เรเวน (Raven) และ อีกา (Crow) ต่างกันอย่างไร อะไรทำให้พวกมันอยู่ได้ทั่วโลก

หลายคนน่าจะรู้จัก "อีกา หรือ โคร (Crow)" กันเป็นอย่างดี มันเป็นนกสีดำที่ร้องกาๆ แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีนกสีดำที่เรียกว่า "เรเวน (Raven)" ซึ่งหากมองเผินๆ มันก็คืออีกานั้นล่ะ และถึงแม้พวกมันจะอยู่ในสกุลเดียวกันแต่ก็มีความแตกต่าง แต่ต่างกันตรงไหน เดี๋ยวเรามาเรียนรู้กันในเรื่องนี้

อีกาและเรเวน มีความใกล้ชิดกัน ทั้งคู่อยู่ในสกุลนกกา หรือ คอร์เวิส (Corvus) ภายนอกพวกมันมีความคล้ายคลึงกันมาก ทั้งสองเป็นนกที่มีสีดำสนิทและมีลักษณะทางกายภาพหลายอย่างที่เหมือนกัน ทั้งพิสัยตามธรรมชาติของพวกมันมีความเหมือนกันมาก ดังนั้นจึงมักพบเห็นอีกาและเรเวนอยู่ในพื้นที่เดียวกันของโลก จึงทำให้เข้าใจผิดระหว่างอีกาและเรเวนอยู่เสมอ

“อีกา” มักใช้เป็นคำศัพท์สำหรับนกในสกุลคอร์เวิส ในเวลาเดียวกันผู้คนมักเรียกนกที่ใหญ่กว่าในสกุลนี้ว่า “นกเรเวน” และเมื่อนำพวกมันมาอยู่ด้วยกัน จะเป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นว่าทำไม มีเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถอธิบายความแตกต่างที่แท้จริงของนกเหล่านี้ได้

อีกาและเรเวน ต่างกันตรงไหน?

Advertisements

สิ่งบ่งชี้แรกๆ ที่บ่งบอกว่าเรากำลังเห็นอีกามากกว่านกเรเวนคือ อีกามักจะไปไหนมาไหนเป็นกลุ่มใหญ่ ในขณะที่เรเวนชอบที่จะไปเป็นคู่ อย่างไรก็ตาม อีกาเองบางทีมันก็จะเดินทางตัวเดียวด้วย ดังนั้นเราจะต้องดูลักษณะของพวกมันประกอบด้วยด้วย

ขนาดเป็นสิ่งที่ง่ายสุดในการแยกประเภทของพวกมัน เรเวนจะมีขนาดใหญ่กว่าอีกาทั่วไป นอกจากนี้เราจะไม่ค่อยได้พบเรเวนในเมืองที่เสียงดังและพลุกพล่าน แต่พวกอีกากลับชอบที่จะอยู่ในเมือง ดังนั้นถ้าคุณเห็นเรเวนตัวใหญ่ในเมือง มันอาจจะเป็นอีกาธรรมดาที่ตัวใหญ่กว่าปกติก็ได้

อีกาจะมีขนาดเท่ากับนกพิราบหรือใหญ่กว่าเล็กน้อย และมีน้ำหนักเฉลี่ย 600 กรัม ในขณะที่เรเวนจะมีขนาดใหญ่พอๆ กับเหยี่ยวขนาดกลาง ซึ่งโดยทั่วไปจะมีน้ำหนัก 1,200 กรัม

และความต่างภายนอกอย่างอื่นคือ “ขน” อีกาขนจะเงากว่าในขณะที่เรเวนขนจะออกด้านๆ และอีกจุดเด่นคือ “ปาก” ของเรเวนปากจะใหญ่กว่ามาก

นกทั้งสองชนิด ยังส่งเสียงที่แตกต่างกันด้วย อีกาจะเปล่งเสียงค่อนข้างดังและแหลมบาดหู ในขณะที่เรเวนจะใช้เสียงร้องที่ต่ำกว่าและหยาบกว่ามาก โดยส่วนตัวแล้ว ผู้คนมักพบว่าเสียงของเรเวนฟังดูน่ากลัว สำหรับการแยกง่ายๆ คือ เสียงบาดหูแหลมๆ คืออีกา ส่วนเสียงต่ำๆ และฟังดูน่ากลัวคือเรเวน

บนพื้นดิน นกทั้งสองมีพฤติกรรมคล้ายกัน วิธีที่เชื่อถือได้วิธีหนึ่งในการแยกแยะอีกาออกจากเรเวนคือ วิธีที่พวกมันเดิน เรเวนมักจะเดินและกระโดดเป็นจังหวะ ในขณะที่พวกอีกาจะเดินไม่ก็บินเลย

Advertisements

หากได้เห็นตอนมันบินก็อาจจะแยกง่ายขึ้น เพราะปีกของเรเวนจะกว้างกว่าอีกามาก และเวลาบินอีกาจะชอบส่งเสียงร้องและกระพือปีกบ่อยๆ แต่เรเวนจะบินแบบเงียบๆ และใช้วิธีร่อนเอามากกว่า นานๆ ทีมันถึงจะกระพือปีก หากคุณเห็นนกตัวดังกล่าวบินทะยาน ร่อนไปพร้อมกับปีกที่กางออก นานกว่าสองสามวินาทีในแต่ละครั้ง นั่นอาจเป็นเรเวน

เรเวนนั้นชอบบินผาดโผน รวมถึงการตีลังกา หรือแม้แต่บินกลับหัว อาจเป็นเพียงเพื่อความสนุกสนาน ซึ่งต่างจากพวกอีกา แต่ยังเป็นข้อสงสัยว่าทำไมเรเวนถึงชอบทำแบบนี้ อาจจะเพื่อไต่ระดับหนีจากอากาศที่ร้อนก็เป็นได้

ในแง่ของรูปร่างของปีกหาง เรเวนจะมีปีกแหลมที่มีขนหลักยาวอยู่ใกล้ปลาย ในขณะเดียวกันอีกาจะมีปลายปีกทื่อ แม้ว่าขนที่ปีกของพวกมันจะดูกระจัดกระจายเช่นกัน แต่ของอีกาจะสั้นกว่าของเรเวน

ความแตกต่างระหว่างสองชนิดนี้ดูละเอียดอ่อน แต่พวกมันมีความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด! แน่นอนว่านกในสกุลอีกา มีมากมายหลายชนิดเช่นกัน และแต่ละชนิดก็มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง ซึ่งบางชนิดอาจไม่ตรงกับสิ่งที่ได้พูดคุยกันในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว สิ่งเหล่านี้มีความโดดเด่นมากพอที่จะแยกแยะได้

ทำไมอีกาและเรเวนจึงพบได้ทั่วโลก?

อีกา (Crow) และ เรเวน (Raven) เป็นสัตว์เพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถพบได้แทบจะทุกที่ในโลก มันมีอยู่แม้แต่ในแห่งชุมชนที่พลุกพล่านที่สุด ในพื้นที่อากาศหนาว หรือบนเทือกเขาสูงนับพันเมตร ก็มีพวกมันอยู่ แล้วอะไรที่ทำให้พวกมันกลายเป็นสัตว์ที่อยู่ได้ทุกที่?

ผลการศึกษาพบว่า นกพวกนี้ครอบครอง “ไบโอม (biomes) หรือชีวนิเวศ” เกือบทั้งหมดของโลก มีพวกมันอยู่ตั้งแต่ทะเลทรายไปจนถึงบริเวณอาร์กติก ซึ่งพวกมันทำแบบนี้ได้ก็เพราะมีสมองที่ใหญ่และปีกที่ยาวขึ้น

Advertisements

อีกา และ เรเวน เกือบจะเหมือนกัน ความจริงถ้าเป็นคนทั่วไปก็น่าจะเข้าใจว่าเป็นอีกาทั้งหมด หรือก็คือไม่สามารถแยกพวกมันได้ โดยอีกาและเรเวน มีรวมกันมากกว่า 133 ชนิด ใช่แล้วพวกมันมีความหลากหลายสุดๆ

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน มีความต้องการที่จะทำความเข้าใจว่า เหตุใดนกพวกนี้จึงมีความหลากหมายถึงเพียงนี้ แล้วพวกเขาก็พบว่าอีกาและเรเวน เป็นนกที่มีความสามารถในการบินที่ยอดเยี่ยม จนทำให้พวกมันสามารถไปอยู่ในสถานที่ใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีร่างกายและสมองที่ใหญ่

ทีมนักวิจัย ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถอันน่าประหลาดใจ ของอีกาและเรเวนในการขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วจนกระจายไปทั่วโลก มันถูกขับเคลื่อนโดยลักษณะพิเศษหลายอย่าง

นักวิจัยได้ทำงานกับตัวอย่างนก ที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา จนพบว่านกทั้งสองมีปีกที่ยาวกว่าและมีสมองกับลำตัวที่ใหญ่กว่า เมื่อเปรียบเทียบกับนกสายพันธุ์อื่น

อีกาและเรเวน จึงมีความสามารถในการบินสูงโดยใช้ลมได้ยาวนานกว่า จนทำให้สามารถแพร่กระจายไปทั่วโลก สมองขนาดใหญ่ของพวกมันหมายความว่าพวกมันจะมีพฤติกรรมที่ยืดหยุ่นและฉลาดกว่านกส่วนใหญ่ จนทำให้พวกมันเอาชีวิตรอดในสภาพแวดล้อมใหม่ได้อย่างไม่ยากเย็น

ร่างกายที่ใหญ่ขึ้นทำให้พวกมันได้เปรียบเหนือสายพันธุ์ที่เล็กกว่า โดยเฉพาะเมื่อต้องไปตั้งรกรากในที่ใหม่ อันที่จริงแล้วเป็นการผสมผสานระหว่างทั้งสมองและกล้ามเนื้อ จึงทำให้พวกมันครองโลกได้

นอกจากนี้นักวิจัยยังให้เหตุผลว่าอีกาและเรเวน มีอัตราการวิวัฒนาการค่อนข้างสูง ในขณะที่ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน นกทั้งสองต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างมาก และเมื่อมาถึงสภาพแวดล้อมใหม่ พวกมันจะต้องใช้กลยุทธ์และลักษณะที่แตกต่างกัน เช่น มีจงอยปากที่มีรูปร่างใหม่เป็นต้น

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements