สาระน่ารู้ ในการตกปลาหมายธรรมชาติ ตกปลาหน้าดิน และอื่นๆ

ทั่วไปแล้วการตกปลาน้ำจืดไม่ว่าจะ ตกปลาหน้าดิน ทุ่นลอย เหยื่อปลอม ก็มักจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ การตกปลาตามบ่อตกปลาหรือฟิชชิ่งปาร์คโดยทั่วไป และการตกปลาตามแหล่งหมายธรรมชาติต่างๆ อันได้แก่ห้วยหนอง คลองบึง แม่น้ำ อ่างเก็บน้ำ หรือแม้แต่ตามลำคูข้างถนนก็ตาม

ตกปลาหน้าดิน ตกปลาตามหมายธรรมชาติ 

Advertisements

โดยปกติแล้วการตกปลาน้ำจืด หรือตกปลาตามแหล่งหมายธรรมชาติ ถือได้ว่าเป็นการตกปลาที่ยุ่งยากมากที่สุด ต้องเตรียมพร้อมไว้หลายๆ อย่าง หลายชนิดทั้งอุปกรณ์และเหยื่อตกปลา ตลอดจนเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นต่างๆ แม้กระนั้นโอกาสที่จะได้ตัวยังมีเปอร์เซ็นต์น้อย ต้องใช้ความมานะอดทนสูง ใครที่ประสพความสำเร็จแม้จะเป็นเพียงแค่ตัวสองตัวก็ตาม ย่อมถือได้ว่ามีใจรักในการตกปลาอย่างแท้จริง

หมายธรรมชาติที่อยู่ใกล้ตัวและหาได้ง่ายที่สุด เห็นจะเป็นหนองน้ำหรือลำคูข้างทางถนนหนทางต่างๆ หมายที่ว่านี้จะมีปลาเล็กๆ อาศัยอยู่มากมาย เช่นปลาหมอ ปลาช่อน ประดุก ปลาสลาด

หมายต่อมาที่ไกลออกไปหน่อย คือแม่น้ำลำคลอง ที่มีกระแสน้ำไหลขึ้นลง หมายนี้จะมีปลาใหญ่ปะปนอยู่ด้วยเสมอ และมีปลาให้เลือกตกได้มากชนิด ไม่ว่าจะเป็นสวาย เทโพ สายยู สังกะวาด กด ตะเพียน กราย กระมัง กระโห้ กระเบน และอื่นๆ อีกมากมาย

หมายสุดท้ายเห็นจะได้แก่อ่างเก็บน้ำและเขื่อนขนาดเล็กใหญ่ จะได้รับการปล่อยพันธุ์ปลาต่างๆ จากกรมประมง ตลอดจนปลาอื่นๆ ที่มีอยู่ในแหล่งน้ำเดิม

หมายธรรมชาติแต่ละหมายย่อมจะมีปลาแตกต่างชนิดกันออกไป ดังนั้นนักตกปลาควรเรียนรู้และฝึกสังเกตในการจำแนกปลาแต่ละชนิด เพื่อจะได้ใช้เหยื่อให้เหมาะสมถูกต้องกับชนิดของปลาที่อาศัยอยู่ในหมายนั้นๆ

วิธีการสังเกตจำแนกชนิดปลา

ถ้าเป็นหนองน้ำหรือบึงธรรมชาติต่างๆ เราอาจสังเกตหรือสอบถามได้จากพวกหาปลาในท้องถิ่นนั้น เช่น พวกวางเบ็ดราว วางตาข่าย ตลอดจนพวกทอดแห แต่ถ้าใครขี้อายหรือไม่มีพวกให้ถามหาอยู่แถวๆ นั้น เราก็พอจะสังเกตได้จากการขึ้นเล่นน้ำของปลา ดังนี้

ปลาช่อน-ชะโด : จะโผล่ขึ้นหายใจทุก ๆ 20 นาที บริเวณที่ปลาช่อนจะโผล่ให้เห็นมักจะเป็นบริเวณที่มีร่มเงาใกล้ตลิ่ง

ปลาหมอ :
จะขั้นเล่นน้ำจ๋อมแจ๋มตลอดเวลา และจะขึ้นเร็วลงเร็ว

ปลาสวาย :
มักจะขึ้นเล่นน้ำกลางย่อโดยเฉพาะเวลาเข้ามืดและใกล้ค่ำ ลักษณะการเล่นน้ำจะขึ้นจนน้ำแตกกระจาย ถ้าตัวใหญ่มาก จะดังสนั่นคล้ายใครขว้างของหนักๆ ลงน้ำเลยทีเดียว

ปลานิล :
จะขึ้นหายใจโดยไม่ค่อยเห็นตัว แต่สังเกตได้ตรงพรายน้ำที่ผุดขึ้นมา มักจะขึ้นเรียงกัน 3 เม็ด

ปลากราย :
เป็นปลาที่ชอบเล่นน้ำอวดโฉมตัวเอง จะขึ้นวาดแพนหางมองเห็นจุดสีดำอย่างชัดเจน โดยมากมักจะขึ้นใกล้ชายตลิ่ง หรือบริเวณที่มีตอไม้อยู่ในน้ำ

ปลายี่สกเทศ :
ถ้าไม่ใหญ่มาก มักชอบกระโดดน้ำในตอนเช้าก่อนแสงแดดจะกล้าแรง ถ้ามีหลายๆ ตัวจะเกาะกลุ่มเล่นน้ำจนเดือดพล่าน

ปลากระสูบ :
ชอบขึ้นไล่ฮุบลูกปลาในตอนเช้าตรู่เสียงดังจ๋อม จะไม่มีพรายน้ำนอกจากลักษณะของน้ำคล้ายหมุนวน แต่ถ้าเป้นกระสูบฝูงใหญ่เวลาไล่เหยื่อจะมองดูเหมือนฝนตกซ่าลงมาเป็นบริเวณกว้างทีเดียว

แม่น้ำลำคลองเป็นหมายที่สังเกตจำแนกปลาได้ไม่กี่ชนิด เนื่องจากส่วนมากกระแสน้ำจะไหลเกือบตลอดเวลา และอาจจะมีคลื่นจากเรือสัญจรไปมา ที่เห็นได้ง่ายและชัดคือปลาสวายและกราย ส่วนปลาอื่นๆ นั้นเรามักจะทราบจากแหล่งที่เคยตกประจำเช่น

ปลาตะเพียน : เป็นปลาที่อาศัยหากินอยู่ริมฝั่ง ใต้แพลอยน้ำ และใกล้ท่าน้ำทั่วๆ ไป

ปลากราย : มักอาศัยเกาพันอยู่กับเสา ที่ปลูกอยู่ในน้ำหรือตอไม้ ทั้งนี้เพราะปลากรายชอบวางไข่เกาะติดอยู่กับตอไม้

ปลาสวาย : ชอบหากินตามพื้นหน้าดินตั้งแต่หน้าท่าน้ำออกไปจนถึงบริเวณกลางแม่น้ำลำคลอง ในบริเวณท่าน้ำบางแห่งที่ไม่ค่อยมีคนรบกวน ปลาสวายก็มักจะเข้ามาหากินเศษอาหารที่ถูกทิ้งลงน้ำอยู่เป็นประจำ

ปลากด : เป็นปลาที่หากินตามพื้นหน้าดิน ลัดเลาะไปเรื่อยๆ ตามตอม่อสะพานเป็นจุดหนึ่งที่มักจะตกได้ปลากดอยู่เสมอๆ

ปลาตะโกก : ก็เป็นปลาอีกชนิดหนึ่งที่ชอบอาศัยหากินพัวพันอยู่กับตอม่อสะพาน แต่ปลาตะโกกจะหากินตั้งแต่ระดับกลางน้ำลงมาจนถึงพื้นหน้าดิน

ตกปลาหน้าดิน ชนิดของปลาตามอ่างเก็บน้ำหรือทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่มักจะเป็นปลาที่อาศัยประจำถิ่นไม่ค่อยโยกย้ายหนีไปไหน นอกจากจะโดนรังควาญมากๆ โดยเราจะสังเกตุแหล่งหมายปลาเหล่านี้ได้ไม่ยากนักเช่น

บริเวณที่มีตอไม้ใต้น้ำ : มักจะมีปลาอาศัยอยู่เสมอ ทั้งปลาเล็กที่อาศัยหลบภัยและปลาใหญ่ที่จ้องจะกินปลาเล็กเป็นอาหาร แต่ตอไม้เหล่านี้ก็เป็นอุปสรรคสำคัญในการตกปลาที่จะให้ได้ตัวพอควร เนื่องจากสายเบ็ดอาจเกี่ยวพันกับตอไม้จนขาดได้

เวิ้งหรืออ่าวเล็กๆ : บริเวณเวิ้งน้ำที่คล้ายอ่าวเล็กๆ ถ้ามีร่มเงาไม้ทอดอยู่ด้วย เรามักไม่พลาดหวังกับปลาช่อนหรือชะโด

แนวพืชใต้น้ำ : บริเวณเหล่านี้มักจะมีปลาหมอตะกรับหรือหมอช้างเหยียบให้ตกได้เสมอๆบริเวณรอบๆ แพ

หลายๆ อ่างเก็บน้ำหรือทะเลสาบที่มีกิจการแพพัก บริเวณรอบๆ แพหรือใต้แพมักจะเป็นที่อาศัยของปลาแทบทุกชนิด เพราะมันจะมาอาศัยหากินเศษอาหารที่ตกหล่นลงใต้แพ ซึ่งเราอาจตกปลาเหล่านี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องเอาเรือออกไปหาหมายไกลๆ แต่ปลาบริเวณนี้จะเป็นปลาประเภทที่กินเบ็ดยากอยู่สักหน่อย ต้องตกอย่างเงียบๆ และปลอดคนหน่อยก็ดี

 

ข้อควรรู้ในการตกปลาหมายธรรมชาติ

มีหลายสิ่งที่ต้องระวังเมื่อต้องไปตกปลาในหมายธรรมชาติ เพราะสิ่งเหลานี้อาจทำให้การตกปลาไม่ราบรื่นนัก มาดูว่ามีอะไร

สีสันของเครื่องแต่งกาย

Advertisements

บางคนมักจะพูดว่าปลาตาบอดหรือไม่สามารถจำแนกสีได้ ซึ่งความจริงแล้วปลาจะแยกสีได้หรือไม่ก็ยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ แต่ที่แน่ๆ ก็คือในแหล่งน้ำธรรมชาติทั่วๆ ไป ถ้านักตกปลาท่านใดแต่งตัวสีฉูดฉาดบาดตามักจะตกปลาไม่ค่อยได้ตัว เขาว่าปลามันตื่นน่ะ

ความเงียบ

เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของการตกปลาตามแหล่งหมายธรรมชาติ ถ้าคิดจะไปตกโดยนำวิทยุติดต่อไปฟังเพลง ฟังข่าวให้ทันโลกทันเหตุการณ์แล้วละก้อ ขอร้องเถอะครับนอนฟังข่าวที่บ้านอย่าไปเลยเสียดีกว่า
ยกเว้นคุณจะตกปลาบนสะพานสูงจากพื้นน้ำมากๆ นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

แสงและเงา

ในครั้งเราอาจจะเผลอลืมเรื่องเงาของตัวเองที่ลอดลงไปในน้ำ เพราะปลาที่อยู่ใต้น้ำนั้น สามารถมองเห็นเงาวูบวาบของตัวเราเองได้ และเรื่องแสดงก็เช่นกันที่มีผลอย่างมากต่อการตกปลาด้วยเหยื่อปลอม ถ้าไม่มีแสดงเพื่อถ่ายทอดความแวววาวหรือสีสันของเหยื่อแล้ว โอกาสที่จะได้ตัวปลามาเชยชมนั้นยากมาก แม้แต่เหยื่อที่มีเสียงช่วยในตัวก็ตาม

น้ำขึ้นน้ำลง

Advertisements

ปลาแม่น้ำเกือบทุกชนิดมักจะกินเหยื่อในขณะกระแสน้ำเริ่มไหลขึ้นหรือเริ่มไกลลง ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำไหลเอื่อยๆ แต่ในช่วงที่กระแสน้ำไหลแรงปลาก็ยังกินเหยื่ออยู่แต่จะช้าลงบ้าง ซึ่งนักตกปลาแม่น้ำทุกคนรู้ถึงพฤติการเรื่องนี้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงสามารถกล่าวได้ว่าไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้องไปเฝ้าตกปลาแม่น้ำทั้งวันทั้งคืน อีกช่วงหนึ่งคือในบางฤดูเมื่อน้ำในแม่น้ำไหลลงมากจนระดับน้ำต่ำ จะทำให้น้ำขุ่นมากจนไม่เหมาะแก่การตกปลา

ฤดูกาล

ในแต่ละช่วงของฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อน ฤดูหนาว หรือ ฤดูฝน ล้วนมีผลต่อการตกปลาธรรมชาติทั้งนั้น อย่างเช่นฤดูร้อนที่มีอากาศอบอ้าว น้ำตามหนองบึงเกือบจะเหือดแห้งหรือน้ำในคลองลงไปอยู่ก้นคลอง การตกปลาตามแม่น้ำลำคลองในช่วงฤดูที่น้ำลงงวดนี้จะอาจไม่ค่อยได้ผล ส่วนตามหนองบึงก็อาจจะได้ปลาที่ตัวไม่ค่อยโต เพราะปลาในฤดูนี้มักจะผอมและชอบหลบซ้อนตัว

แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูฝนที่ทุกแห่งมีแต่น้ำ ปลาที่จำศีลมุดินอยู่จะพากันออกมาหาแหล่งน้ำเพื่อผสมพันธุ์แพร่ลูกแพร่หลาน ในฤดูนี้จะหาหลาได้ง่ายและชุกชุม ส่วนในฤดูหนาวเป็นช่วงที่ปลาอวบอ้วนสมบูรณ์ที่สุดแทบทุกตัวจะมีไข่เต็มท้องใกล้คลอด ทางกรมประมงจึงได้ออกกฎระเบียบห้ามทำการจับปลาอยู่ช่วงหนึ่งเพื่อปล่อยโอกาสให้ปลาออกลูกออกหลานให้เรียบร้อยก่อน แต่คนเราก็ดันไปติว่าปลาคลอดแล้วจะผอมและกินไม่อร่อย – -.

ก็จบแล้วสำหรับเรื่อง สาระน่ารู้ ในการตกปลาหมายธรรมชาติ ตกปลาหน้าดิน ก็หวังว่าจะอ่านสนุก และเป็นประโยชน์กับน้าๆ นะครับ

อ่านเพิ่มเติมเรื่อง ทำความเข้าใจปลาให้มากกว่าเดิม

พื้นฐานตกปลาแหล่งน้ำนิ่งด้วยทุ่นลอย ให้เข้าใกล้โปร

เทคนิค ตกปลากราย ด้วยเหยื่อเป็น

Advertisements