การศึกษาชี้ ‘ไดโนเสาร์’ อาจถึงทางตันก่อนเกิดหายนะจากอวกาศ

สาเหตุสำคัญการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ รวมถึงสัตว์เลื้อยคลานในทะเลและบนฟ้าเมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว คืออุกกาบาตที่ตกลงคาบสมุทรยูคาตันในเม็กซิโก ทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์และเปิดทางให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสามารถมีชีวิตรอดได้ แต่จากการค้นพบล่าสุดอุกกาบาตเป็นแค่ตัวแปรส่วนหนึ่งเท่านั้น

จากการตรวจสอบการค้นพบไดโนเสาร์ในช่วงปลายยุคครีเตเชียสเมื่อ 66-65 ล้านปีที่แล้ว พบว่าจำนวนสายพันธุ์ของไดโนเสาร์นั้นลดลงไปมาก บางชนิดก็ไม่มีเหลือแล้ว “นักบรรพชีววิทยาหลายคนเชื่อว่าไดโนเสาร์จะยังคงอยู่ต่อถ้าอุกกาบาตไม่พุ่งชนโลก แต่จากการค้นพบล่าสุด จำนวนพวกมันก่อนอุกกาบาตพุ่งชนโลกก็ไม่ได้ดีเท่าไร” – Fabien Condamine นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Montpellier ฝรั่งเศส

พวกมันเริ่มสูญพันธุ์ไปก่อนแล้ว

Advertisements

ทีมนักวิจัยได้ศึกษาฟอสซิลจำนวน 1,600 ชุดจากไดโนเสาร์ 247 ชนิดที่อยู่ในปลายยุคครีเตเชียส เมื่ิอประมาณ 100 ถึง 65 ล้านปี ซึ่งรวมถึงนักล่าอย่างตระกูลไทแรนโนซอร์และพวกไดโนเสาร์ปากเป็ด จากการแบ่งออกเป็น 6 ชนิดหลักๆ พวกเขาพบว่าพวกมันค่อยๆ ลดลงตั้งแต่ 76 ล้านปีก่อนแล้ว

“พวกเราพบว่าไดโนเสาร์บางชนิดนี้สูญพันธุ์ไปก่อนหน้านั้นแล้ว บางชนิดช่วงก่อนอุกกาบาตพุ่งชนไม่นานก็เหลือน้อยมาก” – Fabien กล่าว

Fabien ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์กลุ่มแรกที่เสนอว่าไดโนเสาร์เริ่มลดจำนวนลงก่อนหน้านั้นแล้ว ในปี 2016 ผลการศึกษาพบไดโนเสาร์ที่ยังมีชีวิตก่อนการสูญพันธุ์นั้นไม่มีสายพันธุ์ใหม่มาแทนที่เลย อย่างเช่นไดโนเสาร์ตระกูลสเตโกซอร์ที่ในช่วงปลายยุคครีเตเชียสไม่มีหลงเหลืออีกแล้ว หรือพวกคอยาวอย่างซอโรพอดที่ในช่วงเวลานั้นพวกมันลดจำนวนไปมาก ในอเมริกาเหนือเหลือเพียงชนิดเดียวเท่านั้น

อุณหภูมิที่ลดลง

ในช่วงปลายยุคครีเตเชียส อุณหภูมิโลกเริ่มลดลง เริ่มเมื่อ 80 ล้านปีก่อน อุณหภูมิโลกลดลงถึง 7 องศา ซึ่งผลกระทบนี้ส่งผลต่อการปรับอุณหภูมิของร่างกายไดโนเสาร์ ซึ่งเร่งในการสูญพันธุ์ของพวกมัน

“อากาศที่อบอุ่นนั้นเป็นที่ชื่นชอบของพวกมัน อุณหภูมิที่เย็นลงยิ่งเร่งการลดจำนวนให้มัน”

อีกหนึ่งความเป็นไปได้ คือจำนวนของไดโนเสาร์กินพืชในระบบนิเวศ ในช่วงปลายยุคครีเตเชียสไดโนเสาร์กินพืชอย่างฮาโดซอร์หรือไดโนเสาร์ปากเป็ด ได้ครองโลกในช่วงปลายยุคครีเตเชียส ตั้งแต่ 76 ถึง 65 ล้านปี เหนือกว่าพวกไดโนเสาร์มีเขาอย่างเซอร์ราทอปและพวกหุ้มเกราะอย่างแองคิโลซอร์

Advertisements

และไม่ต้องพูดถึงพวกไดโนเสาร์คอยาวอย่างซอโรพอดที่เหลือน้อยลงมาก ซึ่งส่วนมากเหลืออยู่แค่โซนทางอเมริกาใต้และเอเซียเท่านั้น ขณะที่ในอเมริกาเหนือในช่วงปลายยุคครีเตเชียสเหลือซอโรพอดแค่ชนิดเดียวเท่านั้น

“พืชที่ลดลงอย่างมากอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้บางสายพันธุ์เริ่มลดจำนวนลง” – Fabien กล่าว

เรียกได้ว่าก่อนอุกกาบาตชนโลก ไดโนเสาร์หลายชนิดเองก็ถึงทางตันในการวิวัฒนาการของพวกมันแล้ว แต่เรื่องนี้ยังต้องศึกษาต่อไป เพราะเรื่องแบบนี้มีทฤษฎีใหม่ๆ มาหักล้างได้ทุกวัน

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements