ด่างเกยไชย & ด่างบางมุด เรื่องจริงเป็นยังไงกันแน่

ผมบอกไว้ตรงนี้ก่อนว่า นี่เป็นการรวบรวมข้อมูลและนำขึ้นมาเขียน น้าๆ สามารถบอกได้ว่าคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับจระเข้ทั้ง 2 ตัวนี้ แต่ผมบอกได้สิ่งหนึ่งคือ "ไอ้ด่างเกยไชย" เป็นจระเข้ที่อาละวาดในช่วง รัชกาลที่ 5 นั้นหมายความว่านานกว่า 100 ปีแล้ว หลักฐานจริงๆ เกี่ยวกับตัวมันจึงแทบไม่มี ส่วนเรื่องของไอ้ด่างบางมุดจะมีมากกว่า

มาดูช่วงเวลาที่จระเข้ทั้งสองตัวออกอาละวาดกันซะหน่อย โดยตามหลักฐานแล้ว “ไอด้างเกยไชย” มีชื่อก่อน และด้วยความที่อยู่ในช่วง ร.5 เรืองที่จะมีการบันทึกภาพยังไม่มี หรือแม้แต่จดบันทึกก็แทบไม่มีเช่นกัน ผมสรุปมาให้คร่าวๆ ก่อน

ไอ้ด่างเกยไชย

Advertisements
  • ช่วงเวลา : รัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2396 – พ.ศ. 2453)
  • ขนาดตัว : ใหญ่ แต่ไม่มีบันทึกขนาด
  • จำนวนคนที่ตาย : ไม่มีบันทึก
  • จระเข้ตายเพราะ : เล่าว่าถูกปราบได้ด้วยหอกของหมอจระเข้ 2 คน

ไอ้ด่างบางมุด

  • ช่วงเวลา : พ.ศ. 2507
  • ขนาดตัว : คาดคะเน 8 เมตร (วัดจริง 4 เมตรกว่า)
  • จำนวนคนที่ตาย : 6 คน
  • จระเข้ตายเพราะ : ถูกระเบิด C-3 โดยทีม พ.ต.จำนงค์ พิมาน

หลักฐานที่เกี่ยวกับไอ้ด่างเกยไชย มีเพียง 2 บรรทัด (ไม่นับเรื่องที่ชาวบ้านเล่า)

เรื่องราวของไอ้ด่างเกยไชย มีบันทึกอยู่ในสมุดบันทึกของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อคราวที่ท่านเสด็จไปตรวจราชการที่เมืองเหนือ ได้บันทึกเกี่ยวกับเรื่องราวของไอ้ด่างเกยไชยไว้สั้นๆ 2 บรรทัด มีใจความว่า (บันทึกของท่านตอนนี้ สามารถสืบค้นได้ที่หอสมุดแห่งชาติ ท่าวาสุกรี)

“ที่นี่มีศีรษะของจระเข้ใหญ่ เป็นจระเข้กินคน ชาวบ้านเล่าลือกันว่าเป็นจระเข้เจ้า มีพระยาคนหนึ่งได้นำเอาศีรษะจระเข้นี้เข้ากรุงเทพ ฯ และได้ขายต่อให้ชาวต่างชาติไป เป็นอันจบกันสำหรับเรื่องราวของศีรษะจระเข้ใหญ่”

เรื่องเล่าไอ้ด่างเกยไชย ไม่สามารถบอกได้ว่า เริ่มกินคนเมื่อไร รู้เพียงแค่ช่วง รัชกาลที่ 5 และเกิดขึ้นที่ ตำบลเกยไชย และเนื่องจากในยุคนั้น แทบจะไม่มีการจดบันทึก ภาพถ่ายก็ยังไม่มี จึงยากที่จะได้รู้เรื่องจริงของไอ้ด่างเกยไชย จนมันเหมือนเป็นนิทาน

เรื่องเล่า (สำนวนที่ 2)

Advertisements

ไอ้ด่างเกยไชยเป็นชื่อจระเข้ อยู่ที่ ต.เกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ เล่ากันมาว่าสมัยก่อน ที่เกยไชยมีวังตะกอน หรือ ปากแม่น้ำที่มีความลึกมากมีจระเข้ชุกชุมเรียกว่า “วังไอ้เข้”

ชาวบ้านสมัยนั้น จะลงอาบน้ำในแม่น้ำแต่ละครั้งต้องเอาไม้ปักทำรั้วเพื่อป้องกันจระเข้ และจระเข้ชื่อดังตัวหนึ่งที่ชาวบ้านรู้จักดีคือไอ้ด่าง ชาวบ้านที่สัญจรไปมาเพื่อหาปลาจะถูกไอ้ด่างทำร้ายอยู่เป็นประจำ

หัวไอ้ด่างนั้นมีสีขาวอยู่มาก รูปร่างใหญ่ ความยาวจากปากถึงขากรรไกรยาวประมาณ 1 วา หัวสูงจากพื้น 5-6 ศอกความยาวของลำตัวประมาณความกว้างของแม่น้ำ

ด่างเกยไชยเลยเปรียบเสมือนเรือข้ามฟากของเจ้าพ่อจุ๊ย โดยศาลเจ้าพ่อจุ๊ยนั้นตั้งอยู่ตรงวังตะกอน ชาวเกยไชยนับถือกันมากด่างเกยไชยอายุยืนและดุร้ายทำร้ายผู้คนมามากมาย

ไม่นานนักก็มีชาวบ้านขี้เมาใช้เรือไม้มาเพื่อท้าทายไอ้ด่าง เป็นเรือท้องแหลมที่ชาวจีนเรียกว่าเรือไหหลำ ด่างเกยไชยว่ายตามมาและหนุนเรือข้าวจนคว่ำ พอได้โอกาสชาวเรือใช้สามง่ามทิ่มแทงตามท้องจนเป็นแผลมากมาย ไอ้ด่างทนไม่ไว้ จึงเอาหัวมาเกยหาด หน้าวังตะกอน จึงถูกยิงซ้ำจนตาย ชาวบ้านเลยผ่าท้องไอ้ด่าง พบของมีค่ามากมายแล้วเอาหัวไอ้ด่างเกยไชยไปไว้ที่ศาลเจ้าพ่อจุ๊ยจึงเรียกว่า เกยไชยเพราะชื่อจระเข้ “ไอ้ด่างเกยไชย”

ที่มา :นิทานบ้านเกยไชย

จริงๆ แล้วมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับไอ้ด่างเกยไชยสำนวนที่ 1 และ 3 อยู่ แต่ที่อ่านแล้วสมเหตุสมผลที่สุดคือเรื่องที่ผมเอาให้น้าๆ ได้อ่านกัน ส่วนเรื่องอื่นเหมือนนิทานมากไปหน่อย และมีเรื่องรักๆ เหมือนเอาเรื่องไกรทองไปผสม เลยขอตัดทิ้งไปซะเลย

จากเรื่องเล่าแบบที่ 2 มีการคาดคะเน (ไม่มีหลักฐาน) ปากยาวประมาณ 2 เมตร นี่แค่ปากนะ ถ้าทั้งตัวไม่เป็นสิบเมตรเหรอ ทั้งหมดนี้ไม่มีหลักฐานนะครับ ขึ้นอยู่กับความเชื่อของน้าๆ ส่วนเรื่องของ ไอ้ด่างบางมุด ขอให้น้าๆ กดอ่านลิงค์ด้านล่าง และหากเจอหลักฐานอะไรเกี่ยวกับไอ้ด่างเกยไชย บอกกันได้นะครับ

เปิดตำนาน ไอ้ด่างบางมุด โคตรเพชฌฆาตแห่งคลองบางมุด

Advertisements