แมวตีนดำ (Black-footed cat) เป็นหนึ่งในสัตว์ตระกูลแมวที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก และเป็นแมวถิ่นเดียวที่พบในเขตแห้งแล้งทางตะวันตกเฉียงใต้ทวีปแอฟริกา จัดเป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์โดย IUCN เมื่อปี ค.ศ. 2002 อีกด้วย
แมวที่พบได้เฉพาะ เขตแห้งแล้งทางตะวันตกเฉียงใต้ทวีปแอฟริกา แมวตีนดำเป็นแมวขนาดเล็กมาก ตัวเมียหนัก 0.8-1.6 กิโลกรัม ตัวผู้หนัก 1.6-2.1 กิโลกรัม ความยาวลำตัวประมาณ 50 เซนติเมตร มีความสูงเพียง 25 เซนติเมตร เป็นแมวที่มีอีกฉายาคือ “เสือจอมปลวก” เพราะว่ามันชอบนอนในรังจอมปลวก
ทำไมจึงถูกเรียกว่า แมวอันตรายที่สุดในโลก
เพราะมันมีอัตราการล่าสำเร็จสูงที่สุดในสัตว์ตระกูลแมว มีรายงานจากการทดสอบและเฝ้าดูการล่าของแมวตีนดำในธรรมชาติ พบว่า แมวตีนดำ มีอัตราการล่าสำเร็จสูงถึง “60%” และรู้หรือไม่ว่า สิงโต มีอัตราการล่าสำเร็จเพียง “20-25%” แม้มันจะล่าเป็นฝูงก็ตาม
การล่าเหยื่อจำนวนมากของแมวตีนดำ
แมวตีนดำออกล่าเหยื่อในช่วงเวลากลางคืน และมันจะล่าเหยื่อตลอดเวลาในช่วงนั้น พวกมันมีเทคนิคการล่าที่ยอดเยี่ยม มันสามารถใช้เทคนิคการล่าที่แตกต่างกัน ทำให้เป็นนักล่าที่มีประสิทธิภาพมาก มันเร็ว มันสุ่ม และยังเงียบ
แมวตีนดำ มักจะเดินทางระยะไกล บางครั้งมันออกล่าไกลจากรังถึง 30 กิโลเมตร และระหว่างทางมันจะล่านก หรือสัตว์ฟันแทะ โดยในการล่าช่วงกลางคืน มันสามารถฆ่าเหยื่อได้ 10 – 14 ตัว โดยเฉลี่ยจะฆ่าทุกๆ 50 นาที มันจึงมีอัตราการล่าสำเร็จสูงถึง 60%
“ถ้าคุณเป็นละมั่งหรือสัตว์ป่าขนาดใหญ่ แมวตีนดำ อาจไม่ได้เป็นอันตรายมากนัก แต่อัตราความสำเร็จนี้ทำให้พวกมันกลายเป็นแมวตัวน้อยที่อันตรายที่สุดในโลก”
จริงๆ แล้วแมวตีนดำ จะกินอาหารในปริมาณน้ำหนักเท่ากับ 1 ใน 5 ของน้ำหนักตัว แต่เพราะมันคือแมว มันจึงไม่ได้ล่าเหยื่อเพียงเพื่อกินเท่านั้น นั้นเพราะแมวเป็นสัตว์ที่ล่าเพื่อความสนุกอีกด้วย ดังที่งานวิจัยแมวของสหรัฐ 1 ตัว จะฆ่าสัตว์ 232 ตัวต่อปี (แต่ใน 1 ปี แมวตีนดำจะล่าเหยื่อได้มากกว่าแมวในสหรัฐ 25 ตัวรวมกันซะอีก)
น้าๆ สามารถอ่านเรื่องเกี่ยวกับแมวอื่นๆ ได้จากลิงค์ท้ายเรื่องครับ ..ถ้าชอบเรื่องนี้ ก็อย่าลืมแชร์กันด้วยนะ