี้ในบริเวณนี้ มันมีอายุ 90 ล้านปี และมีความยาวเพียง 6 เมตร เล็กกว่าญาติมันในแอฟริกาและอเมริกาใต้ แต่ก็ยังใหญ่กว่าไทแรนโนซอร์ในช่วงเวลานั้นมาก มันได้รับการตั้งชื่อว่า Ulughbegsaurus uzbekistanensis ณ ตอนนี้พบชิ้นส่วนเพียงแค่ส่วนหนึ่งของขากรรไกรเท่านั้น แต่จากการประเมินทำให้พอทราบว่ามันเป็นนักล่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเขตนั้น

Ulughbegasurus ไม่ใช่ไดโนเสาร์ตัวแรกที่พบในพื้นที่แถบนั้น ในเขต Bissekty ที่มีอายุ 90 ถึง 92 ล้านปี ยังมีไดโนเสาร์ชนิดอื่นอย่างพวกไดโนเสาร์ปากเป็ด ไดโนเสาร์มีเขา และพวกคอยาว ซึ่งเป็นการผสมที่น่าสนใจของบริเวณนี้ทีมีทั้งพวกกินพืชคอยาว มีเขา และปากเป็ดอาศัยในบริเวณเดียวกัน และที่นี่ได้มีการค้นพบพวกทีเร็กชนิดใหม่คือ Timurlengia ซึ่งเป็นไทแรนโนซอร์ขนาดเล็ก มีความยาวเพียง 3 เมตร

Stephen Brusatte นักบรรพชีวินวิทยาจากมหาวิทยาลัยเอดินเบอระ (University of Edinburgh) ได้กล่าวว่าการค้นพบครั้งนี้สำคัญมาก สำหรับเจ้าUlughbegasurus นี่ไม่ใช่เพียงแค่พวกคาร์คาโรดอนโทซอร์ชนิดสุดท้ายที่ค้นพบเท่านั้น แต่ยังมีความสัมพันธ์ระหว่างนักล่าด้วย การที่มีนักล่าขนาดใหญ่ชนิดอื่นทำให้พวกไทแรนโนซอร์ไม่สามารถมีขนาดใหญ่ได้

เคยมีการค้นพบไทแรนโนซอร์ขนาดเล็กและคาร์คาโรดอนโทซอร์ขนาดใหญ่ เช่นในชั้นหินอายุ 96 ล้านปีของรัฐยูทาห์ บรรดานักบรรพชีวินวิทยาพยายามทำความเข้าใจช่วงเวลายุคครีเตเชียสในช่วงเวลา 125 ถึง 80 ล้านปีก่อนเพราะช่วงนั้นเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ในช่วงนั้นพวกคาร์คาโรดอนโทซอร์ ในซึกโลกเหนือเริ่มหายไปแล้ว และพวกไทแรนโนซอร์มีขนาดใหญ่ขึ้น

มีการศึกษาขนาดร่างกายทั้งของพวกไทแรนโนซอร์และอัลโลซอร์ อย่างเช่นเมื่อ 160 ล้านปีก่อน ไทแรนโนซอร์ชนิดแรกอย่าง Guanlong จากจีน ถูก Sinraptor ที่มีขนาดใหญ่กว่าบดบัง และในยุคครีเตเชียสตอนต้น 125 ล้านปีก่อน เอโอไทแรนนัส ที่ใช้ชีวิตร่วมกับ นีโอเวเนเตอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่า ทำให้ดูเหมือนว่าไทแรนโนซอร์เป็นนักล่าขนาดรองในช่วงเวลานั้น

เมื่อไม่มีนักล่าขนาดใหญ่ก็ทำให้พวกไทแรนโนซอร์ใหญ่ขึ้น อย่างเมื่อ 125 ล้านปีมาแล้ว ในช่วงยุคครีเตเชียสตอนต้นที่ประเทศจีน เป็นที่อยู่ของไทแรนโนซอร์ขนาดกลางที่ยาว 6 เมตร ยูทีรันนัส ซึ่งในเขตนั้นไม่มีการค้นพบไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่ในบริเวณนั้นเลย ซึ่งพอหลังจาก 80 ล้านปีไปไม่มีการค้นพบพวกคาร์คาโรดอนโทซอร์ในซีกโลกทางเหนือ และพวกไทแรนโนซอร์กำลังพัฒนาให้มีขนาดใหญ่ขึ้น

Advertisements

แต่ก็ยังมีคำถามว่าทำไมพวกคาร์คาโรดอนโทซอร์ ถึงไม่มีบทบาทในซีกโลกเหนือเลยในช่วงหลังจาก 80 ล้านปี เพราะถ้าเหยื่อที่ใหญ่ขึ้นก็ไม่น่าใช่ เพราะว่ามันก็น่าจะพัฒนาให้ร่างกายใหญ่ขึ้นได้ และเนื่องจากไทแรนโนซอร์นั้นอยู่ใต้เงาพวกอัลโลซอร์มาหลายล้านปี ทำให้นึกไม่ออกเลยว่าพวกมันจะขึ้นมาเป็นใหญ่แทนได้อย่างไร

หรืออาจจะยังมีตัวแปรอื่นด้วย อย่างเช่นการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมร่วมถึงเหยื่อ เรายังไม่รู้ว่าทำไมไดโนเสาร์พวกนี้ถึงสูญเสียตำแหน่งนักล่าชั้นยอด แต่มันอาจจะเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและประเภทของเหยื่อมันก็เป็นได้ ณ ตอนนี้ต้องมีการนำฟอสซิลไปตรวจสอบเพื่อสืบหาการวิวัฒนาการของพวกมันต่อไป

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements
Advertisements
แหล่งที่มาsmithsonianmag