ทำไมปลาไน จึงต้องกระโดด

ปลาไน ไม่ใช่ปลาพื้นเมืองของไทยมาก่อน เราเพิ่งมีปลาไนมาเมื่อไม่กี่สิบปีมานี่เอง ก็เพราะว่าชาวจีนที่อพยพเข้ามาตั้งรกรากในเมืองไทย ได้นำเข้ามาเลี้ยงไว้เพื่อปรุงเป็นอาหารจานโปรด และต่อเมาก็ได้ขยายพันธุ์โดยการเพาะพันธุ์ขี้นได้เอง ทำให้เมืองไทยเรามีปลาไนและรู้จักกันไปทั่วมาจนทุกวันนี้

ปลาไน

ถ้าเราจะพูดกันถึงเรื่องราวของปลาไนให้ลึกซึ้ง เราต้องนึกถึงประเทศที่เขามีปลาไนกันมานานๆ เป็นพันๆ ปี เช่นประเทศจีน ประเทศใต้หวัน และประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น และการที่ประเทศดังกล่าวเขามีปลาไนกันมานาน จึงมีการค้นคว้าและมีตำราเกี่ยวกับเรื่องของปลาไน พิมพ์ออกจำหน่ายกันอย่างแพร่หลายอีกด้วย

จากตำราการตกปลาของญี่ปุ่น ซึ่งมีความคุ้นเคยกับปลาไนมานานถึง 1,900 กว่าปีแล้ว ได้เขียนถึงเรื่องการหาหมายปลาโดยอาศัยจากการสังเกตว่าปลากระโดดขึ้นมาจากตรงไหน ตรงนั้นจะเป็นหมายที่ดีอีกทีหนึ่ง โดยกล่าวไว้ในตำราเล่มนั้นว่า

“ปลาไนกระโดดขึ้นมาเหนือน้ำตรงไหน ในบริเวณนั้นจะมีปลาไนประมาณ 50 คัง”

Advertisements

ปลาไน ( 1 คัง เท่ากับ 3.75 กก.) หรือบริเวณนั้นจะมีปลาเฮร่ะบูน่ะมากถึง 187.5 กก. ถ้าเป็นปลาขนาดน้ำหนักตัวละ 1 กก. ก็จะมีปลาประมาณ 187 ตัวเชียวละ และด้วยสาเหตุดังกล่าวนี้เองจึงถือกันว่า ถ้าเห็นปลาอะไรกระโดดขึ้นเหนือน้ำตรงบริเวณไหน ก็มั่นใจว่าบริเวณที่ปลากระโดดนั้นจะเป็นหมายปลาที่ดีทีเดียว

การหาหมายปลาหรือการหาที่อยู่ของปลานั้น ก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งในการตกปลามากที่สุด เปรียบเหมือนกับพ่อค้า แม่ค้าจะต้องหาทำเลดีๆ ที่มีประชาชนผ่านไปมาหรืออาศัยอยู่ในบริเวณนั้นมาก ๆเพื่อการขายสินค้าหรืออาหาร ซึ่งจะมีโอกาสดีกว่าการตั้งร้านขายอยู่ในที่เปลี่ยวๆ นั่นเอง การตกปลาก็เช่นกัน ถ้ามีเหยื่อดีและตีเหยื่อไปที่ฝูงปลาหรือหมายปลาพอดี ก็จะมีโอกาสที่จะได้วัดอัดเย่อบ่อยๆ ในปัจจุบันนี้นักกีฬาตกปลาระดับแชมป์ทั้งหลายนั้นตกปลากัน และก็เคยประสพความสำเร็จกันมานักต่อนักแล้วล่ะครับ

ส่วนมากปลาที่จะกระโดดขึ้นมาให้เห็นนั้นคือปลาไน ปลายี่สกและที่ขึ้นฮุบหรือเอาหางฟาดน้ำให้เห็นกันบ่อยๆ ก็คือ ปลากระโห้ ปลากราย ปลาสวาย และปลากะพงขาว เป็นต้น สำหรับปลาซ่ง ปลาเล่ง และปลากาดำนั้น จะหาหมายของมันด้วยการสังเกตฟองที่ผุดๆ ขึ้นมา รวมทั้งปลาไนและปลายี่สกอีกด้วย

มาพูดกันถึงเรื่องว่าทำไมปลาไนต้องกระโดด ว่ากันว่าปลาไนมีอะไรๆ ที่พิเศษกว่ามนุษย์ ในการหยั่งรู้เรื่องของดินฟ้าอากาศและความเป็นไปของธรรมชาติ ที่มันสามารถจะบอกให้เราทราบล่วงหน้าว่าในไม่ช้าอะไรจะเกิดขึ้นเช่นชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่า ถ้าปลาดุก (นามะซึ) กระโดดขึ้นมา ในไม่ช้า จะมีการเกิดแผ่นดินไหวขึ้น (ยิซิ่ง) และชาวจีนก็เชื่อกันว่าถ้าปลาโลมากระโดดและพ่นน้ำในไม่ช้าจะมีพายุและฝนมาแน่นอน และปลาในกระโดดเพราะอะไรกันบ้างดังนี้ครับ

1. กระโดดเพราะความตกใจจากเสียงของเหยื่อหรือทุ่นตกปลาอันใหญ่ๆ ที่นักกีฬาตกปลาเหวี่ยงลงไปในบริเวณที่ใกล้ๆ ตัวมัน
2. กระโดดตอนก่อนพระอาทิตย์ขึ้น 1 ชั่วโมง ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติของมันเอง เช่นเดียวกับไก่ตัวผู้โก่งคอขันกันลั่นทุกเช้า ก่อนฟ้าสางทุกๆ วันโดยไม่มีใครสอนมันเลย
3. กระโดดเพราะอีกในไม่ช้าฝนจะตก
4. กระโดดเพราะอีกในไม่ช้าพายุจะมา

Advertisements

เราก็ไม่ทราบว่าปลาดุก ปลาโลมา และปลาใน ที่กระโดดเพราะจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นได้อย่างไร ราวกับมีเครื่องเรดาร์ที่สามารถหยั่งรู้ถึงความเคลื่อนไหวของดินฟ้าอากาศได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่บางวันเราเคยเห็นปลาต่างๆ กระโดดขึ้นมาเป็นฝูงพร้อมๆ กันเลย ไม่ทราบว่ามันมีอะไรเกิดขึ้น อาจจะตกใจที่มีปลาใหญ่เข้ามาใกล้ๆ หรือมีตัวอะไรแปลกๆ เช่น ตัวเงินตัวทอง (ตะกวดหรือเหี้ย) ที่ลงมาหาปลาจับกินก็ได้

แต่เคยได้ยินนักกีฬาตกปลาพูดกันว่าเจ้าของบ่อบางแห่งเอาสายไฟฟ้าไปใส่ไว้ในบ่อ พอวันไหนปลากินเบ็ดมากนัก ก็จะสับสวิทซ์ไฟฟ้าให้ปลาช็อคไปชั่วคราวและจะไม่กินเหยื่อไปอีกหลายวัน เป็นการทำมาหากินที่แปลกไปอีกแบบหนึ่งของเจ้าของบ่อ แต่อาจจะไม่เป็นความจริงก็ได้ เพราะนิสัยคนไทย เราชอบพูดอะไรกันเรื่อยเปื่อย แต่ก็มีนักกีฬาตกปลายืนยันกับผมว่า เขาเคยเกี่ยวเอาสายไฟฟ้าขึ้นมาจริง ๆ อาจจะเป็นการกลั่นแกล้งกันโดยใครเอาสายไฟฟ้ามาโดยลงในบ่อก็ได้ ถ้าเจ้าของบ่อเขาทำเสียเองละก้อ เขาคงจะต้องทำให้มันแนบเนียนกว่านั้นกระมัง

อ่านเรื่อง ปลากระโห้ อีกหนึ่งสัตว์น้ำในธรรมชาติที่ใกล้สูญพันธุ์

Advertisements
แหล่งที่มาโดยลุงคำ