เรื่องราวของ ‘Kazuko Higa’ หญิงญี่ปุ่น 1 คน และชาย 31 คน บนเกาะร้าง 7 ปี

จะเป็นอย่างไรถ้าคุณเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เหลืออยู่ และทั้งหมดที่เหลือเป็นผู้ชาย? แถมยังหนีไปไหนไม่ได้ด้วย ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าแย่สุดๆ แต่เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นจริง มันเป็นเรื่องของหญิงชาวญีปุ่นชื่อ คาซูโกะ ฮิกะ (Kazuko Higa) ที่ต้องติดอยู่บนเกาะกลางมหาสมุทร กับผู้ชายกว่า 30 คน ...และนี่เป็นเรื่องราวทั้งหมดของเธอ ...ถ้าดูแล้วชอบก็อย่าลืมกดติดตาม กดกระดิ่ง หรือหากต้องการสมัครสมาชิกก็ทำได้เช่นกัน

จุดเริ่มต้นเรื่องราว

Advertisements

ในช่วงปี พ.ศ.2442 (1899) ชาวสเปนได้ขายเกาะอนาธาฮาน (Anatahan Islands) ให้กับชาวเยอรมันคนหนึ่ง ซึ่งต่อมาเขาได้ขายเกาะแห่งนี้ให้กับชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1

หลังจากนั้นชาวญี่ปุ่น ก็คิดที่จะปรับปรุงสวนมะพร้าวบนเกาะ เขาจึงส่ง คิกุอิจิโร (Kikuichiro) ไปดูแลสวนมะพร้าวบนเกาะ และต้องควบคุมคนงานที่เป็นชาวชามอร์โร (Chamorro) จำนวน 45 คน

Anatahan คือเกาะแห่งหนึ่งที่อยู่ทางตอนเหนือของหมู่เกาะ Mariana

จากนั้นคิกุอิจิโร ได้มอบหมายให้ โชอิจิ ฮิกะ (Shoichi) มาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ โดยโชอิจิได้เดินทางไปพร้อมกับ คาซูโกะ ซึ่งเป็นภรรยาวัย 28 ปี ของเขา และมันก็เป็นช่วงก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 และเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มต้น เกาะอนาธาฮานก็ยังไม่ได้รับผลกระทบอะไร

ต่อมาโชอิจิ ห่วงความเป็นอยู่ของน้องสาวที่อยู่บนเกาะไซปัน (Saipan Islands) ซึ่งไกลออกไปประมาณ 120 กิโลเมตร เขาจึงขออนุญาตเจ้านาย เพื่อเดินทางกลับไปเยี่ยมน้องสาว พร้อมกับสัญญาว่าจะรีบไปรีบกลับมาภายในหนึ่งเดือน แต่แล้วเขาก็ไม่เคยกลับมาที่เกาะแห่งนี้อีกเลย

วันที่คาซูโกะต้องอยู่คนเดียว

หลังจากสามีของเธอออกจากเกาะ จึงทำให้คาซูโกะต้องอยู่ตามลำพังเป็นเวลานาน ต่อมาเธอจำเป็นต้องแต่งงานกับคิกุอิจิโร ซึ่งเป็นเจ้านายของสามีเธอ

จนวันหนึ่งในช่วงเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2487 (1944) เรือรบญี่ปุ่นจำนวน 3 ลำ ถูกเครื่องบินทิ้งระเบิดจนอับปาง และเรือทั้ง 3 ลำจมอยู่ไม่ห่างจากเกาะมากนัก ทำให้ทหารญี่ปุ่นกว่า 30 คน ว่ายน้ำขึ้นมาบนเกาะได้สำเร็จ …ทุกคนต่างได้รับการต้อนรับจากคิกุอิจิโร ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของเกาะ กับคาซูโกะซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวบนเกาะแห่งนี้

วันที่ทหารญี่ปุ่นขึ้นมาตั้งฐาน

หลังจากที่ทหารญี่ปุ่นขึ้นมาอยู่บนเกาะ พวกเขาต่างดำรงชีพกันอย่างสุขสบาย นั้นเพราะบนเกาะเต็มไปด้วยผลไม้ท้องถิ่น ผักและสัตว์ต่างๆ อยู่มาวันหนึ่งในปี พ.ศ.2488 (1945) เครื่องบินทิ้งระเบิดสหรัฐ B-29 เกิดตกลงบนเกาะแห่งนี้ ผู้คนที่อยู่บนเกาะจึงได้เศษวัสดุจากซากเครื่องบิน นำไปทำหม้อต้มอาหาร จานชาม กะทะ มีด ที่กำบัง และทำเสื้อผ้าจากร่มชูชีพที่ไม่ใช้แล้ว รวมทั้งยังได้รวบรวมอาวุธ ที่ยังใช้ได้จากซากเครื่องบิน

ในเดือนกุมภาพันธ์ปี พ.ศ.2488 (1945) ชาวชามอร์โร จากเกาะใกล้เคียงได้รับมอบหมายจากกองทัพสหรัฐ ให้ไปค้นหาศพนักบินจากเครื่องบินทิ้งระเบิด B-29 พร้อมกับอพยพคนงานทำสวนมะพร้าวออกจากเกาะ หลังจากที่ชาวชามอร์โรกลับไป พวกเขาได้รายงานกับกองทัพสหรัฐว่า มีค่ายทหารญี่ปุ่นตั้งอยู่บนเกาะ โดยมีผู้ชาย 31 คน กับผู้หญิงอีก 1 คน

คนบนเกาะไม่เชื่อว่าสงครามจบแล้ว

Advertisements

ในเดือนสิงหาคมปี พ.ศ.2488 (1945) ประเทศญี่ปุ่นประกาศยอมจำนน เครื่องบินสหรัฐจึงได้ทิ้งใบปลิวจำนวนมาก บนเกาะอนาธาฮาน เพื่อแจ้งข่าวว่าสงครามสิ้นสุดลงแล้ว แต่! ทหารญี่ปุ่นกลับคิดว่าเป็นกลอุบายของสหรัฐ จึงพร้อมจะสู้รบต่อไป ซึ่งพวกเขายังมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ยังหลงเหลืออยู่พอสมควร เนื่องจากเก็บมาจากซากเครื่องบินทิ้งระเบิด B-29 ที่ตกลงบนเกาะแห่งนี้

ในปี พ.ศ.2489 (1946) คิกุอิจิโรซึ่งเป็นเจ้าของเกาะล่มป่วยและตายจากไป หลังจากนั้นคาซูโกะ จึงขึ้นดำรงตำแหน่งแทนสามีของเธอ ในฐานะผู้นำบนเกาะ และแม้ว่าเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงที่จัดว่างดงาม แต่เธอก็ยังเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวบนเกาะแห่งนี้ จึงกลายเป็นที่หลงใหลและปรารถนาของทหารญี่ปุ่นอีกหลายคน เธอจึงมีค่ายิ่งกว่าพวกอาวุธซะอีก

ความตายจากศึกชิงนาง

ผู้กองอิชิดะ ซึ่งมียศสูงสุดในบรรดาทหารญี่ปุ่น จึงตัดสินใจยุติการชิงดีชิงเด่นของเหล่าผู้ชาย ด้วยการให้คาซูโกะแต่งงานกับทหารญี่ปุ่นคนหนึ่ง แต่แล้วสามีใหม่ของเธอกลับจมน้ำตายอย่างไม่ทราบสาเหตุ หลังจากที่เพิ่งจะแต่งงานกับเธอได้ไม่นานนัก ดังนั้นคาซูโกะจึงมีสามีใหม่อีกไม่น้อยกว่า 4 คน เพราะสามีของเธอแต่ละคนต่างตายจากสาเหตุการแก้แค้นกันอย่างบ้าคลั่ง

นั้นเพราะพวกผู้ชายที่มีสัญชาติญาณทางเพศ ที่อยากจะเป็นจ่าฝูงเล็กๆ บนเกาะแห่งนี้ ทำให้มีการฆ่ากันตายรวมทั้งสิ้น 11 คน มีศพทหารญี่ปุ่นรายหนึ่งถูกแทงถึง 13 แผล เพราะเหตุหึงหวงในศึกศึกชิงนาง

ถึงเวลาที่คาซูโกะหนีกลับบ้าน

ในเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ.2493 (1950) ทหารญี่ปุ่นที่เหลืออยู่ ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าคาซูโกะ คือต้นเหตุขอเรื่องเลวร้ายที่ผ่านมาทั้งหมดนี้ จึงตกลงกันว่า จะฆ่าเธอทิ้งเสียเพื่อให้จบเรื่องจบราวนี้ไป

แต่มีทหารคนหนึ่งแอบมากระซิบบอกเธอ ทำให้เธอหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในส่วนลึกของเกาะ แต่หลังจากที่เธอซ่อนตัวอยู่ไม่กี่สัปดาห์ เธอก็ได้กลับญี่ปุ่น เนื่องจากเธอได้โบกธงขอความช่วยเหลือ จากเรือรบสหรัฐที่ลาดตระเวณตรวจตราบริเวณหมู่เกาะมาเรียนา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเกาะที่เธออยู่

เมื่อถึงญี่ปุ่นแล้ว คาซูโกะได้เดินทางท่องเที่ยวไปตามเมืองต่างๆ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองที่รอดตายกลับมาได้ แล้วเธอก็เที่ยวบอกเล่าเรื่องราวของเธอ ที่ได้เป็นราชินีแห่งอนาธาฮาน แต่แล้วต่อมาเรื่องราวของเธอก็เริ่มจืดชืดลง และไม่มีอะไรที่แปลกประหลาดพิศดารอีกต่อไปแล้ว

เธอจึงกลับไปยังบ้านเกิดที่โอกินาว่า แล้วเธอก็ได้ไปพบกับโชอิจิ ซึ่งเป็นสามีคนแรกที่ออกจากเกาะแล้วไม่กลับมา ทั้งคู่จึงหวนกลับมาแต่งงานกันใหม่อีกครั้ง หลังจากนั้นเรื่องราวข่าวคราวของเธอก็ค่อยๆ เลือนหายไป จนสุดท้ายคาซูโกะก็กลายเป็นคนที่ไร้ชื่อเสียง และเธอก็ตาย ในช่วงต้นปี พ.ศ.2513 (1970) … และนี่คือเรื่องราวของคาซูโกะ ฮิกะ (Kazuko Higa)

สำหรับเรื่องราวของคาซูโกะกับทหารญี่ปุ่น มีการเรียบเรียงบอกเล่าไว้ในหนังสือและภาพยนตร์หลายครั้ง ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่กำกับโดย โจเซฟ ฟอน สเติร์นเบิร์ก (Josef von Sternberg) ได้บรรยายภาพของผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์และมีเสน่ห์ ที่ต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว บนเกาะที่เต็มไปด้วยทหารญี่ปุ่น ซึ่งทุกคนต่างก็ต้องการตัวเธอ แต่ถึงอย่างงั้น เรื่องราวที่เล่ามาทั้งหมดนี้ ก็มาจากปากคำขอเธอเท่านั้น มันจะเป็นเรื่องจริงทั้งหมดหรือไม่? คงจะมีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ที่ดีที่สุด

สำหรับเกาะอนาธาฮาน มีความยาว 9 กิโลเมตร กว้าง 4 กิโลเมตร เป็นเกาะที่อยู่ในหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนาในมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นเกาะที่มีภูเขาไฟ ซึ่งเกิดการปะทุมากที่สุดแห่งหนึ่ง และแม้ว่าเกาะแห่งนี้จะเคยมีคนอาศัยอยู่ แต่ปัจจุบันไม่มีผู้คนอาศัย เนื่องจากอันตรายจากการปะทุของภูเขาไฟ และหลังจากจบสงครามโลกครั้งที่ 2 เกาะแห่งนี้ก็ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐอเมริกา

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements
Advertisements