ตำนานเหยื่อปลอม Rapala ลัวลี่ ราพาล่า

ไม่ว่าจะเป็นการ ตกปลา ด้วยวิธีไหนก็ตาม แทบทุกคนจะต้องรู้จักชื่อของ “Rapala” อย่างแน่นอน เพราะ Rapala คือชื่อของเหยื่อปลอมที่ชื่อดังที่สุดในโลก และเป็นแบนด์ที่เก่าแก่ที่สุดอีกด้วย จุดเด่นของเหยื่อปลอมของ Rapala ที่ตัวผมได้สัมผัสมาคือ ราคาถูก, ใช้ได้ผลในหมายธรรมชาติ, หาซื้อได้ง่าย และในส่วนนี้เป็นประวัติความเป็นว่าของ ลัวรี่ ราพาล่า ที่ถูกแปลและส่งต่อๆ

Rapala ต้นแบบที่แท้จริงของเหยื่อปลอมทั่วโลก

Advertisements

ลัวลี่ ราพาล่า เกิดที่เมืองเล็กๆ ในปี 1907

เขาเป็นเด็กกำพร้า ไม่เคยเห็นหรือรู้เรื่องราวของพ่อผู้ให้กำเนิด ไม่มีแม้แต่นามสกุล จวบจนกระทั่งอายุได้ 5 ขวบ เจ้าหน้าที่ทางทะเบียนราษฎร์จึงตั้งนามสกุลให้เขาว่า “ราพาล่า” ตามชื่อของเมืองที่เขาได้เกิดมา ซึ่งคำว่า Rapala (ราพาล่า) ในภาษาถิ่นที่นี่ หมายความถึงความมัวหม่น หม่นหมอง ปลักตม ซึ่งตรงกับบุคลิกภาพหม่นหมองของเด็กกำพร้าน้อยคนนี้ ชีวิตส่วนใหญ่ของเขาพบเจอแต่ความยากลำบาก ต้องทำงานหนัก หาเช้ากินค่ำ แม้แต่ออกรบในสงครามทั้งกับพวกรัสเซียและเยอรมันเพียงเพื่อได้มีอาหารและเกียริติยศเล็กน้อยในจิตใจ

rap002

เป็นเวลาหลายสิบปี ที่เขาตกปลาอยู่ตามทะเลสาบชายป่าซึ่งอยู่ไกลออกไปทางด้านเหนือของ เฮลซิงกิประมาณ 2 ชั่วโมง โดยอาศัยเรือกรรเชียงเก่าๆ เขาเพียรเรียนรู้การต่อสู้เพื่อยังชีพในกระแสน้ำ เฝ้ามองปลาเหยื่อตัวเล็กๆ ที่ถูกงาบเข้าไปในอุ้งปากมหึมาของปลานักล่า

ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปลาเทร้าท์หรือไม่ก็ปลาไพค์ “ผมได้เห็นว่าปลาใหญ่ๆ นั้นมักจะรอคอยจนกระทั่งสามารถเลือกเหยื่อที่มีลักษณะอาการแตกต่างไปจากตัว อื่น” เขาเคยพูดอธิบายให้ฟัง “การที่ปลาเหยื่อถูกปลานักล่าขนาดใหญ่ กินก็เป็นเพราะกริยาอาการว่ายที่ไม่เหมือนตัวอื่นๆ เป็นจังหวะที่ต่างกัน”

ด้วยการสังเกตุพฤติกรรมนิสัยปลามาเนิ่นนาน เขาถึงขนาดทายไว้ล่วงหน้าได้ว่าเมื่อลงเหยื่อเสร็จ ปลาจะกินเหยื่อตัวไหนก่อน มันไม่ใช่การฝึกสังเกตุการณ์อย่างอดทนที่ไร้ค่า เพราะครอบครัวราพาล่ามีชีวิตอยู่ได้ด้วยปลา ตลอดระยะเวลาทุกข์ยากอันยาวนาน หลังจากไม่ได้มรรคผลอะไรจากอาชีพเพาะปลูกและตัดซุง เขาตกลงใจเป็นชาวประมงและแต่งงานกับภรรยาของเขา เอลมาซึ่งมีลูกด้วยกัน 7 คน ครอบครัวนี้อยู่รวมกันในกระท่อมซุงสี่เหลี่ยมขนาดกว้างยาว 13 ฟุต เฟอร์นิเจอร์ในบ้านมีเตียงอยู่ตัวหนึ่งและเมื่อไฟฟ้าไปถึงที่นั่นในปี 1939 ทั้งบ้านมีตะเกียงน้ำมันอยู่เพียงดวงเดียว

rap003

ลัวรี่ ราพาล่า ตกปลาอย่างหนักแทบทุกลมหายใจที่ตื่น ในทะเลสาบใกล้ๆ กับ วาแอคซี่ ฟินด์แลนด์ เขาจะวนเวียนพายเรืออยู่ในนั้นเป็นวันๆ หรืออาจวันข้ามคืน มีตาข่ายใส่เหยื่อปลาและเบ็ดนับร้อยๆ สาย และเขาไม่เคยมีคันเบ็ดใช้เลย บางทีเขาจะหายไป 2 วันแล้วกลับมาพร้อมด้วยปลาเทร้าท์หนักรวมกันถึง 600 ปอนด์

บางทีก็หายไปนานกว่านั้นแล้วกลับมาแบบไม่ได้อะไรเลย (แห้ว) ริสโต้ ลูกชายคนหนึ่งของเขาพูดถึงพ่อแบบทบทวนความหลังว่า พ่อออกจากบ้านในฤดูหนาว วิ่งสกีไปหลายๆ ไมล์ข้ามหิมะและน้ำแข็งไปยังแหล่งตกปลา เพื่อเจาะหิมะและน้ำแข็งซึ่งหนาถึง 23 นิ้ว ให้เป็นรูแล้ววางเบ็ดพร้อมปลาเหยื่อลงไปนำอาหารกลับมาให้ครอบครัวยังชีพอย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูร้อนซึ่งเขาต้องทำงานสายตัวแทบขาดนั่นเอง ราพาล่าได้หวนคิดถึงปลาที่มีลักษณะว่ายน้ำผิดปกติเฉไปมา และโดนปลาล่าเหยื่อเข้าชาร์จตลอดเวลา ลักษณะเช่นนี้น่าจะเป็นแรงดึงดูดเจ้าตัวใต้น้ำได้เป็นอย่างดี

เขาจึงค้นคิดและลองทำเหยื่อปลอมซึ่งถูกลากและมีแอคชั่นออกอาการคล้ายๆ ปลาเหยื่อที่กำลังบาดเจ็บซึ่งจะเรียกร้องความสนใจจากปลาล่าเหยื่อหลังจากทดลองหลายครั้งหลายหนเขาก็ได้ข้อสรุปออกมาว่า เหยื่อนั้นต้องใช้วัสดุเบาๆ ทำขึ้มา มันจะได้มีแอ็คชั่นเหมือนเหยื่อปลาที่บาดเจ็บมากที่สุด

ตอนแรกเขาใช้ไม้สนในการทำเหยื่อปลอมรูปตัวปลา ต่อมาได้ทดลองใช้เปลี่ยนเป็นไม้บัลซ่าจากอีควาดอร์ เขาตกแต่งเหยื่อนั้นให้มีลักษณะคลายตัวปลา ใช้กระดาษ ตะกั่ว ทากาวทับติดตัวปลา ติดปากเพื่อให้เหยื่อมีแอคชั่นและเพื่อให้มองดูเหมือนปลาเหยื่อมากขึ้น เขาระบายสีเหยื่อปลอมตัวนี้ด้วยหมึกสีแบบเก่า เหยื่อปลอมตัวนั้นประสบความสำเร็จอย่างน่าตกใจ มันเกินความคาดหมายของเขาอย่างมาก กิติศัพท์เรื่องเหยื่อของเค้าล่ำลือไปจนทั่ว และเขาไม่ได้หวงแหนหรือเก็บงำไว้เป็นความลับส่วนตน เขาทำเหยื่อปลอมแบบตัวเก่งของเขา แจกจ่ายให้กับเพื่อนบ้านและเพื่อนคนหาปลาด้วยกัน สุดแล้วแต่ใครจะขอหรืออยากได้

rap005

ข่าวดีนั้นเดินทางเร็วในโลกของคนตกปลา มันแพร่ไปเร็วและกว้างยิ่งกว่าไฟใหม้ป่า
ความต้องการหลั่งใหลเข้ามา และราพาล่าเริ่มต้นขายเหยื่อปลอมของเขา

รัสเซียบุกเข้ายึดครองฟินด์แลนด์ในปี 1939

อะไรกำลังจะดี แต่มีอุปสรรคเข้ามาขวางให้โชคของคนยากจบสิ้นลงง่ายๆ รัสเซียบุกเข้ายึดครองฟินด์แลนด์ในปี 1939 และเขาต้องไปรับใช้กองทัพเป็นเวลาถึง 5 ปี กว่าเขาจะได้กลับคืนไปที่กระท่อมน้อยริมทะเลสาบของเขาอีก ในช่วงนั้นเอลมา เลี้ยงลูกชาย 5 คนและลูกสาว 2 คนให้มีชีวิตอยู่ได้โดยอาศัยการทำงานเล็กๆน้อยๆ และกู้ยืม เมื่อภาวะสงบกลับคืนมาและคนทั่วไปเริ่มมีเวลาว่าง กีฬาตกปลาก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในทวีปอเมริกาเหนือ ราพาล่าก็สามารถผลิตและขายเหยื่อปลอมของเขาได้มากขึ้น

กลางปี 1950 เหยื่อราพาล่าจึงได้ไปถึงอเมริกา

Advertisements

เขาส่งมันไปเป็นของขวัญแก่ชาวฟินด์แลนด์ซึ่งอยู่ในฟลอริดา และ แถบเหนือติดกับพรมแดนแคนาดาซึ่งกำลังบ้าตกปลาขนานใหญ่ และในมิเนโซต้าซึ่งเป็นทีๆ คนเชื้อสายจากชาวฟินด์แลนด์ตั้งรกรากกันอย่างหนาแน่น ชื่อของราพาล่าจึงอุบัติขึ้น ทั้งในฐานะความภาคภูมิใจแก่คนเหล่านั้นที่มีต่อราพาล่า

ในฐานะผู้สร้างเหยื่อตกปลาขั้นเทพ และเป็นเหยื่อปลอมมหัศจรรย์ที่สุด บางคนรีบกลับจากอเมริกาไปยังบ้านเกิดเมืองนอนเพื่อเอารางวัลการแข่งตกปลาที่ได้จากเหยื่อปลาปลอมของราพาล่า ไปให้เขาที่เป็นผู้ผลิตคิดค้นได้ร่วมชื่นชม ดูเหมือนว่าเหยื่อราพาล่าจะได้ปลาทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นปลาเทร้าท์ ปลาไพค์ หรือปลาแบส์ เป็นจำนวนมากมายอย่างที่ไม่เคยตกได้มาก่อน

เพราะว่ามันเป็นงานฝีมือ ทำด้วยมือล้วนๆ และหายาก

โรคบ้าเหยื่อราพาล่าเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเหยื่อราพาล่ามันเป็นเหยื่อน้ำหนักขนาดเบาอยู่ระหว่างปานกลาง ดังนั้นจึงใช้ได้กับคันขนาดเบาทุกประเภท แต่แปลกที่มันมีน้ำหนักเพียงพอให้ขว้างหรือหวดสายออกไปได้ ลากได้และไม่จม จึงเป็นที่ถูกใจของนักตกปลา เป็นเรื่องตลกที่เกิดมีการเล่าถึงเรื่องนักกีฬาตกปลาขโมยเหยื่อปลาปลอมจาก เพื่อนนักตกปลาด้วยกัน และยังมีอาชีพใหม่เกิดขึ้น

นั่นคือการให้เช่าเหยื่อปลอมราพาล่า ซึ่งบัดนี้ขนานนามกันว่าเป็นปรากฎการณ์ราพาล่าฟีเว่อร์ก็คงไม่ผิดนัก ผู้เช่าเหยื่อส่วนมากคือคนที่ได้ยินกิตติศัพท์แต่ไม่สามารถหาซื้อมาไว้เป็นเจ้าของได้ ต้องไปเช่าคนอื่นมาทดลองตก ของที่ถูกส่งข้ามประเทศมาในฐานะของขวัญ บัดนี้แอบขายให้กันตามเคาท์เตอร์สำหรับคนกันเอง เพราะมันมีเพียงจำนวนน้อย ในราคาตัวละ 25 เหรียญ ซึ่งในยุคนั้นเป็นราคาที่แพงเหมือนกับทอง

และแล้วก็มีคนหัวใสเกิดขึ้นมาจนได้ หมอนั่นเป็นพนักงานขายจอมจ้อชื่อ รอน เวบเบอร์ ในมินเนโซต้า ซึ่งได้ยินปรากฎการณ์ Rapala ฟีเว่อร์ อันพิลึกกึกกือนี้ รอน เวบเบอร์ จึงร่วมทุนร่วมความคิดกับเพื่อนที่ชื่อ เรย์ ออสตรอม เขียนจดหมายไปถึง ลัวรี่ ลาพาร่า ขอเป็นตัวแทนขายเหยื่อปลอมราพาล่าแต่เพียงผู้เดียวในทวีปอเมริกาเหนือ

rap001

หลังจากก่อตั้ง Normark

ไม่นานนัก เหยื่อ Rapala ก็ได้รับการตอมรับจากนักตกปลาจากทุกหนแห่ง ยอดจำหน่ายดีกว่าที่คาดหวังเอาไว้ แม้ว่าจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่มีน้ำหนักเบาเข้ามาในขณะนั้น แต่ Normark ค่อนข้างที่จะได้เปรียบในเรื่องของสื่อต่างๆ เพราะการที่ Weber และ Ostrom เป็นที่รู้จักและมีเพื่อนฝูงมากในทุกวงการในขณะนั้น

ไม่ว่าสื่อทางทีวี หรือโฆษณา ล้วนมุ่งเป้าเข้ามาที่พวกเขา การโปรโมทเหยื่อ Rapala จึงค่อนข้างง่าย มีการโฆษณาและประชาสัมพันธ์อยู่ตลอดเวลาและมีการถ่ายเป็นภาพยนตร์โฆษณาขนาดเล็กมากกว่า 12 ตอน เกี่ยวกับเหยื่อ Rapala และวิธีการใช้ตลอดจนการตกปลาจริงๆให้เห็นจากบรรดานักตกปลาจากทั่วทุกมุมโลกและสถานที่ตกปลาต่างๆ ทั่วไป

ในปี ค.ศ. 1961 นิตยสาร Life

Advertisements

นิตยสารยักษ์ใหญ่ที่สุดในขณะนั้นและเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก เกิดสนใจเกี่ยวกับเรื่องของเหยื่อ Rapalaจึงได้ส่งผู้สื่อข่าวและช่างภาพมายังฟินแลนด์ เพื่อที่จะทำการสัมภาษณ์ LauriRapalaและให้สัญญาว่าจะนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ Rapalaให้

rap006

วันเวลาผ่านไปจากสัปดาห์เป็นเดือนเรื่องของ Rapala ก็มีอันต้องเลื่อนตลอดยังไม่มีโอกาสได้ตีพิมพ์สืบเนื่องจากมีเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจกว่า จนในที่สุดเรื่องของ Lauri และเหยื่อของเขาก็ได้ตีพิมพ์ในนิตยสาร Life จนได้ ซึ่งในขณะนั้นข่าวคราวที่เป็นที่คึกโครมมากที่สุดที่ตีพิมพ์ลงในนิตยสารก็คือ

การตายของดาราฮอลลีวูดสุดเซ็กซี่ที่ชื่อ มาริลิน มอนโรว์ ในขณะเดียวกันเรื่องของ Rapala ถูกตีพิมพ์พร้อมไปด้วย โดยมีหัวข้อเล็กๆที่หน้าปกว่า เหยื่อตกปลาที่ปลาทุกตัวไม่ยอมปล่อยให้ผ่านเลย

หลังจากการที่เรื่องราวเกี่ยวกับ Lauri และเหยื่อ Rapala ได้ถูกตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Life ได้เพียงไม่นาน ก็เกิดอาการที่เรียกว่า RAPALA FEVER ผลสะท้อนกลับมามากมาย ไม่ว่าจะในอเมริกาหรือ Normark โทรศัพท์และจดหมายถูกส่งเข้ามาฉบับแล้วฉบับเล่า ทั้งสอบถามทั้งสั่งซื้อและสั่งจองเหยื่อของ Rapala

ความต้องการเป็นเจ้าของเหยื่อ Rapala เกิดขึ้นทุกหนแห่ง ตัวแทนจำหน่ายรายย่อย ร้านค้า ร้านอุปกรณ์กลางแจ้ง แค้มปิ้งตกปลาและอื่นๆ ล้วนมุ่งมาที่ Rapala จนดูเหมือนว่าเหยื่อที่มีอยู่อย่างจำกัดด้วยขั้นตอนการผลิตจะไม่มีวี่แววว่าจะเพียงพอต่อความต้องการเลย แน่นอนการเดินทางไปเยือนฟินแลนด์เป็นสิ่งที่ควรกระทำในขณะนั้นสำหรับคนที่ต้องการ Rapala Lure

Weber ยังจำได้เมื่อสมัยที่เขาเริ่มสนใจเหยื่อ Rapala และบอกกับ Lauri ทางจดหมายไปว่า “ผมมีความพร้อมและสนใจที่จะร่วมทำธุรกิจกับคุณ” เมื่อเริ่มทำจริงๆ เขาคิดเพียงว่ามันเป็นแค่งานขายสินค้าเล็กๆ น้อยๆเท่านั้น แต่เมื่อเหยื่อ Rapala เริ่มขายออกสู่ตลาดได้ไม่นาน เขาจึงรู้ว่าความต้องการเหยื่อ Rapala นั้น

ไม่ใช่แค่เพียงเล็กน้อยอย่างที่เขาคิด มันเริ่มทวีมากขึ้นทุกวันเฉพาะแค่เพียงชาวประมงในทวีปอเมริกาเหนือก็กว่า 25 ล้านคนแล้วที่ต้องการเหยื่อ Rapalaไปใช้ เขาจึงเริ่มเอาจริงเอาจังกับจำวนสินค้าและขั้นตอนการผลิตให้เพียงพอและคิดในใจว่า “ผมคงต้องไปพูดคุยกับ Lauri ที่ฟินแลนด์ ซะแล้ว”

Lauri เป็นคนที่มีบุคลิกเงียบขรึม ยิ้มน้อยๆ เหมือนคนขี้อาย ดูเหมือนคุณปู่ใจดีซักคน แต่งตัวเรียบง่ายธรรมดาๆสวมรองเท้าทำงานตลอด เหล่านี้บ่งบอกไปถึงความสุขุมเยือกเย็นในการทำงานและตัดสินใจทำอะไร Weber อธิบายถึงตัว Lauri ที่เขาพบครั้งแรกเสียงพูดของ Lauri เหมือนคนฟินแลนด์ที่ออกเสียงอยู่ในลำคอ

เมื่อพบกันหลังจากให้ล่ามอธิบายเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของ Weber ที่ว่า “สิ่งที่คุณสร้างขึ้นมา ล้วนช่วยพวกเราและคนอีกหลายคน” Lauri เพียงแต่ยิ้มและเชื้อเชิญให้พักที่บ้านเท่านั้น

Weber ได้พูดคุยและเสนอข้อเสนอต่างๆ แก่ Lauri ในเวลาต่อมา สิ่งหนึ่งที่ Lauri พูดออกมา หรอก ยังจะคนงานและเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ อีก” Weber จึงเสนอเงื่อนไขและข้อเสนอในลักษณะให้กู้เงินเพื่อทำการไถ่ถอนที่ดินคืนเป็นของ Lauri เพื่อจะเริ่มทำโรงงาน ภายใต้เงื่อนไขของการให้กู้ยืมเงินโดยไม่มีดอกเบี้ย จากการสัมผัสมือกันหลังจบสิ้นบทสนทนาและข้อตกลงต่างๆ ในครั้งนั้นธุรกิจก็เริ่มขึ้นอย่างจริงจังหลังจากนั้นสองปีการกู้ยืมก็จบลง

จากเวลานั้น ชายหนุ่มผู้เป็นนักขายและคนตกปลาชาวอเมริกัน กับเพื่อนชาวประมงนักประดิษฐ์ที่ซื่อสัตย์จากฟินแลนด์ ด้วยขนบธรรมเนียมและภาษาที่แตกต่าง แต่พวกเขาสองคนช่วยกันคิดและสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ที่เป็นที่รักของนักตกปลาทั่วโลก (Fishing Lure In The World )

จากตาเฒ่าขี้อายสู่มหาเศรษฐีผู้เป็นตำนาน

เมื่อเริ่มทำงานในรูปธุรกิจของครอบครัว Rapala ผลกระทบเกิดขึ้นในชุมชนที่พวกเขาอาศัยอยู่ทันที สิ่งแรกก็คือ Lauri ไม่เคยเป็นที่ยอมรับหรือนับถือจากคนในหมู่บ้านเท่าที่ควร ต่อมาก็คือไม่มีใครที่รู้เรื่องธุรกิจและการบริหารเลย แต่หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อเริ่มงานผลิตและปรึกษาหลายๆ เรื่องกับทาง Normark

พวกเขาก็เริ่มเรียนรู้และจับทางที่ถูกต้อง งานผลิตที่คล่องตัวและแน่นอนเงินและรายได้ที่เข้ามาก็ย่อมแน่นอนเช่นกัน Lauri เริ่มเป็นบุคคลที่มีฐานะดีในหมู่บ้านเป็นเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จ การดำเนินชีวิตดีขึ้นและเปลี่ยนแปลงไป และเขาก็ยังยิ้มแบบขี้อายเสมอที่มีใครทักเขาว่าเป็นเศรษฐี

เครื่องจักรสมัยใหม่เข้ามาแทนที่ในขั้นตอนการผลิตบางส่วน การผลิตเหยื่อออกสู่ตลาดค่อนข้างรวดเร็ว แต่ Lauri มักจะตรวจสอบเหยื่อทุกตัวก่อนที่จะบรรจุส่งออกสู่ตลาดเสมอ เขากล่าวว่า “เราต้องแน่นอนใจในเรื่องของขนาด ความยาวที่แน่นอน เพราะความไม่ละเอียดแค่เพียงเล็กน้อย จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวและแอคชั่นของเหยื่อ”

เพื่อให้แน่ใจว่าเหยื่อทุกตัวถูกสร้างขึ้นมาอย่างถูกต้อง Lauri สร้างแท้งค์บรรจุน้ำที่ปล่อยน้ำให้ไหลผ่านไป เพื่อเป็นที่ทดสอบเหยื่อทุกตัวของเขาว่าสมบูรณ์แบบจริงๆทั้งเรื่องการลอยตัว ดำน้ำหรือเคลื่อนไหว เช่น เหยื่อปลาที่ได้รับบาดเจ็บ

“พ่อไม่เคยอยากท่องเที่ยว” ริสโต้ ลูกชายคนโตเล่า
“พ่อเคยไปอเมริกาเพียงครั้งเดียว ไปอยู่แค่สองอาทิตย์และตลอดเวลาก็ตกปลาในทะเลสาบชายป่ามินเนโซต้า”

เอ็นซิโอ ลูกอีกคนบอกว่า “พ่อมีเงินติดตัวไม่มาก บางทีก็ไม่มีเลย ถ้าพ่อนั่งแท็กซี่กลับบ้าน พ่อก็จะบอกให้คนขับรถขับไปที่แบงค์ไปเอาเงินที่พ่อฝากอยู่”

ลูกคนเล็กชื่อ คัวโก้ ได้จมน้ำตาย

ในปี 1965 ลูกคนเล็กชื่อ คัวโก้ ได้จมน้ำตายในทะเลสาบซึ่งเขาเคยทดสอบเหยื่อปลอมอยู่เสมอ เรือที่นั่งไปชนสิ่งกีดขวางและเขาพลัดตกลงไปในน้ำ กว่าจะพบศพก็อีกอาทิตย์ถัดมา สิ่งที่ติดขึ้นมากับขากางเกงของหนุ่ม 26 ปีผู้เคราะห์ร้ายเป็นเหยื่อราพาล่าตัวหนึ่ง

โศกนาฏกรรมนั้นทำร้ายชายชราอย่างแสนสาหัส ริสโต้ บอกว่า “พ่อไม่เป็นอย่างเดิมอีกเลยตั้งแต่วันนั้น พ่อรู้สึกว่าสายน้ำซึ่งการุณพ่อมาตลอดชีวิต บัดนี้ได้ทวงหนี้ที่พ่อต้องชำระ นั่นคือชีวิตของ คัวโก้”

ชายชราดื่มอย่างหนักหลังการตายของลูกชาย โอนกิจการให้ลูก ไม่เคยมาสนใจใยดีว่ากิจการนั้นก้าวหน้ายิ่งใหญ่เพียงใด ร่างกายซึ่งครั้งหนึ่งเคยแข็งแกร่ง บัดนี้แห้งเหี่ยว ทรุดโทรม ไร้ซึ่งพละกำลัง ทั้งกายและใจ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ลัวรี่ ราพาล่า หมดลมหายใจลงในวันที่ 20 ตุลาคม 1974 มีทรัพย์สินส่วนตัวที่เหลือเพียง 27,000 เหรียญ เพราะนอกนั้นเขามอบให้กับลูกๆ และคนอื่นหมดสิ้นแล้ว

ศพลัวรี่ ถูกฝังไว้ใกล้ๆกับศพของคัวโก้ลูกชายที่เขารัก แต่ชื่อของเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไป เป็นอมตะนามเสมอในหมู่นักกีฬาตกปลา ตราบเท่าที่เหยื่อปลอมราพาล่ายังติดปลาทุกตัวขึ้นมาจากน่านน้ำและกระแสธาร ทั่วโลก…

แจกฟรีแคตตาล็อก Rapala 2020 กดเข้ามาโหลดได้เลย

ตกปลาด้วยเหยื่อ Rapala Risto Rap

 

Advertisements