การอ่อยเหยื่อ การปูพรมแบบธรรมดา

ตกปลาหน้าดิน หรือทุ่นลอย สิ่งหนึ่งที่จะเพิ่มโอกาสได้ตัวปลาก็คือการอ่อยเหยื่อ และมีเทคนิคการอ่อยเหยื่อแบบหนึ่งที่เรียกว่าแบบปูพรม โดยวิธีนี้ที่จะเอาให้อ่านกันมี 2 แบบคือ ปูพรมแบบธรรมดา และ ปูพรมแบบรูปพัดปูพรม

อ่อยเหยื่อแบบปูพรม

เป็นเทคนิคที่มักใช้กันในการตกปลา การปูพรมก็คือลักษณะการอ่อยเหยื่อลักษณะหนึ่ง ซึ่งเป็นชนิดเดียวกันเห็นไหมละครับความหมายของคำว่าปูพรมก็ถูกบดบังลงทันทีเมื่อมีคำว่า อ่อยเหยื่อเข้ามาเกี่ยวข้อง คงจะไม่ต้องพูดถึงการอ่อยเหยื่อนะครับ คิดว่าทุกท่านคงเข้าใจกันเป็นอย่างดี มาเข้าเรื่องของการปูพรมเลยดีกว่า

การอ่อยเหยื่อปูพรมจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ

ตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่คือ ปูพรมแบบธรรมดา และ ปูพรมแบบรูปพัดการปูพรมแบบธรรมดามักจะใช้กับสถานที่ที่ยืนตกหรือการขว้างเหยื่อค่อนข้างยาว เช่น ซุ้มหรือแพที่มีความยาวติดต่อกัน รวมไปถึงชายฝั่งที่ตกปลาซึ่งสามารถเดินไปมาได้สะดวกสบาย การปูพรมจะเริ่มจากการเดินตั้งแต่หัวแพไปจนสุดท้ายแพก็ได้ การอ่อยก็จะเริ่มจากทุกระยะความกว้างของบ่ออีกฝั่งหนึ่ง

และการปูพรมแบบรูปพัดนั้นจะแตกต่างกันก็คือสถานที่ตกนั้นค่อนข้างคับแคบเช่น ซุ้มที่ยื่นเข้าไปในบ่อ หรือเนินดินที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปในน้ำ ลักษณะนี้เองที่ไม่สามารถทำให้นักตกปลาเดินตีเหยื่อได้จำต้องอยู่กับที่แล้วสร้างรัศมีการอ่อยเหยื่อเอาเอง ข้อดี ของเทคนิคนี้ก็คือช่วยให้สามารถตกปลาได้บ่อยในทุกจุดที่ตีเหยื่อ และทุกระยะของการตีเหยื่อ ถ้าทำการอ่อยไว้ ข้อเสีย ก็คืออาจจะรบกวนคนข้างๆ ได้ถ้าคุณปูพรมจนน่าเกลียดเกินไป เช่น ตีเสร็จแล้วเก็บสายแล้วตีต่อเลย

ทำอยู่อย่างนี้จะทำให้ปลาตื่นได้หรืออาจจะตีล้ำอาณาเขตของซุ้มข้างๆจนเกินความจำเป็น เพราะสายของคุณอาจจะไปพันกับของเขาได้ ฉะนั้นการปูพรมควรกระทำในเวลาที่มีผู้คนน้อย หรือบางตาจะดีกว่าจะไม่เป็นการรบกวนสมาธิของคนอื่นๆ

เทคนิคนี้นอกจากจะใช้กับการทดลองเหยื่อแล้ว ยังเป็นเทคนิคที่ใช้กันในหมู่นักกีฬาตกปลาอีกด้วย โดยก่อนแข่งขันราวซัก 1 อาทิตย์ ก็จะมีนักกีฬาพากันไปปูพรมกันตามบ่อตกปลาที่มีการแข่งขันเพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับปลาในทุกจุดเกือบทั่วบ่อ หรือไม่ก็เป็นการจองที่ไปในตัวด้วยเช่นกัน

เทคนิคนี้เหมือนกับวิชามารยังไงยังงั้น แต่ถ้าคิดในแง่ดีก็เป็นการทดสอบหรือการซ้อมเหยื่อไปในตัว ส่วนในความหมายธรรมชาตินั้น แน่นอนเทคนิคนี้เป็นผลทางด้านบวกในการสร้างความสนใจแก่ปลาในน้ำเป็นอย่างดีทีเดียว ถ้าใช้ถูกทางก็คงไม่มีปัญหาอะไรที่ตามมา แต่ใช้ในทางที่ผิดก็อาจจะเกิดปัญหาตามมาก็ได้ เปรียบได้กับดาบสองคม หวังว่าท่านผู้อ่านคงจะนำไปใช้ในทางที่ดีนะครับ