1. บ่าง
บ่าง (Colugo) สามารถร่อนไปได้ไกลถึงร้อยเมตรหรือไกลกว่านั้นจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปอีกต้น มันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีทักษะการร่อนได้ดีมาก พบได้ทั่วไปในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ มีความคล้ายคลึงกับลีเมอร์ที่บินได้ หนังส่วนที่ช่วยให้มันร่อนได้มีลักษณะเดียวกับกระรอกบิน โครงกระดูกของมันมีน้ำหนักเบาทำให้ช่วยในการร่อนได้อย่างดี พวกมันมีดวงตาโตทำให้มีสายตาที่ดีมากและยังสามารถอุ้มลูกของมันไปด้วยระหว่างร่อนได้
อาหารหลักของมันคือใบไม้ ผลไม้ ฟันของมันเป็นแบบหวี อาจจะใช้ในการกำจัดพวกปรสิตจากขนมัน การตัดไม้ทำลายป่ากำลังคุกคามพวกมันอย่างหนัก
2. งูต้นไม้สวรรค์
งูต้นไม้สวรรค์ (Paradise tree snake) มันเป็นงูนักร่อนที่เก่งมาก มันจะร่อนด้วยการทำให้ตัวเองแบนและแข็งขณะที่ตัวมันเป็นรูปตัว S และสามารถหมุนตัวเล็กน้อยเพื่อเพิ่มระยะทาง มันสามารถไปได้ไกลถึง 20 เมตร บางชนิดสามารถใหญ่ได้ถึง 1.5 เมตร
ความจริงงูต้นไม้สวรรค์ จะมีความคล้ายงูเขียวพระอินทร์มาก มันชอบกินตุ๊กแกและกิ้งก่า ค้างคาว และกบ พวกมันอาศัยอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
3.ตุ๊กแกบินหางแผ่น
ตุ๊กแกบินหางแผ่น (Kuhl’s parachute gecko) มักพบได้ทั่วไปในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ในไทยส่วนมากพบที่ภาคใต้ พวกมันมีพังพืดที่สองข้างของร่างกาย รวมทั้งเท้าเป็นพังผืดและหางที่แบนช่วยให้พวกมันร่อนในอากาศระยะสั้นๆ ได้ และยังมีแผ่นปืนเปลือกตาที่ช่วยในการพรางตัวได้อีก
4. ปลาผีเสื้อน้ำจืด
ปลาผีเสื้อน้ำจืด (Freshwater butterfly fish) ได้ชื่อนี้มาจากครีบของมันที่เหมือนปีกผีเสื้อ พบได้ในแอฟริกาปลาชนิดนี้จะรอในแอ่งน้ำที่ไหลช้าเพื่อรอให้เหยื่อของมันที่มักเป็นแมลงผ่านมา จากนั้นจะใช้ครีบอกของมันดันตัวพุ่งขึ้นสู่ผิวน้ำและจับเหยื่อได้อย่างแม่นยำ
ปลาผีเสื้อยังสามารถโดดขึ้นจากน้ำได้ในระยะเวลาสั้นๆ เพื่อหลบเลี่ยงนักล่า และยังสามารถหายใจโดยการฮุบอากาศโดยตรง
5. กระรอกบิน
กระรอกบิน (Flying squirrels) มีมากกว่า 50 ชนิดที่แตกต่างกัน แต่พวกมันล้วนมีความสามารถในการร่อนได้ดีเยี่ยม พวกมันบินไม่ได้จริงๆ แต่สามารถร่อนไปมาได้เพราะเนื้อเยื่อระหว่างขาหน้าและหลังที่ทำหน้าที่เหมือนร่มชูชีพ บางชนิดสามารถร่อนได้ไกลถึง 46 เมตร
กระรอกบินที่เก่าแก่สุดสามารถย้อนกลับไปได้ไกลถึง 11 ล้านปีก่อน และมีความคล้ายคลึงกับกระรอกบินขนาดใหญ่ที่พบในป่าเขตร้อนของเอเซีย พวกมันออกหากินเวลากลางคืน อาหารหลักพวกมันคือผลไม้ เมล็ดพืช แมลงและไข่นก
6. ปลานกกระจอก (ปลาบิน)
ปลานกกระจอก (Flying fish) พบได้ทั่วไปในเขตน้ำอุ่นทั่วโลก มันมีมากถึง 70 ชนิด มีรูปร่างเหมือนตอร์ปิโด ช่วยให้ร่างกายมันคล่องตัวและช่วยให้พวกมันสร้างความเร็วใต้น้ำและดีดตัวขึ้นมาได้ รวมถึงหางขนาดใหญ่ของมันที่ช่วยให้เกิดแรงผลัก เมื่อถึงจังหวะ ครีบอกที่เหมือนปีกขนาดใหญ่จะยืดออกมาช่วยให้มันลอยขึ้นในอากาศได้ ปกติครีบนี้จะชิดกับตัวปลาในน้ำ
ปลานกกระจอกบางชนิดมีครีบขนาดใหญ่ที่เรียกว่าปีกที่สี่ มันสามารถช่วยสร้างความเร็วมากถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งทำได้โดยการดีดตัวขณะยังอยู่ในน้ำ ทำให้พวกมันบินสูงได้ถึง 1.2 เมตรและไปได้ไกลถึง 655 ฟุค
เมื่อใกล้จะตกลงน้ำ มันจะหดครีบล่างเพื่อกลับไปว่ายปกติ มีการบันทึกว่าพวกมันสามารถร่อนติดต่อกันได้เป็นระยะไกลถึง 400 เมตร การร่อนของปลานกกระจอกคาดว่าวิวัฒนาการให้หนีพวกนักล่าได้ ปลานกกระจอกกินพวกแพลงก์ตอนเป็นหลัก มันมักถูกล่าโดยปลาแมคเคอเรล, ปลาทูน่า, ปลากระโทง และฉลาม
7. หมึกบินญี่ปุ่น
หมึกบินญี่ปุ่น (Japanese flying squid) เป็นหมึกที่พบได้ทั่วไปในญี่ปุ่น มีถิ่นกำเนิดในมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ โดยเฉพาะบริเวณเกาหลี ญี่ปุ่น จีน และรัสเซีย ตัวเมียมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ สามารถยาวได้ถึง 50 ซม. เช่นเดียวกับหมึกชนิดอื่นมันสามารถพรางตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม
หมึกบินญี่ปุ่นใช้แรงดันน้ำทำให้มันบินได้ โดยนำน้ำเข้าไปในร่างกายแล้วดันออกมาจากทางระบบท่อที่ใช้ปล่อยหมึก แรงขับนี่ทรงพลังมากจนดันมันขึ้นเหนือน้ำได้และมันสามารถเคลื่อนที่ไปมาได้โดยการปรับครีบมัน มันสามารถไปได้ไกลถึง 11 เมตรต่อวินาที แถมในอากาศมันยังเร็วกว่าในน้ำถึงห้าเท่า ซึ่งความสามารถนี้มันใช้ในการจับปลาและกุ้งเป็นอาหาร
8. กิ้งก่าบิน
กิ้งก่าบิน (Draco lizard) อาศัยความสามารถในการร่อนเพื่อหนีผู้ล่า, หาอาหาร หรือแม้แต่หาคู่ พบได้ในป่าฝนของเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ อาหารหลักของมันคือมดและปลวก มันมีซี่โครงที่ยาวออกมาซึ่งสามารถขยายและหดได้ตามต้องการ และระหว่างซี่โครงนี้เป็นรอยพับของหนังที่ทำหน้าที่เป็นปีได้เมื่อกางออก กิ้งก่าบินจะใช้หางในการบังคับทิศทางและสามารถไปได้ไกลถึง 58 เมตร
พวกมันมีขนาดเพียง 20 ซม. ใต้ปีกของพวกมันเป็นสีน้ำเงินในตัวผู้และสีเหลืองในตัวเมีย และที่คอของมันจะเป็นสีเหลืองสำหรับตัวผู้และสีน้ำเงินเทาในตัวเมีย ในการแสดงอาณาเขตตัวผู้จะร่อนไปมาเพื่อไล่กิ้งก่าตัวอื่นออกจากเขตมัน
9.ปาดเขียวตีนดำ
ปาดเขียวตีนดำ (Parachute frogs) อาศัยอยู่ในป่าฝนของมาเลเซียและอินโดนิเซีย พวกมันใช้เวลาส่วนมากอยู่บนต้นไม้ จะลงมาแค่เพียงหาคู่และวางไข่ พวกมันร่อนไปมาโดยใช้เท้าที่เป็นพังผืด สามารถไปได้ไกลถึง 15 เมตร ความสามารถนี้ช่วยในการจับเหยื่อและหลบหนีผู้ล่าได้ ที่นิ้วยังมีแผ่นรองขนาดใหญ่ช่วยให้ลงพื้นอย่างปลอดภัยและช่วยในการยืดจับต้นไม้ได้
จริงๆ ยังมีปาดและกบชนิดอื่นๆ ที่บินได้อีกหลายชนิด แต่ปาดเขียวตีนดำเป็นพวกกบและปาดที่ใหญ่ที่สุดที่บินได้ พวกมันมีลำตัวสีเขียวสดใส เท้ามีสีเหลืองแซมดำ สามารถโตได้ใหญ่ถึง 10 ซม. เรื่องน่าแปลกคือมันอยู่ในถิ่นเดียวกับแรดชวาที่กำลังจะสูญพันธุ์แต่ประชากรของพวกมันนั้นกลับคงที่ พวกมันมักจะวางไข่บนใบไม้
