ค้นพบ ‘เมืองพร้อมปิรามิดขนาดใหญ่’ ในป่าที่หนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

นักวิจัยเพิ่งค้นพบเนินดินลึกลับที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของเมืองโบราณ โดยการตั้งถิ่นฐานนี้ มีถนนที่สลับซับซ้อน มีแม้แต่ปิรามิดขนาดใหญ่ โดยพวกเขาคาดว่าการค้นพบนี้ สามารถย้อนกลับไปได้ราว 1,500 ปี

เมืองโบราณที่พบนี้แสดงถึงร่องรอยของเมืองที่มีอารยธรรมเฟื่องฟูอย่างมาก ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งก่อสร้างเหล่านี้จะอยู่ในภูมิภาคนี้ได้ .. ปิรามิดสูงกว่า 20 เมตร ในป่าที่หนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

โดยปกติการสำรวจอเมซอนเป็นเรื่องที่ยากมาก เป็นที่เข้าใจกันดีว่า นักวิจัยพยายามค้นหาสิ่งต่างๆ ให้ทั่วป่าอันกว้างใหญ่ของอเมซอน แน่นอนว่ามีหลายครั้งที่พวกเขาพบเมืองโบราณได้อย่างง่ายดาย แต่มันก็มีเมืองที่ถูกปกคลุมไปด้วยพืชพันธุ์หนาทึบจนแทบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า .. แต่เทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถช่วยได้

อุปกรณ์ตรวจจับระยะไกล ถูกติดตั้งบนเฮลิคอปเตอร์หรือโดรน สามารถส่งพัลส์เลเซอร์หลายหมื่นครั้ง ไปในหลากหลายทิศทาง จากนั้นตรวจสอบอย่างรอบคอบว่าพัลส์ที่ส่งไปสะท้อนกลับไปยังอุปกรณ์เมื่อใดและอย่างไร

โดยเทคโนโลยีเรียกว่าไลดาร์ (Lidar) ซึ่งเป็นวิธีการสำรวจซึ่งวัดระยะทางถึงเป้าหมายโดยแสดงเป้าหมายด้วยแสงเลเซอร์ โดยที่ผ่านมานักวิจัยได้ใช้ไลดาร์เพื่อค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ในป่าที่หนาทึบ บ่อยครั้งที่พวกเขาจะพบเนินดินที่น่าสนใจ นานๆ จะพบอนุสาวรีย์ แต่สำหรับครั้งนี้พวกเขาพบทั้งเมือง

การค้นพบครั้งใหม่นี้แสดงให้เห็นถึงการตั้งถิ่นฐานที่ไม่รู้จัก 11 แห่ง ของวัฒนธรรม Casarabe ซึ่งมีอายุประมาณ คริสต์ศักราช 500 – คริสต์ศักราช 1400 ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอเมซอน โดยที่การค้นพบนี้แสดงให้เห็นถึง พื้นที่ในเมืองที่บ่งชี้ว่าอเมซอนตะวันตกไม่ได้มีประชากรเบาบางอย่างที่คิดกันไว้ก่อนหน้านี้

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นักวิจัยได้ค้นพบการตั้งถิ่นฐานและโครงสร้างหลายร้อยแห่ง ที่เชื่อว่าเป็นวัฒนธรรมยุคก่อนฮิสแปนิก (Hispanic) ในอเมซอน จึงทำให้ทราบว่าอเมซอนจริงๆ แล้ว เต็มไปด้วยการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์

สำหรับวัฒนธรรม Casarabe เช่นเดียวกับวัฒนธรรมยุคอื่น ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อเมซอนนั้น ยังไม่เป็นที่เข้าใจกันดีสำหรับนักวิจัย เนื่องจากป่าที่หนาแน่น ทำให้การศึกษานอกสถานที่ทำได้ยาก

และขณะนี้นักวิจัยได้จัดทำแผนที่เขตเมืองใหญ่สองแห่งและเขตที่เล็กกว่า 24 แห่ง (ซึ่งก่อนหน้านี้มีเพียง 15 แห่งเท่านั้น) โดยนักวิจัยได้วิเคราะห์สถาปัตยกรรมของพื้นที่เหล่านี้ พวกเขาค้นหาเครือข่ายคลองและอ่างเก็บน้ำที่ซับซ้อน ตลอดจนโครงสร้างรูปตัวยู เนินดิน และปิรามิดทรงกรวย ซึ่งบางส่วนมีความสูงถึง 22 เมตร (72 ฟุต)

Advertisements

ในเรื่องความเชื่อทางศาสนาของ Casarabe นั้นยังไม่เป็นที่เข้าใจดีนัก แต่มีแนวโน้มว่าโครงสร้างขนาดใหญ่เหล่านี้มีจุดประสงค์ทางศาสนาบางประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมองจากการวางเรียงกัน ไปในทิศทางเดียวกับหลุมศพของ Casarabe ที่เปิดอยู่

ยังไม่แน่ชัดว่าอารยธรรมนี้อยู่มานานแค่ไหน แต่เห็นได้ชัดว่าอารยธรรมได้จบลงนานกว่าศตวรรษ ก่อนการมาถึงของชาวสเปน โดยนักวิจัยคาดว่าอารยธรรมน่าจะขาดแคลนน้ำ เนื่องจากการจัดการน้ำไม่ดี หรืออาจเป็นเรื่องเลวร้ายกว่านั้น ซึ่งทั้งหมดจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันสิ่งนี้

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements
Advertisements