ตอนที่ 3 ผจญภัยในป่าใหญ่ : ปืนแก๊ป

เสียงน้ำค้างจากหลังคาหยดลงบนกองใบพลวงพุๆ ดังเปาะแปะ อากาศยามเช้าเย็นยะเยือก และปะปนไปกับสายหมอกจางๆ เสียงนกป่านานาชนิด พากันส่งเสียงร้องเจี๊ยวจ๊าว จากยอดต้นไทรบนเขา ซึ่งตอนนี้ถูกบดบังด้วยหมอกที่หนาทึบ ไกลออกไป เสียงไก่ป่าขันเจื้อยแจ้ว

เช้านี้อากาศสดใสจนสิงห์ ไม่อยากจะลุกจากเปล เขานอนบิดแขนไปมาสองสามครั้งแล้ว หันไปดูเสียงที่ดังจากในครัวก็เห็นที่มาของเสียง คือพรานเบ ซึ่งตอนนี้กำลังตั้งหม้อหุงข้าวบนเตาฟืนที่มีควันคุกรุ่นอยู่จางๆ เมื่อมองถัดออกไปคือเจ้าเคิ้งที่กำลังลำเลียงถ้วยจานไปล้างอยู่ที่ริมห้วยด้านล่างกับลุงโส่ย

ตื่นแล้วหรือสิงห์ เป็นยังไงหนาวหรือเปล่า เมื่อคืนนอนหลับสบายไหม พรานเบร้องทักเมื่อเห็นสิงห์กำลังลุกขึ้นจากเปล

นอนหลับเป็นตายเลยน้าเบ อากาศเย็นสบายดีจัง ดีนะที่ผมเอาถุงนอนมาด้วย ถ้าลืมเอามาสงสัยได้ไปนอนขดข้างกองไฟแบบไอ้พะเปรียวเขาพูดพรางเก็บพับเปลไปด้วย

ไอ้พุ่มมันไปไหนหรือน้าเบ ไม่เห็นมันเลยสงสัยไปหายิงไก่ ปืนแก๊ปที่แขวนไว้ที่หัวเสาก็ไม่อยู่ สิงห์ร้องถามถึงพุ่ม

เออ…มันไปยิงไก่ป่านั้นล่ะ ออกไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปิดแล้ว ช่วงนี้ไก่ป่ามันชุม แต่มันเปรียวไปหน่อย ไม่ต้องไปไกลก็พอได้ตัว เห็นมันว่าจะไปนั่งเฝ้าแถวๆต้นไทรโน่นพรานเบชี้ให้สิงห์ดูตำแหน่งที่เจ้าพุ่มไปซุ่มยิงไก่ป่า

ปัดโถ…แล้วทำไมไม่ปลุกผม ลูกไทรสุกแบบนี้นกเขาเปล้าไม่ลงเป็นฝูงหรือน้าเบ ไอ้เราก็อุตสาห์แบกลูกกรดมาจนไหล่แถบหลุด น่าเสียดาย อย่างน้อยๆก็เอาปืนผมไปก็ยังดีสิงห์ยืนบ่นอยู่ที่ระเบียงกระท่อม ตาก็จ้องไปที่ตำแหน่งที่พรานเบชี้ให้ดู ซึ่งตอนนี้มีเสียงนกป่านาๆชนิดร้องแก๊กก๊าก เต็มไปหมด

มันเห็นเอ็งหลับอยู่ ก็ไม่อยากปลุกเอ็งล่ะสิงห์ คนกำลังหลับสบายๆ ใครเขาอยากจะปลุก ส่วนปืนมันคงไม่กล้าเอาไปโดยไม่เอ่ยปากขอ ไอ้พุ่มมันเกรงใจเอ็งพูดจบพรานเบก็เดินไปคนข้าว ที่กำลังเดือดอยู่ แล้วพูดเสริมมาอีกว่า

แค่มันเห็นเอ็งมาเที่ยว มันก็ดีใจแล้ว ไม่ใช่แต่ไอ้พุ่มคนเดียวที่ดีใจ พวกข้าทุกคนก็ดีใจที่เอ็งกลับมาเที่ยวหาอีกพรานเบพูดจบก็ยกหม้อข้าวที่มีไม้ไผ่ขัดกับฝาหม้อ แล้วยกลงรินน้ำข้าวลงในหม้ออีกใบที่แลดูบุบๆบี้ๆ จนควันคลุกลุ่นส่งกลิ่นหอมฉุยไปทั้งกระท่อม

แหม…น้าเบพูดซะผมเขินเลย เรามันก็เหมือนญาติพี่น้องกันหมดล่ะ ผมก็ดีใจที่เราได้พบกันอีก ถึงเราจะรู้จักกันมาไม่กี่ปี แต่ทุกคนก็เหมือนครอบครัวของผม พูดจบสิงห์ก็เดินไปหยิบถุงสบู่กับขันน้ำ เพื่อเตรียมไปล้างหน้าล้างตาที่ริมห้วยหลังกระท่อม โดยที่ไหล่ซ้ายมีผ้าขนหนูผืนเล็กอีกผืนพาดอยู่

อากาศดีจริงๆเลยลุงโส่ย ผมชักไม่อยากกลับไปทำงานแล้วสิงห์ร้องทักพรานเฒ่าที่กำลังเดินสวนทางมากับเคิ้ง

จะไปยากอะไร เอ็งก็มาอยู่นี่เสียเลย ดีเสียอีกข้าจะได้มีเพื่อนกินเหล้า ฮาๆ ลุงโส่ยหัวเราะชอบใจจนเห็นฟันดำปี๋

หาเมียกะเหรี่ยงสวยๆสักคนสองคนก็ดีนะ พี่สิงห์จะได้ไม่เหงา ในหมู่บ้านสาวๆสวยๆเยอะแยะไป เดี๋ยวผมติดต่อให้ เคิ้งสอดมาอีกคน

เออเอ็งรีบเอาจานไปเก็บเถอะ ก่อนที่เอ็งจะโดนข้าเตะ สิงห์ทำท่ายกขาจะเตะ จนเคิ้งโดดหลบ แต่สิ่งที่ทำไม่ได้ตั้งใจหรือจงใจอะไร แค่เป็นการหยอกล้อกันเล่นธรรมดา

ที่ลำห้วยน้ำใส จนมองเห็นฝูงปลาเล็กปลาน้อย ที่มารุมกินเศษอาหาร ที่เคิ้งและลุงโส่ยเอาจานชามมาล้างเมื่อสักพัก สิงห์มองสำรวจไปทั่ว ที่แห่งนี้เขาเคยมาเมื่อนานมาแล้ว ทุกสิ่งที่เคยเห็นมีการเปลี่ยนแปลงไปไม่มากนัก ระดับน้ำในลำห้วยยังคงอยู่ในระดับปกติ เหมือนครั้งที่แล้ว

ผิดจากต้นไม้พวกบอนป่าฝั่งตรงข้ามซึ่ง เมื่อก่อนมีอยู่ไม่กี่กอ แต่ตอนนี้มันแตกใบแตกหน่อจนแน่นไปหมด หลายยอดมีรอยกัดแทะจากแมลง หลายยอดก็ถูกกัดกินไปทั้งยอดจนกุด สิงห์เลือกที่เหมาะๆสำหรับล้างหน้าล้างตา ได้ตรงโขดหินใหญ่เรียบก้อนหนึ่ง เหนือบริเวณที่ สองพ่อลูกลงมาล้างจาน ประมาณสองวา เขาเอาผ้าขนหนูไปแขวนไว้กับกิ่งไม้แห้งท่อนหนึ่ง ซึ่งต้นของมันล้มตายอยู่ใกล้ๆห้วยนั้น น้ำใสไหลเย็นยะเยือกกระทบกับผิวหน้าของเขาจนชา แต่ไม่นานมันก็รู้สึกสดชื่น

กลับมาที่กระท่อม ข้าวในหม้อกำลังถูกดงด้วยไฟอ่อนๆจนระอุ ส่วนด้านล่างตรงลานที่ก่อไฟเมื่อคืน มีกาน้ำที่กำลังเดือดบนกองไฟกองเล็กๆ สิงห์เขาไปรื้อหาของในเป้อยู่สักพัก ก็หยิบซองใส่กาแฟออกมาสี่ห้าซอง เสร็จแล้วตัวเองฉีกกาแฟใส่แก้วที่ทำจากกระบอกไม้ไผ่ จากนั้นก็เดินไปเทน้ำร้อนจากกาที่กำลังเดือดได้ที่ กาแฟร้อนถูกชงจนหอมไปทั่ว เขานั่งห้อยขาบนระเบียงบ้านจิบกาแฟไปพลาง

น้าเบ ลุงโส่ยกาแฟผมเอามาหลายซอง เอาไปแบ่งกันกินนะ เคิ้งถ้าจะกินก็หยิบไปเลย ไม่ต้องมาเกรงใจ สิงห์พูดพร้อมชี้มือให้เคิ้งดูตำแหน่งที่วางซองกาแฟ

ครับพี่ เดี๋ยวผมชงให้พ่อกับน้าเบก่อน ผมยังไม่ค่อยอยากเท่าไหร่เคิ้งพูด แล้วเดินไปหยิบแก้วที่ทำจากกระบอกไม้ไผ่ ที่เหน็บไว้ข้าวฝาในครัว

ปั้ง..

นั้นไง ไอ้พุ่มล่ออะไรเข้าแล้ว สงสัยจะไก่ป่า ลุงโส่ยพูดพร้อมหันไปมองที่มาของเสียง

โอ้โห..ลุงโส่ย ฟังรู้ด้วยหรือว่าได้ตัวหรือไม่ได้ตัว สิงห์ร้องแซว

เอ็งเชื่อข้าซิ โดนนะโดนแน่ และคิดว่าได้ตัวด้วย แต่ไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไร แกพูดแล้วเอื้อมมือไปหยิบแก้วกาแฟจากลูกชาย

มันฟังยังไงลุง ถึงรู้ว่าคนที่ยิง ยิงโดนหรือไม่โดนสัตว์ สิงห์ออกอาการสงสัย

ง่ายๆ ถ้าเป็นปืนแก๊ปนะ เวลายิงมันจะดัง แบบหลวมๆ ถ้าไม่ถูกอะไรเลย แต่ถ้าถูกมันจะดังออกหนักๆ ส่วนปืนลูกซอง ก็แบบเดียวกับปืนแก๊ป แต่มันจะดังแน่นกว่า ส่วนปืนลูกกรด มันจะดัง เปรี๊ยะ.. พูดจบแกก็ยกกาแฟขึ้นซด

ลุงโส่ยเก่งไม่เบา มาคราวนี้ผมได้ความรู้เยอะเลย อ้าวนั้น นกเขาเปล้าบินมาเกาะบนยอดต้นนุ่นนี้นา สิงห์ชี้ให้ดู

พี่สิงห์ เอาลูกกรดสอยเลยพี่ ระยะนี้ไม่น่าพลาดเคิ้งร้องบอก แต่สิงห์ก็ไม่ทันลุงโส่ย เพราะแกไปหยิบปืนของสิงห์ตั้งแต่มือไหร่ไม่มีใครรู้ พอปลดเซฟปืนได้ ก็พาดเล็งกับเสากระท่อมทันที ก่อนแกเหนี่ยวไก ยังพูดขึ้นอีกว่า

เอ็งเตรียมวิ่งไปเก็บได้เลยไอ้เคิ้ง เดี๋ยวข้าจะสอยมาให้ไอ้สิงห์ย่างเกลือพูดจบแกก็เหนี่ยวไกทันที หลังจากเล็งอยู่นาน

เปรี๊ยะ..
สิ้นเสียงปืน ที่ดังออกไป แต่เป้าที่แกเล็งไม่มีอาการสั่นไหวแต่อย่างใด แต่มันกลับทำท่าพองขนจนฟู ก่อนจะขี้แล้วบินหนีไป เล่นเอาสิงห์หัวเราะก๊าก

ไหนลุง นกเขาเปล้าย่างเกลือของผม หมดกันดีมันไม่ขี้ใส่หน้าลุง ฮาๆสิงห์หัวเราะชอบใจ

ดีแต่โม้พ่อ เสียชื่อหมด ฮาๆเคิ้งเสริมมาอีกแรง

มันน่าเจ็บใจนัก ไอ้นกเวร หนอยเล่นกูเสียหน้า สงสัยตั้งศูนย์ ไม่ค่อยดี แกพรานศูนย์ปืน

สงสัยจะจริงลุงโส่ย ผมลืมตั้งศูนย์ปืนไว้ ไหนเอามาให้ผมตั้งใหม่สิ สิงห์แกล้งพูดแก้เขิน ให้พรานเฒ่า
เขากำลังปรับแต่งศูนย์ปืน ให้ได้ระยะที่ต้องการ ยังไม่ทันยกเล็ง นกเขาเปล้าบินมาจากทางไหน ไม่มีใครรู้ มันบินมาเกาะที่ปลายกิ่งนุ่นต้นเดิม แต่อยู่ถัดออกไปอีกประมาณวากว่าๆ โดยไม่ต้องมีใครบอก เขารีบกระชากลูกเลื่อนเพื่อเอาปลอกลูกปืนเก่าออก แล้วดันลูกใหม่เข้าไปในรังเพลิงแทน ก่อนจะยกขึ้นเล็ง โดยพาดปืนคู่ใจที่เสากระท่อม ในท่านั่งห้อยขา เขาเล็งอยู่อึดใจ ก่อนที่จะลั่นไกออกไป

เปรี้ยง..
เสียงปืนลูกกรดดังพร้อมๆกับ นกเขาเปล้าที่เกาะบนปลายกิ่งนุ่นนั้น ห่อปีกหมุนควงตกลงมาทันที ติดตามด้วยกะเหรี่ยงดง คือเจ้าเคิ้งวิ่งไปที่โคนต้นนุ่นที่เต็มไปด้วยต้นสาบเสือ ไม่นานนักหลังจากเดินมุดซุ้มสาบเสืออยู่หลายรอบ เคิ้งก็เดินยิ้มแป้นออกมา พร้อมชูผลงานที่สิงห์ยิงได้ให้ดู

มันต้องแบบพี่สิงห์สิพ่อ ถึงจะได้เอามาย่างเกลือ เห็นไหมกลางอกพอดีเลยเคิ้งยังไม่วายแซวลุงโส่ย

ถ้าศูนย์ปืนมันตั้งมาแล้ว อย่างตะกี้ ข้าก็ไม่พลาดหรอกเว้ย ไอ้เคิ้ง พรานเฒ่ายังไม่เลิกบ่น แต่ก็คว้านกเขาเปล้าจากมือลูกชาย ไปนั่งถอนขนอยู่ข้างๆกองไฟหน้าลานกระท่อม ยังไม่ทันจะถอนเสร็จ ก็ได้ยินเสียงปืน ดัง ปัง ที่ตำแหน่งเดิมคือต้นไทรบนเขา ซึ่งตอนนี้พอจะมองเห็นเพราะหมอกเริ่มจางลงไปมากแล้ว เสียงปืนที่ดังกึกก้อง ไปทั้งหุบ ทำให้นกหลากหลายชนิดที่มากินลูกไทร พากันแตกฮือไปคนละทิศคนละทาง พอเงียบไปสักไม่กี่นาที ฝูงนกที่บินไปก็พากันบินวนเวียนแถวๆต้นไทรต้นนั้นอีก อึดใจต่อมา ก็มีเสียงปืนดังขึ้นอีก และเช่นเดียวกับครั้งแรก พอเสียงปืนดังฝูงนกก็บินแตกฮือ เป็นเช่นนี้ถึงสี่ครั้ง ที่เสียงปืนดังขึ้น

สงสัยไอ้พุ่มคงยิงนกแล้ว พรานเบพูดออกมา หลังจากเงียบอยู่นาน

น่าจะจริงอย่าน้าเบว่า นัดแรกคงจะยิงตัวอะไรสักอย่าง แต่สามนัดหลังนี้ สงสัยจะยิงนก สิงห์เห็นด้วยกับพรานเบ ที่ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ในครัวดังกรุกกรัก

แล้วน้าเบกำลังทำอะไร เขาสงสัยเมื่อเห็นพรานคู่ใจกำลังจัดแจงตั้งกระทะลงบนเตาไฟ

ข้าว่าจะคั่วพริกนี้สักหน่อย จะทำน้ำพริกแห้งเอาไว้กินในป่าพูดจบก็เอาพริกแห้งหน้าตาเหมือนพริกขี้นก แต่มีรสชาติเผ็ดกว่ามาก ใส่ลงไปในกระทะที่ตั้งไฟอ่อนๆได้ที่ เท่านั้นยังไม่พอ พรานเบก็ดึงหัวหอมแดง และหัวกระเทียม ที่แขวนอยู่ในครัวออกมาอย่างละเจ็ดแปดหัว เสร็จแล้วแกก็โยนมันลงไปใต้เตาถ่าน ที่ด้านบนมีกระทะที่กำลังคั่วพริก จนควันโขมง เล่นเอาจามกันไปทั้งกระท่อม

พรานเบร้องบอกเคิ้งให้ไปตัดใบตองป่า ที่มีอยู่เป็นดงตรงริมห้วย ไม่ถึงอึดใจเคิ้งก็ถือใบตอง แล้วส่งให้พรานเบด้านหลังครัว เสียงพริกแห้งในกระทะ แตกดัง โพละ พ่ะ เพราะมันพองจนแตก พรานเบตักกะปิมอญ ที่แกมีไว้กระปุกใหญ่ ตักมาได้พอประมาณ ก็บรรจงห่อด้วยใบตองป่า สองสามชั้น มองแล้วคล้ายๆห่อขนมกล้วย เสร็จแล้วก็เอาไม้ไผ่ ที่แกทำไว้ปิ้งปลา มาเสียบคีบไว้ จากนั้นแกก็ร้องบอกให้เคิ้งเอาไปปิ้งไฟที่ลานหน้ากระท่อม ที่ตอนนี้ลุงโส่ยกำลังลนขนอ่อนของนกเขาเปล้าอยู่

ตอนที่แล้ว

ตอนต่อไป

Advertisements
แหล่งที่มาหนุ่มธุดงค์ไพร