หลังพบซากมานาน 23 ปี ในที่สุดก็รู้ว่ามันคือ ‘ไดโนเสาร์กึ่งน้ำ’ ชนิดใหม่

ซากดึกดำบรรพ์อายุ 125 ล้านปีที่พบในโปรตุเกสเมื่อ 23 ปีที่แล้ว หลังจากเป็นปริศนามานาน มันกำลังจะกลายเป็นสายพันธุ์ใหม่ของสไปโนซอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มไดโนเสาร์กินเนื้อที่น่ากลัวและลึกลับด้วยหัวที่เหมือนจระเข้ และบางตัวก็ใหญ่กว่าทีเร็กอย่างเช่นสไปโนซอรัสผู้โด่ดัง

Iberospinus natrioi คือสมาชิกในกลุ่มล่าสุดของพวกสไปโนซอร์ พวกมันมีหัวที่เหมือนจระเข้พร้อมกับกรงเล็บแหลมคมและหนามบนหลัง เดิมมีเพียงตัวอย่างเดียวที่พบเจอ มันมีรหัสว่า ML1190 ..แต่เดิมถูกเข้าใจผิดว่าเป็นจระเข้โบราณ แต่การวิเคราะห์ใหม่ทำโดยนักบรรพชีวินวิทยา Octávio Mateus และ Darío Estraviz-López จาก NOVA School of Science and Technology ในลิสบอน ประเทศโปรตุเกส จึงพบว่ามันเป็นสไปโนซอร์และยังเป็นชนิดใหม่อีกด้วย

นักบรรพชีวินวิทยาดีใจมาก เนื่องจากจะช่วยเพิ่มความเข้าใจในวิวัฒนาการของสไปโนซอร์และพฤติกรรม งานวิจัยชิ้นใหม่ชี้ไปที่ยุโรปตะวันตกว่าเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับสไปโนซอร์ ก่อนจะแพร่ไปทั่วโลกแต่จำเป็นต้องมีหลักฐานเพิ่มเติม

ซากดึกดำบรรพ์ของสไปโนซอร์นั้นค่อนข้างหายาก ทำให้คนไม่ค่อยสนใจ มันน่าเสียดายเพราะไดโนเสาร์เหล่านี้ถือว่าเท่ห์มาก มีลักษณะทางกายภาพที่เป็นเอกลักษณ์และใช้ชีวิตในน้ำ ด้วยร่างกายที่มีความยาว 41- 59 ฟุต (12.6 – 18 เมตร)

พวกมันจึงเป็นหนึ่งในสัตว์กินเนื้อที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ตามความคิดแบบเดิมๆ ว่านกสไปโนซอร์กลืนปลาขณะเดินลุยน้ำตื้น แต่หลักฐานจากปี 2020 บ่งชี้ว่าพวกมันบางชนิดสามารถว่ายน้ำแบบจระเข้ได้ แต่หลักฐานยังไม่เพียงพอ

ชื่อของมันคือ Iberospinus มาจากสถานที่ที่พบมัน นั่นก็คือคาบสมุทรไอบีเรีย และส่วนเฉพาะของชื่อ Natário เป็นการอุทิศให้กับผู้ค้นพบ Carlos Natário นักสะสมฟอสซิลสมัครเล่นที่ ค้นพบชุดฟอสซิลดั้งเดิมในปี 1999 พบซากดึกดำบรรพ์ที่มีอายุจนถึงยุคครีเทเชียสตอนต้น จุดค้นพบใกล้กับ Cabo Espichel ประเทศโปรตุเกส

ฟอสซิลของสไปโนซอร์ ถูกพบในแอฟริกา เกาะอังกฤษ และคาบสมุทรไอบีเรีย ซึ่งภายหลังได้ให้กำเนิดสายพันธุ์ใหม่เช่น Vallibonavenatrix cani และ Camarillasaurus cirugedae ตัวอย่าง ML1190 ถูกพบจากแหล่งขุด Papo Seco Formation ของโปรตุเกสที่มีอายุ 125 ล้านปี และคิดว่าเป็นจระเข้โบราณ

แต่หลังจากนั้นจึงคิดว่ามันเป็นพวก Baryonyx walkeri ซึ่งเป็นสัตว์สไปโนซอร์ที่อธิบายครั้งแรกในปี 1983 การค้นพบกระดูกใหม่จากตัวอย่างเดียวกัน รวมทั้งข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ เกี่ยวกับสไปโนซอร์ เป็นแรงผลักดันสำหรับการประเมินใหม่ชนิดใหม่

นับตั้งแต่การค้นพบ ML1190 ในปี 1999 “เราได้ค้นพบชิ้นส่วนของขากรรไกรล่าง กระดูกสะบัก หัวหน่าว กรงเล็บหนึ่งอันจากเท้า และองค์ประกอบหลายอย่างของกระดูกสันหลัง” Estraviz-López อธิบายให้ฟังในอีเมล ยิ่งไปกว่านั้น “เราต้องการประเมินซากดึกดำบรรพ์อีกครั้งโดยพิจารณาจากการค้นพบครั้งใหม่ของสไปโนซอร์” เขากล่าวเสริม โดยชี้ไปที่การวิจัยที่เกี่ยวข้องซึ่งดำเนินการในปี 2019

Advertisements
Estraviz-López และ Mateus ใช้ CT scan เพื่อศึกษาฟอสซิล ทำการวิเคราะห์เปรียบเทียบกับ ไดโนเสาร์กินเนื้อชนิด อื่นๆ และทำการวิเคราะห์สายวิวัฒนาการเพื่อร่างแผนภูมิตระกูลวิวัฒนาการที่เป็นไปได้ งานนี้นำไปสู่การตระหนักว่าตัวอย่างไม่ได้เป็นของพวก Baryonyx แต่เป็นสปีชีส์ใหม่ของสไปโนซอร์

“มันมีรูปแบบเฉพาะของเส้นประสาทในขากรรไกรล่าง เช่นเดียวกับปลายฟันตรง (ส่วนหลังของกรามล่าง) แทนที่จะเป็นอันโค้งของ Baryonyx หรือ Suchomimus (สไปโนซอร์ที่พบในไนเจอร์ แอฟริกา) ” Estraviz-López กล่าว “มันยังมีสันกระดูกยื่นลงไปที่หัวหน่าว และไม่มีส่วนยื่นของกล้ามเนื้อที่โดดเด่นในกระดูกสะบัก ท่ามกลางลักษณะอื่นๆ อีกหลายประการ”

การระบุไดโนตัวใหม่นี้ “เสริมความแข็งแกร่งให้ไอบีเรียเป็นให้เป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพของสไปโนซอร์” โดยปัจจุบันมีหลายชนิดที่ทราบว่าอาศัยอยู่ในภูมิภาคนี้

ตามที่นักบรรพชีวินวิทยาเขียนไว้ในการศึกษาของพวกเขา Estraviz-López เกี่ยวกับความสำคัญของสิ่งนี้ และวิธีการที่เข้ากับภาพรวมใหญ่ของวิวัฒนาการของสไปโนซอร์ “การมีสกุลที่เก่าแก่ที่สุดหกสกุลจากตระกูลสไปโนซอร์ในยุโรปตะวันตก เป็นกรณีที่ดีสำหรับต้นกำเนิดของพวกมันในช่วงยุคจูราสสิก” เขาตอบ “ถึงกระนั้น จนกว่าเราจะพบสไปโนซอรัสจูราสสิคอย่างไม่ต้องสงสัย เรื่องนี้ก็ยังไม่ตายตัว”

Iberospinus natrioi ไม่แตกต่างจากสไปโนซอร์ชนิดอื่นมากนักในแง่ของนิเวศวิทยา พวกมันน่าจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในหรือรอบๆ น้ำ แต่ก็สามารถเดินบนบกได้ หลักฐานชั้นหินและชั้นตะกอนแสดงให้เห็นว่าสัตว์ชนิดนี้อาศัยอยู่ใกล้ปากแม่น้ำหรือบึงน้ำกร่อย แต่เนื่องจาก “การแบ่งชั้นหิน ตะกอนวิทยา และบรรพชีวินวิทยาของแหล่งขุดนี้ค่อนข้างซับซ้อน” Estraviz-López กล่าวว่า “เขาชอบที่จะศึกษารายละเอียดมากกว่านี้”

เรากำลังเริ่มที่จะได้ภาพที่สมบูรณ์มากขึ้นของสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจและความหลากหลายที่ชัดเจนของพวกมัน นักบรรพชีวินวิทยาจำเป็นต้องขุดหากระดูกใหม่ต่อไป ในขณะเดียวกันก็ขุดหาความจริงใหม่ๆ ของพวกมันในอดีตต่อไป

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements
Advertisements