นี่คือนกที่เตะทีเดียวถึงตาย มันขี้โมโหและอันตรายที่สุดในโลก

นกที่ได้ชื่อว่าอันตรายที่สุดในโลก คือ 'นกแคสโซแวรีใต้' (Southern Cassowary) มันคือหนึ่งในนกบินไม่ได้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยนกชนิดนี้นอกจากจะตัวใหญ่มากแล้ว มันยังนิสัยหงุดหงิด ก้าวร้าวมาก แถมตัวมันใหญ่ด้วย ..มีประวัติมนุษย์ถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตมาหลายครั้ง

นกอันตราย

นก “อันตรายที่สุดในโลก” แตะถึงตาย

Advertisements

นกที่อันตรายที่สุดในโลก ชื่อนี้ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะมันได้รับการบันทึกโดยบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ “Guinness World Records” อย่างเป็นทางการ โดยแคสโซแวรี โดยเฉพาะ “นกแคสโซแวรีใต้” (Southern cassowary) นับเป็นนกที่ได้ชื่อว่าอันตรายที่สุดในโลก

ด้วยความที่มันมีนิสัยขี้หงุดหงิด ก้าวร้าว มีโอกาสสูงมากที่มันจะโจมตีมนุษย์ และเมื่อจะทำร้ายผู้รุกรานจะใช้การกระโดดถีบอย่างรุนแรง จากกรงเล็บที่แหลมคมทำให้ได้รับแผลฉกรรจ์ มีมนุษย์ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต

นกแคสโซแวรีใต้ Southern cassowary (Casuarius casuarius)

“นกแคสโซแวรีใต้ เป็นนกแคสโซแวรีชนิดหนึ่ง เป็นนกแคสโซแวรีชนิดที่ใหญ่ที่สุด มีความสูงประมาณ 100 เซนติเมตร มีน้ำหนักประมาณ 85 กิโลกรัม มีลักษณะคล้ายกับเวโลซีแรปเตอร์ ไดโนเสาร์กินเนื้อที่สูญพันธุ์ไปแล้ว”

ตามข้อมูลนกแคสโซแวรีใต้ ถูกระบุว่ามี “กังวลน้อยที่สุด” ที่จะสูญพันธุ์ แต่จำนวนประชากรของนกชนิดนี้คาดว่ามีประมาณ 1,500-3,000 ตัว ในที่สถานที่เลี้ยง ในออสเตรเลียมี 40 ตัว นอกนั้นกระจายไปตามสวนสัตว์ต่างๆ ทั่วโลก สาเหตุสำคัญที่ทำให้จำนวนประชากรนกลดลง คือ การทำลายป่า โดยในช่วงศตวรรษที่ผ่านมาคาดว่ามีนกแคสโซแวรีหายไปถึงร้อยละ 50

มีจำนวนมากในออสเตรเลีย ..มีความเสี่ยงต่ำที่จะสูญพันธุ์ มันเป็นนกที่มีกรงเล็บที่ยาวถึงมี 3 นิ้ว แตกต่างไปจากนกกระจอกเทศที่มี 2 นิ้ว และทุกนิ้วมีกรงเล็บที่แหลมคม โดยเฉพาะนิ้วกลางที่ยาวที่สุด ซึ่งยาวได้ถึง 5 นิ้ว (12 เซนติเมตร) เป็นอาวุธที่ใช้เป็นเครื่องป้องกันตัวด้วยการกระโดดถีบ

มันเป็นนกที่กระโดดได้สูง 2 เมตร ถ้ามนุษย์โดนมันถีบส่วนใหญ่จะบาดเจ็บหนัก และนกตัวนี้สามารถวิ่งได้เร็วถึง 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แถมยังว่ายน้ำเก่งกว่าแชมป์โลกซะอีก

สุดท้ายต้องบอกว่านกชนิดนี้แม้จะดุร้ายและอันตราย แต่สถานะของมันก็น่าเป็นห่วง แม้มันจะเลี้ยงในสวยสัตว์ได้ แต่ไข่ของพวกมัน “ยากมาก” ที่จะฟักออกมาเป็นตัว ตามบันทึกสวนสัตว์ลอนดอนเลยพยายามฟักไข่เมื่อปี 1862 และ 1863 แต่ไม่มีลูกนกรอดชีวิตเลย จนถึงปี 1957 จึงมีรายงานความสำเร็จเป็นครั้งแรก …และแม้ถึงตอนนี้ก็ยังยากที่จะฟักไข่ของนกชนิดนี้ในสภาพกักขัง

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements