ตามบันทึกระบุว่าการการระบาดใหญ่เป็นช่วงรัฐบาลป๋าเปรม
มันเป็นช่วงราวๆ 30 กว่าปีก่อน ในตอนนั้นข่าวการมาถึงของตั๊กแตนปาทังก้า เป็นสิ่งที่รัฐบาลกังวลและเตรียมตัวรับมือกันมาก ซึ่งปกติแล้วในต่างประเทศจะใช้เครื่องพ่นไฟ หรือไม่ก็ยาฆ่าแมลง แน่นอนว่าตอนนั้น DDT ยังไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งถือเป็นอาวุธหนักในการฆ่าพวกตั๊กแตน
ซึ่งการระบาดของตั๊กแตนในตอนนั้นถือเรื่องใหญ่มากของทุกประเทศ และในไทยก็เช่นกัน โดยตั๊กแตนปาทังก้า ซึ่งเข้ามาจากทางกัมพูชา ผ่าน ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พวกมันมีจำนวนมากจนต้องประกาศเป็นเขตการระบาดแรกของตั๊กแตน และแผนกำจัดแมลงที่รัฐบาลจะใช้คือใช้เครื่องบินเพื่อพ่นยาฆ่าแมลง
แต่ดูเหมือนแผนที่เตรียมไว้จะใช้ได้ไม่ค่อยดี และจำเป็นต้องยกเลิกไป เนื่องจากมีเสียงร้องเรียนจากเกษตรกรและชาวบ้าน พวกเขาขอให้ระงับการใช้ยาฆ่าแมลงปราบตั๊กแตน เพราะตั๊กแตนพวกนี้แพงกว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ซะอีก
ซึ่งในยุคนั้น แม้ตั๊กแตนปาทังก้าจะระบาด สร้างความเสียหายให้กับพืชผัก แต่ก็ถูกจับขายสร้างมูลค่าได้มากเช่นกัน พวกมันทำให้เกิดรถเข็นแผงลอยที่คอยทอดตั๊กแตนขายริมถนน
ในตอนนั้นผมจำได้เลยว่า แม้จะอยู่กลางเมืองอย่างตลาดคลองเตย แต่มองไปทางไหนก็เจอตั๊กแตนปาทังก้าเกาะอยู่เกือบทุกที่ นั่งกินโจ๊กไปนั่งมองพ่อค้าทอดตั๊กแตนไป เรียกว่าอยากเอามันมากินกับโจ๊ก แทนปาท่องโก๋เลยทีเดียว
แต่แล้วเราขุดรากถอนโคนตั๊กแตนยักษ์พวกนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ หรือตั้งใจกันนะ?
เรื่องมีอยู่ว่าพอตั๊กแตนระบาดอยู่สักพักนึง พวกมันเริ่มน้อยลงๆ ชาวบ้านก็พบว่าแม้ตัวตั๊กแตนจะได้ราคาดี แต่ไข่ของมันราคาดีกว่าซะอีก
แถมชาวบ้านก็รู้ว่าตั๊กแตนจะวางไข่ใต้ดิน พวกมันจะรอฟักเป็นตัวเมื่อถึงหน้าฝน และไข่ก็ราคาแพง จึงทำให้ชาวบ้านเริ่มขุดไข่ตั๊กแตนมาขาย เลยกลายเป็นการขุดรากถอนโคนตั๊กแตนปาทังก้าในธรรมชาติ ที่ระบาดในไทยกันไปเลย
สรุปเรื่องนี้ซะหน่อย …จริงๆ ไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าตั๊กแตนปาทังก้า ระบาดอยู่ในไทยนานแค่ไหน แต่พวกมันทั้งหมดมาจบชีวิตที่ไทย แถมยังไม่สามารถขยายพันธุ์ต่อเหมือนที่ทำในประเทศอื่นอีกด้วย เพราะโดนขุดแม้แต่ไข่ขึ้นมาขายกัน และจนถึงตอนนี้ตั๊กแตนปาทังก้าเกือบทั้งหมดในไทยเป็นตั๊กแตนที่เพาะเลี้ยงขึ้นมา และแม้จะพบพวกมันได้ในธรรมชาติอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงระดับอันตราย
สำหรับฝูงตั๊กแตนที่ระบาดฝูงล่าสุดมีขนาดใหญ่มาก เป็นครั้งที่นานาชาติเรียกร้องให้ช่วยกันจัดการ แต่ก็เอาไม่อยู่ พวกมันระบาดอยู่ในต่างประเทศ ที่โดนหนักดูเหมือนจะเป็นแอฟริกา และอินเดีย พวกตั๊กแตนเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ประเทศเพื่อนบ้านของเราเรื่อยๆ ซึ่งตั้งแต่ปี 2563 – 2564 มีการประเมินว่าพวกมันเพิ่มจำนวนจากเดิม 500 – 1000 เท่า .. แต่สุดท้ายพวกมันก็มาไม่ถึงไทย ทำเอาชาวไทยที่รอการมาของพวกมัน ต้องผิดหวังกันไป แน่นอนว่าเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนา ไม่ชอบที่จะเห็นตั๊กแตนพวกนี้
