ลิงยักษ์ ‘ไจแกนโตพิธิคัส’ ลิงตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์รู้จัก

ตั้งแต่ตัวเยติไปจนถึงคิงคองในฮอลลีวูด ตำนานและเรื่องราวมากมาย ล้อมรอบลิงขนาดมหึมาชนิดนี้มาโดยตลอด "ไจแกนโตพิธิคัส (Gigantopithecus blacki )" เป็นลิงตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เมื่อยืนมันสูงได้ถึง 3 เมตร มันตัวใหญ่ ฉลาดและยังดุร้าย

ลิงยักษ์

ประวัติการค้นพบ

Advertisements

ไจแกนโตพิธิคัส (Gigantopithecus blacki) จัดเป็นลิงไม่มีหางที่ใหญ่ที่สุดในวงศ์ลิงใหญ่ (Hominidae) มีชีวิตอยู่ในสมัยไพลสโตซีน ในยุคควอเทอร์นารี เมื่อราว 2.6 – 0.8 ล้านปีก่อน

ฟอสซิลของมันถูกค้นพบครั้งแรกโดยบังเอิญ ในปี 1935 โดยนักบรรพชีวิน ชาวเยอรมันลูกครึ่งชาวดัตช์ชื่อ ราล์ฟ ฟอน เคอนิกสวาลด์ (Ralph von Koenigswald) ในร้านขายยาแผนโบราณจีนแห่งหนึ่งในฮ่องกง (รอดจากการถูกบดเอาไปทำยา)

เคอนิกสวาลด์สังเกตพบว่า ฟันกรามที่พบในร้านขายยาดังกล่าว มีขนาดใหญ่ผิดปกติ ซึ่งน่าจะเป็นฟันกราม ของสัตว์ตระกูลไพรเมตชนิดหนึ่ง จึงตั้งชื่อว่า ไจแกนโตพิธิคัส แปลว่า “ลิงยักษ์” โดยคาดว่าจะมีอายุประมาณ 700,000 – 125,000 ปีมาแล้ว

ต่อมาในปี 1947 นักวิชาการชาวจีนได้ออกสำรวจ และขุดค้นตามถ้ำหลายแห่ง จนได้พบฟันของไจแกนโตพิธิคัส มากกว่า 1,000 ซี่ และพบกระดูกขากรรไกรของมันด้วย

ที่สำคัญคือพวกเขาพบแหล่งอาศัยที่เชื่อว่าเป็นของ “ไจแกนโตพิธิคัส” และยังพบปะปนกับกระดูกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม ชนิดอื่นๆ เช่น หมีแพนด้า และโฮโม อีเร็กตัส กระดูกขากรรไกรและฟันของ ไจแกนโตพิธิคัส ที่พบในประเทศจีนนี้ มีอายุระหว่าง 400,000 – 300,000 ปีมาแล้ว ซึ่งตรงกับช่วง สมัยไพลสโตซีน

ลักษณะของไจแกนโตพิธิคัส

ไจแกนโตพิธิคัส มีรูปร่างลักษณะคล้ายลิงอุรังอุตัง ซึ่งเป็นญาติในปัจจุบัน มีความสูงอยู่ที่ 2.7 – 3 เมตร 9 ฟุต น้ำหนัก 200-300 กก.

มีฟันกรามหรือฟันเคี้ยวมีขนาดใหญ่มาก ขากรรไกรใหญ่เทอะทะ ฟันเขี้ยวใหญ่ แต่ก็ไม่ใหญ่เท่าฟันอื่นๆ และมีเคลือบฟันหนาเหมือนมนุษย์ ลักษณะบางอย่างเหมือนกับ Sivapithecus (ลิงที่สูญพันธุ์ไปแล้ว) แต่บางอย่างก็คล้ายมนุษย์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เป็นสายวิวัฒนาการอีกสายหนึ่ง

Advertisements
เป็นลิงที่มีการเดินคล้ายกอริลลา การที่ไจแกนโตพิธิคัส มีขากรรไกรใหญ่เทอะทะ แสดงว่ามีการปรับตัวให้เข้ากับการกิน หรือเคี้ยวอาหารที่ค่อนข้างแข็ง ฟันเขี้ยวก็สึก แสดงถึงความสัมพันธ์กับอุรังอุตังและมนุษย์ การเคี้ยวบด อาหารแข็ง อาหารหลักคือ ต้นไผ่ เบิร์ช และโอ๊ก รวมถึงสมุนไพรและเฟิร์นที่มีค่าต่ำหลายชนิด

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements