3 สายพันธุ์ ‘สัตว์รุกราน’ ที่อาจพิชิตโลกสำเร็จ

มนุษย์อาจคิดว่าตัวเองฉลาดที่สุด แต่บางทีก็ทำเรื่องโง่ๆ ไปบ้าง เกี่ยวกับเรื่องนี้มีกรณีศึกษา เป็นเรื่องที่ชาวญีปุ่นแนะนำให้ชาวอเมริการู้จักกับพืชที่ชื่อว่า "Kudzu" ซึ่งตรงกับปี 1876 และดูเหมือนจะชอบซะด้วย เพราะคิดว่าต้นไม้ที่มีใบเต็มไปหมดชนิดนี้มีกลิ่นที่หอม พวกเขาจึงเริ่มเอามาปลูกเพื่อตกแต่งสวน จากนั้นก็เอามาเลี้ยงสัตว์ จนรัฐบาลถึงกับออกคำสั่งให้กองกำลังฝ่ายพลเรือนปลูก Kudzu เพื่อป้องกันการกัดเซาะ ในตอนนั้นยังไม่มีใครใช้เวลาไตร่ตรองว่าพืชที่ไม่ใช่พันธุ์พื้นเมืองนี้จะตอบสนองอย่างไรในสภาพแวดล้อมใหม่ ... มันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่

สายพันธุ์รุกราน

Kudzu เป็นพืชที่ชอบสภาพอากาศในภาคใต้ของอเมริกา และเพิ่มขึ้นและรุกรามอย่างรวดเร็วเหมือนไฟป่า มันเติบโตได้ถึง 60 ฟุต ต่อปี แล้วเริ่มปีนขึ้นไปบนอาคารและเสาโทรศัพท์ บ้าน รวมทั้งรถยนต์ ปกคลุมพื้นที่ว่างเปล่า ทำให้พืชชนิดอื่นไม่สามารถเติมโตได้ และมันก็ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ .. นี่คือตัวอย่างของการรุกรานอย่างหนึ่ง แต่มันมีน่ากลัวกว่า Kudzu .. มาดูกัน

3. ปลาคาร์พเอเชีย (Asian Carp)

Advertisements

ในไทยพวกมันอาจโตไม่ทันกิน แต่หลายส่วนในโลก โดยเฉพาะในอเมริกา “ปลาคาร์พเอเชีย” หรือที่บ้านเราเรียกว่าปลาจีน พวกมันมีจำนวนมหาศาลในแม่น้ำของอเมริกา

เรื่องเพิ่มต้นเมื่อเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาจำพวก ปลาดุก หรือแคท ฟิช นำเข้ามาเพื่อใช้กำจัดสาหร่ายที่มีมากเกินไปในฟาร์มเลี้ยงปลาเชิงพาณิชย์ มันเป็นช่วงคริสต์ทศวรรษ 70 ..แต่แล้วเรื่องน่ากลัวก็เกิดขึ้น เมื่อพวกมันหลุดออกมาและลงไปในแม่น้ำสายหลัก

ปลาคาร์พเอเชีย เดินทางไปตามแม่น้ำมิสซิสซิปปีและอิลลินอยส์ กินแพลงก์ตอนและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ จำนวนมาก มันกินทุกอย่างจนเหลือเพียงเศษอาหารให้สายพันธุ์พื้นเมืองกิน

นอกจากนี้พวกมันยังมีอัตราการสืบพันธุ์ที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อ และมีนักล่าตามธรรมชาติเพียงไม่กี่ตัวที่ล่าพวกมัน ในแต่ล่ะปีพวกมันทำลายอุตสาหกรรมประมงและการท่องเที่ยวมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์

2. กระต่ายยุโรป (European Rabbits)

กระต่ายน่ารัก แต่ถ้ามันอยู่ผิดที่ผิดทาง มันก็กลายเป็นหายนะ! เป็นสัตว์ร้ายตัวน้อยที่กำลังทำลายดินแดนหลายแห่งทั่วโลก โดยเฉพาะออสเตรเลีย

โดยหายนะที่พวกมันสร้างและไม่สามารถมองเห็นได้จากคนทั่วไปคือ การที่พวกมันขุดรู ก่อให้เกิดดินพังทลาย ให้ลองนึกภาพกระต่ายนับแสนตัว พร้อมใจกันขุดรูในสวนแถวบ้านคุณ ถ้าดินจะถล่มก็คงไม่แปลก และพวกมันมีนับร้อยล้านตัว

Advertisements

กระต่ายมีอัตราการขยายพันธุ์ที่น่ากลัวมาก หากให้ยกตัวอย่าง มีกระต่าย 24 ตัว ถูกปล่อยในออสเตรเลียในปี 1859 โดยฝีมือชาวนาอังกฤษ ที่พวกเขากำลังคิดอยากสัมผัสการล่าสัตว์

จนปัจจุบันมีหลายร้อยล้านตัว พวกมันสร้างความเสียหายหลายร้อยล้านดอลลาร์ต่อปี และมีส่วนทำให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 1 ใน 8 สายพันธุ์ท้องถิ่นต้องสูญพันธุ์

ออสเตรเลียพยายามลดจำนวนกระต่ายอย่างต่อเนื่อง จนในปี 1950 ได้มีการนำไวรัส Myxoma ไปยังแผ่นดินใหญ่ มันทำให้เกิดโรคร้ายแรงในกระต่ายเกือบทุกตัวที่สัมผัส ผลคือมีกระต่ายราว 500 ล้านตัวเสียชีวิต แต่ก็มี 100 ล้านตัว ที่มีความต้านทานต่อโรคติดตัวไป ..และตอนนี้ตัวเลขของกระต่ายก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง

1. คางคกอ้อย (Cane Toads)

คางคกอ้อยมีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ จากนั้นมันถูกนำเข้าไปในหลายๆ ประเทศ ทั้งฟลอริดา ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น รวมทั้งเกาะแถบ ทะเลแคริบเบียนและฮาวาย และที่อื่นๆ มันเป็นคางคกใหญ่ที่สุดที่บันทึกไว้มีความยาว 9.4 นิ้ว โดยการนำเข้าเป็นเกษตรกรที่หวังว่าสิ่งมีชีวิตนี้จะสามารถกำจัดศัตรูพืชในท้องถิ่นได้

“แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น เพราะคางคกตัวนี้กลายเป็นศัตรูพืชอีกชนิดหนึ่งที่กำจัดยากกว่ามาก มันตะกละกินพืชและยังกินสัตว์พื้นเมืองหลายชนิดอีกด้วย”

ในกรณีของออสเตรเลีย ในปี 1935 คางคกอ้อย 102 ตัวถูกนำมาใช้เพื่อต่อสู้กับด้วง Greyback Cane จนกระทั้งปี 2010 จำนวนดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.5 พันล้านตัว พวกมันกระจายไปทั่ว 386,100 ตารางไมล์และพวกมันไม่หยุดจนถึงทุกวันนี้ แน่นอนว่าในอเมริกาก็ไม่ต่างกันนัก

นี้ก็คือบทเรียนเกี่ยวกับการนำสัตว์ที่ไม่ใช่สัตว์พันธุ์พื้นเมืองเข้ามาในบ้านเกิด จริงๆ แม้แต่พืชหลายชนิดก็สามารถสร้างความเดือดร้อนได้เช่นกัน ..หวังว่าจะชอบกัน อย่าลืมแชร์กันนะ

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements
Advertisements
แหล่งที่มาhowstuffworks