นกแก้วชนิดเดียวบนโลก ที่ถูกรัฐบาลตั้งค่าหัว ล่านานกว่า 100 ปี

คีอา เป็นชื่อของนกแก้วที่แปลกประหลาด ที่พบได้เฉพาะในนิวซีแลนด์ มันตัวใหญ่ และได้ชื่อว่าเป็นนกแก้วเทือกเขาเพียงชนิดเดียวบนโลก แต่นกชนิดนี้! มีเรื่องราวที่ไม่ธรรมดา พวกมันไม่ได้เป็นนกแก้วกินพืช หนอน แมลง เท่านั้น แต่ยังมีพฤติกรรมของ อีแร้ง อินทรี ที่ทั้งกินซากสัตว์และล่าสัตว์เอง และความจริงมันคล้ายลิงที่ลพบุรีด้วย เพราะปัจจุบันคีอา มีพฤติกรรมฉกชิงวิงลาว มันพังข้าวของ ฉีกชิ้นส่วนรถ แย่งอาหาร และอื่นๆ อีกมากมาย แต่เป็นเพราะอะไร คีอาในอดีตจึงถูกตั้งค่าหัว เดี๋ยวมารับชมกัน

นกแก้ว

นกแก้วคีอา คืออะไร?

Advertisements

นกแก้วคีอา หรือ เคีย (kea) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า เนสเตอร์ โนตาบิลิส (Nestor notabilis) เป็นนกแก้วที่อยู่ในสกุลเนสเตอร์ โดยนกในสกุลนี้มีอยู่ 4 ชนิด หนึ่งคือ นกแก้วกาคา (Nestor meridionalis) สองคือ คีอา (Nestor notabilis) สามคือ นอร์ฟอล์กกาคา (Nestor productus) ซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้ว และสี่คือ ชาทัมกาคา (Nestor chathamensis) ตัวนี้ก็สูญพันธุ์ไปแล้วเช่นกัน ในขณะที่ญาติใกล้ชิดที่สุดที่ยังไม่สูญพันธุ์ของนกแก้วในสกุลเนสเตอร์ ก็คือ นกแก้วคาคาโป (Strigops habroptilus) …ที่เป็นนกแก้วบินไม่ได้ชนิดเดียวบนโลก

นกแก้วคีอา หรือ เคีย (kea) / เนสเตอร์ โนตาบิลิส (Nestor notabilis)

คีอา จัดเป็นนกแก้วขนาดใหญ่ ที่ยาวได้เกือบ 50 เซนติเมตร และหนักประมาณ 1 กิโลกรัม โดยตัวผู้จะใหญ่กว่าตัวเมียประมาณ 5% แต่จะหนักกว่าถึง 20% เป็นนกที่มีขนสีเขียวมะกอกเป็นส่วนใหญ่ ที่ใต้ปีกจะมีขนสีส้มหรือแดงสดใส ปีกด้านนอกบางส่วนจะมีสีฟ้าหม่นๆ

คีอาเป็นนกที่แปลกกว่านกแก้วส่วนใหญ่บนโลก มันอาศัยอยู่บนภูเขา หรือ เทือกเขาสูง จึงทำให้มันได้ชื่อว่า เป็นนกแก้วภูเขาชนิดเดียวบนโลกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นสัตว์เฉพาะถิ่นของนิวซีแลนด์ เป็นนกที่พบได้ตั้งแต่ หุบเขา ที่ราบสูงและป่าชายฝั่งของชายฝั่งตะวันตกของเกาะใต้ ไปจนถึงเทือกเขาแอลป์ของเกาะใต้

คีอาตัวผู้หนึ่งตัวจะมีตัวเมียได้หลายตัว พวกมันมีพื้นสำหรับผสมพันธุ์ที่แตกต่างจากนกแก้วทั้งหมดบนโลก โดยจะตั้งอยู่ที่ไหล่เขาที่สูงชัน และจะต้องสูงอย่างน้อย 1,600 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล และมันเป็นนกแก้วเพียงไม่กี่ชนิดที่ใช้เวลาส่วนใหญ่เหนือแนวยอดไม้ ซึ่งคล้ายกับเหยี่ยวหรืออินทรี ในเรื่องอายุขัย คีอาในป่าจะอยู่ได้มากกว่า 20 ปี

ทำไม่? คีอา จึงถูกตั้งค่าหัว!

ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่านกชนิดนี้กินอะไร? … คีอา ถูกระบุว่าเป็นนกแก้วที่กินไม่เลือก! มันกิน พืช ผัก หนอน แมลง สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กก็กินได้ และ! ยังพบว่า คีอาเป็นนกกินซากเหมือนแร้ง และยังพฤติกรรมโจมตีสัตว์ขนาดใหญ่เหมือนนกอินทรีอีกด้วย ที่ผ่านมา มีรายงานว่าคีอา โจมตี กระต่าย สุนัข และแม้กระทั่งม้า แถมยังมีนักวิจัยบางคน เชื่อว่า คีอา โจมตีและกินโมอาด้วยวิธีเดียวกัน

เรื่องที่คีอาฆ่าและกินแกะ ถือเป็นข้อถกเถียงมากที่สุด และดูเหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้นที่รัฐบาลนิวซีแลนด์ในสมัยนั้น ตั้งค่าหัวนกชนิดนี้ โดยตามบันทึกในช่วงกลางทศวรรษที่ 1860 ซึ่งเป็นช่วงที่คนเลี้ยงแกะ เริ่มบุกเบิกที่ดิน และย้ายมาอยู่บริเวณที่ราบสูงเพื่อเลี้ยงแกะ หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็สังเหตุเห็นว่า มีแกะจำนวนหนึ่งเกิดบาดแผลที่ผิดปกติที่บริเวณด้านข้างหรือเอว …ในตอนนั้นพวกเขาคิดว่า อาจเกิดจากโรคชนิดที่ยังไม่รู้จัก

แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป คนเลี้ยงแกะเริ่มเห็นบาดแผลมากขึ้น รวมถึงมีแกะตายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ และ! จากที่เคยสงสัยว่าเป็นโรคอะไรบ้างอย่าง ก็เปลี่ยนไปสงสัย “คีอา” …ซึ่งเป็นนกแปลกๆ ที่พวกเขาพบหลังจากเดินทางมาอยู่บริเวณที่ราบสูง

หลักฐานแรกเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2411 (1868) หัวหน้าคนเลี้ยงแกะ เจมส์ แมคโดนัลด์ ได้พบเห็นคีอา เข้าโจมตีแกะกับตา จากนั้นก็มีเรื่องเล่าที่คล้ายกันเกิดขึ้นไปทั่วและบ่อยครั้งมากขึ้น

จน! อัลเฟรด วอลเลซ (Alfred Wallace) นักธรรมชาติวิทยา และนักชีววิทยาชื่อดัง ก็ยอมรับในเรื่องที่ว่า นกแก้วคีอา มีพฤติกรรมนี้ และยังเขียนเอาไว้ในหนังสืออีกว่า “มันเป็นหนึ่งในตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม”

และดูเหมือนคีอา จะโจมตีบ่อยเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว ในตอนนั้นแกะจะมีขนที่ยาวและถูกเลี้ยงไว้ในบริเวณที่เต็มไปด้วยหิมะ ด้วยเหตุนี้แกะในช่วงเวลานี้จะเป็นกลุ่มที่เปราะบางที่สุด ในทางกลับกัน แกะที่เพิ่งถูกตัดขนในช่วงฤดูร้อน พวกมันจะไม่ค่อยถูกโจมตี

และเพราะในสมัยนั้น การบันทึกภาพ มันเป็นอะไรที่ทำได้ยากมาก หลักฐานการโจมตีของคีอา ทั้งหมดจะเป็นเพียงคำบอกเล่า ซึ่งคนทั่วไปก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง วันเวลาผ่านไป การโจมตีก็ยังคงดำเนินต่อไป …แน่นอนว่าในระหว่างนั้น คนเลี้ยงแกะก็เริ่มตอบโต้คีอาไปบ้างแล้ว …พวกเขาพยายามจัดการคีอาทุกตัวที่พวกเขาเห็น

และเพราะแบบนี้! เลยทำให้รัฐบาลนิวซีแลนด์ตั้งค่าหัวจับตายคีอา โดยอ้างว่า มันเป็นนกที่กินปศุสัตว์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแกะ และแม้ความความตั้งใจแรกของการตั้งค่าหัว จะให้ฆ่านกเฉพาะที่อยู่ใกล้ฟาร์มเท่านั้น แต่บางคนก็เข้าไปล่าถึงในอุทยานแห่งชาติและในพื้นที่คุ้มครองอื่นๆ อีกด้วย

จนในปี พ.ศ. 2505 ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตววิทยา เจ.อาร์. แจ็คสัน ก็ให้ความเห็นว่า แม้ว่านกแก้วคีอา จะโจมตีแกะที่ป่วยหรือบาดเจ็บ แต่มันก็ไม่ใช่นกที่จะทำเรื่องแบบนี้อย่างจริงจัง พวกมันเป็นนกกินซาก บางที! เหตุที่พวกมันโจมตี อาจเป็นเพราะคิดว่าแกะพวกนี้ตายหรือกำลังจะตายก็เป็นได้

การล่านกที่ดำเนินไปร้อยปี ได้ทำให้คีอาต้องตายไปอย่างน้อย 150,000 ตัว จนในปี พ.ศ. 2513 (1970) การตั้งค่าหัวก็ถูกยกเลิก และพวกมันก็ได้รับการคุ้มครองบางส่วน จากนั้นหน่วยงานด้านการอนุรักษ์ก็เริ่มสำรวจประชากรของคีอาที่เหลือ พวกเขาพบนกชนิดนี้เหลืออยู่เพียง 5,000 ตัวเท่านั้น! …เมื่อลองคิดดู หากคีอาไม่ใช่นกภูเขาสูง ก็คงสูญพันธุ์ไปเหมือนไทลาซีน ที่ถูกรัฐบาลออสเตเรียตัวค่าหัวแล้ว

จนในปี พ.ศ. 2529 นกแก้วคีอาก็ได้รับการคุ้มครองอย่างสมบูรณ์ แต่ถึงแม้! นกจะได้รับการคุ้มครองและไม่มีค่าหัว คนเลี้ยงแกะก็ยังแอบฆ่านกแก้วคีอาอยู่ดี เฉพาะที่จับคนฆ่าได้ก็หลายสิบตัว

ปัจจุบัน! สิ่งที่ทำให้ประชากรของคีอาลดจำนวนลงคือ รถยนต์ และสัตว์รุกรานอย่างแมว หนู พอสซัม อาหารของมนุษย์ ทั้งหมดนี้ รบกวนอัตราความสำเร็จในการขยายพันธุ์ของนกลงอย่างมาก และจากการประมาณประชากรนกที่ทำขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2560 (2017) ระบุว่า มีนกแก้วคีอาระหว่าง 3,000 – 7,000 ตัวในป่า ส่วนสถานะปัจจุบันคือใกล้สูญพันธุ์

สุดท้าย! หลังจากที่ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน คีอาได้รับการปกป้องอย่างจริงจัง แต่ดูเหมือนพวกมันจะเป็นนกแก้วที่ฉลาด และแข็งแรงมาก พวกมันทำตัวคล้ายกับลิงที่ลพบุรี คีอา ทั้งก่อกวนมนุษย์ แย่งอาหาร ทำลายข้าวของ อย่าว่าแต่กระเป๋าเลย นกชนิดฉีกบางส่วนของรถยนต์ออกมาก็ยังได้ และเคยมีคนวางกล้องเอาไว้ มันฉกแล้วบินหนีไปด้วย

และเพื่อความปลอดภัยของมนุษย์และนก จึงมีคำเตือนตัวใหญ่ๆ เอาไว้ว่า “อย่าให้อาหารคีอา” …เพราะเมื่อพวกมันบินมา แล้วไม่ได้สิ่งที่ต้องการ สิ่งที่พวกมันจะทำ ก็คือการค้นหา และการทำลายข้าวของก็คือสิ่งที่พวกมันทำได้ดี

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements