ตกปลา แล้วปล่อย Catch & Release

การตกปลาได้ตัวขึ้นมาแล้วปล่อยกลับคืนลงน้ำไป หรือที่ภาษาอังกฤษ Catch & Release เป็นเรื่องที่เหล่านักตกปลาแบบเกมกีฬาในบ้านเราพูด แล้วปฏิบัติกันมากขึ้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นการอนุรักษ์พันธุ์ปลาที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง และคงเป็นสิ่งที่น่าพอใจสำหรับผู้อื่นที่ได้เห็นปลาตัวนั้นว่ายหายไปอย่างรวดเร็ว

ปล่อยปลา

ตกปลา และ การปล่อยปลา

Advertisements

แต่ปลาตัวที่เราปล่อยกลับคืนไปนั้นจะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้มันตกอยู่ในสภาพที่บอกช้ำจนเกินไปมิใช่เมื่อปลดเบ็ดเสร็จแล้วก็จับเหวี่ยงตูมโยนลงน้ำไปเลย ซึ่งเทคนิค “การปล่อยปลา” ที่เอามาแนะนำนี้ ก็เพื่อต้องการให้มันมีชีวิตอยู่รอดและเจริญเติบโตต่อไปในภายภาคหน้า มีโอกาสจะกลับมาเป็นคู่ต่อสู้กับเราอีก เป็นเทคนิควิธีที่ต้องเกี่ยวข้องกับเทคนิคอื่นๆ อีกหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นวิธีการตกปลา การเลือกใช้อุปกรณ์ วิธีการสู้ปลา และวิธีการเอาปลาขึ้นจากน้ำ

ปล่อยปลา

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกับการตกปลาล่าเหยื่อ และพยายามใช้เหยื่อปลอมให้มากกว่าเหยื่อเป็นหรือเหยื่อสดเป็น วิธีที่จะทำให้คู่ต่อสู้ของคุณได้รับอันตรายน้อยที่สุด และถือว่าเป็น “เกมกีฬา” มากที่สุด

เพราะตามธรรมชาติแล้ว พวกปลาล่าเหยื่อเมื่อคว้าเหยื่อได้สักครู่แล้ว มันจะกลืนกินเหยื่อลงท้องไปเลย เป็นต้นเหตุทำให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะภายในได้ง่าย เปอร์เซ็นต์รอดตายจะอยู่ประมาณ 20-40 % เท่านั้น

ถ้าคิดว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้เหยื่อเป็นได้ เพราะมันไม่มาแยแสกับเหยื่อปลอมที่ไม่ว่ารุ่นไหนที่เอามาตีจนแขนห้อยแล้วก็ตาม ก็ควรพยายามวัดเบ็ดให้เร็วที่สุดหลังจากที่รู้ว่าปลาฉวยเหยื่อแล้วเพื่อจะทำให้คมเบ็ดเกี่ยวติดอยู่แค่ปากปลาเท่านั้น

มันจะได้ไม่บอบช้ำมากเมื่อปล่อยกลับคืนลงไป แต่ถ้าต้องการวัดแบบได้ตัวแน่นอน ก็ย่อมแน่นอนท่าเราจำต้องถือคันรอให้ปลากลืนเหยื่อเสียก่อน เมื่อเกิดกรณีที่จำเป็นเช่นนี้ก็ต้องใช้วิธีตัดสายเบ็ดให้ใกล้กับปากปลามากที่สุด แล้วจึงปล่อยคืนลงน้ำไปทั้งที่ยังมีเบ็ดเกี่ยวติดลึกอยู่ข้างใน ซึ่งก็ยังดีกว่าการเพียรพยายามที่จะกระทุ้งปลดเบ็ดออกมาให้ได้

ใช้ตัวเบ็ดไม่มีเงี่ยง

วิธีการที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งที่จะทำให้ปลาตัวที่ปล่อยคืนลงไปนั้นไม่บาดเจ็บมาก คือการใช้ตัวเบ็ดไม่มีเงี่ยง โดยนักตกปลากลุ่มอนุรักษ์เขาจะใช้คีมมาพับเงี่ยงลง ซึ่งเทคนิควิธีนี้กว่าที่เราจะได้รับชัยชนะก็จำต้องอาศัยฝีมือการสู้ปลานานกว่าปกติหน่อย

ตัวเบ็ดไม่มีเงี่ยง

การใช้อุปกรณ์ตกปลาขนาดเล็กก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้ปลาไม่บอบช้ำมาก แต่การใช้คันเบ็ดและขนาดสายในระดับที่เล็กกว่าขนาดหรือชนิดของปลาที่ต้องการตกมากเกินไปเพราะต้องการทำเรกคอร์ดต่างๆ ก็ดี เป็นวิธีการที่ขัดต่อวัตถุประสงค์ในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะเมื่อปลาติดเบ็ดแล้วเราจะต้องใช้เวลาสู้กับปลานานกว่าปกติ ทำให้มันเหนื่อยล้ามากเกินไปกว่าที่คุณจะได้รับชัยชนะหรือกว่าที่มันจะยอมแพ้ จึงเท่ากับว่าเปอร์เซ็นต์ของการอยู่รอดย่อมลดน้อยลงไปด้วย

ดังนั้นถ้าต้องการ “ตกแล้วปล่อย” จริงๆ ก็ควรคัดเลือก ใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสม และพยายามสู้กับปลาให้เต็มที่ในระดับที่อุปกรณ์ที่ใช้อยู่สามารถรับไหว เพื่อเอาตัวปลาเข้ามาสู่สวิงให้เร็วที่สุด แต่ข้อควรระวังของวิธีนี้คือเมื่อปลาตัวนั้นยังไม่หมดแรงขณะเข้ามาอยู่ใกล้ฝั่ง การสะบัดตัวสู้เบ็ดของมันอาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ตัวมันเองได้ จากการกระแทกตัวชนกับขอบตลิ่ง

ปลาส่วนมากที่ปล่อยคืนลงน้ำไปแล้วแต่กลับลอยขึ้นมานอนตายอยู่บนผิวน้ำ มักเกิดจากอาการบาดเจ็บเพราะนักตกปลาใช้วิธีการจับตัวปลาที่ไม่ถูกต้อง อย่างเช่นการจับปลาที่เบ้าตาเพื่อปลดเบ็ด การจับยกที่เหงือก การจับบีบลำตัวตัวแรงเกินไป หรือการจับโดยเหวี่ยงลงไปในน้ำ ซึ่งถ้าเพื่อนนักตกปลาหลีกเลี่ยงกับการกระทำเช่นนี้ ปลาตัวนั้นก็จะมีโอกาสไปฟิตตัวฝึกปรือฝีมือแล้วกลับมาเป็นคู่ต่อกรของคุณได้อีกในวันข้างหน้า

อ่านเพิ่มเติม เรื่องของตัวเบ็ด

สวิงที่ใช้เป็นอุปกรณ์ช้อนปลาขึ้นจากน้ำ

Advertisements

ถือเป็นตัวการสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ปลาเกิดอาการติดเชื้อ เพราะเส้นตาข่ายที่เสียดสีไปมากับตัวปลาจะถูไถให้เมือกปลาหลุดออกจากตัวจนเกล็ดของมันฉีกขาดหลุดลุ่ยได้ง่าย ทำให้เชื้อโรคแทรกซึมเข้าไปในบาดแผลจนเป็นอันตรายได้ในภายหลัง ดังนั้นถ้าคุณไม่ต้องการเอาตัวปลาก็ไม่ควรที่จะใช้สวิงช้อน แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องเลือกใช้สวิงชนิดตาข่ายยางซึ่งก็คงหาซื้อใช้ในบ้านเราไม่ได้อีกนั่นแหละ จึงควรเลือกใช้วิธีการเอาปลาขึ้นจากน้ำด้วยวิธีอื่นแทน เช่น การจับปาก การจับท้อง หรือการจับทางด้านหลังเป็นต้น

การล้างมือ ด้วยน้ำธรรมดาก่อนที่จะมาจับต้องตัวปลา ก็เป็นวิธีการอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยป้องกันไม่ให้ปลาติดเชื้อจากพวกกรดหรือด่างที่อาจมีติดอยู่ในมือเราได้เป็นอย่างดี ที่อาจจะแพร่ซึมเข้าไปในตัวปลาได้

การไม่ต้องเอาปลาขึ้นจากน้ำเลย

Advertisements

เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สำควรนำมาใช้เมื่อต้องการปล่อยปลาคืนไป กับพวกปลาฟันคมเราอาจจะใช้วิธีจับใต้เหงือกโดยปล่อยตัวปลาส่วนล่างยังแช่อยู่ในน้ำขณะปลดเบ็ด ไม่ว่าจะด้วยมือหรือที่ปลดเบ็ดก็ตามส่วนปลาที่มีฟันไม่คมเราจะใช้วิธีจับเฉพาะสายลีดเดอร์หรือสายเบ็ดขณะปลดเบ็ดก็ย่อมได้ ซึ่งวิธีการที่ไม่ยกเอาตัวปลาขึ้นจากน้ำเลยนี้ ถื้อว่าเป็นเทคนิควีการปล่อยปลาคืนลงน้ำที่ดีที่สุด

ล่ามปลาไว้ด้วยเชือกหรือโซ่

มีนักตกปลามือธรรมชาติหลายคนที่ชอบใช้วิธีการล่ามปลาไว้ด้วยเชือกหรือโซ่ร้อยปลา หรือขังมันไว้ในกระชัง เพื่อรอเวลาเอาตัวขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกก่อนที่จะปล่อยมันคืนไป ถ้าเป็นการตกอยู่ในแหล่งน้ำนิ่ง การกระทำเช่นนี้จะเป็นการสร้างความบอบช้ำให้แก่ตัวปลามากขึ้นไปอีก วิธีที่ควรทำมากกว่าคือเมื่อเอาปลาขึ้นจากน้ำแล้วไมต้องล่ามหรือขังมันไว้ ควรรีบเอามาถ่ายรูปทันทีแล้วปล่อยตัวมันไป ถ้าเราคิดจะไม่เอาตัวมันจริงๆ

แต่สำหรับปลาแม่น้ำหรือปลาใน การล่ามปลาแช่ไว้ในน้ำชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะปล่อยคืนไป เป็นวิธีที่ช่วยทำให้ปลาฟื้นฟูพละกำลังกลับมาได้เร็วยิ่งขึ้น แม้กระทั่วการเอาปลาขึ้นจากน้ำไปผูกไว้ยังหมายใกล้เคียงที่เราย้ายไปตก ก็ไม่ถือว่าเป็นการขัดกับเทคนิคการปล่อยปลา

สำหรับนักตกปลาที่ใช้เรือออกตกนั้น การขังปลาไว้ใต้ท้องเรือจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ตัวปลาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะถ้าขังไว้ในปริมาณที่แออัดยัดเยียดจนเกินไป เพราะการถ่ายเทหมุนเวียนของน้ำสะอาดและออกซิเจนไม่พอเพียงทำให้เปอร์เซ็นต์การตายสูงขึ้นอีก 30% วิธีการที่พอจะหลีกเลี่ยงได้หน่อยก็คอือย่างขังปลารวมกันไว้ในปริมาณที่มากเกินไป

ถ้าคุณไม่เอาตัวปลาขึ้นจากน้ำ มันจะสะบัดตัวว่ายหนีไปในทันทีที่คุณปลดเบ็ดออกหมันเป็นอิสระ แต่ถ้าจำเป็นต้องเอาตัวขึ้นมาปลดเบ็ดบนบก เมื่อเวลาจะปล่อยปลาก็ควรใช้มือประคองตัวปลาให้อยู่เฉยๆ ในน้ำก่อน เมื่อเห็นเหงือกของมันกางออกแล้วหุบเข้าเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอ แสดงว่ามันเริ่มแข็งแรงดีแล้วจึงค่อยปล่อยตัวมันไป สำหรับพรานเบ็ดแม่น้ำนั้นการปล่อยปลาจะต้องปล่อยในบริเวณที่กระแสน้ำไหลไม่แรงเกินไปนัก เพื่อที่ปลาจะได้รับเอาออกซิเจนเข้าไปในปริมาณที่เพียงพอ

ส่วนปลาน้ำลึกนั้นเราต้องให้ความทนุถนอมมันเป็นกรณีพิเศษถ้าต้องการจะปล่อยมันคืนไป (จริงๆ) เพราะว่าเมื่อมันถูกอัดดึงขึ้นมาจากพื้นน้ำในระดับที่ลึกๆ อากาศจะอัดเข้าไปอยู่ในถึงลมทำให้ปลาลอยตัวขึ้นมาอยู่บนผิวน้ำ แล้วตายลงในไม่ช้าหากปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น

การแก้ไขต้องใช้เทคนิควิธีที่เรียกว่า “การไล่ลม” เพื่อไล่อากาศออกให้หมด โดยใช้ฝ่ามือวางลงบนท้องปลาแล้วดันขึ้นด้านบนหรือขึ้นไปทางครีบหลังค่อนข้างแรงเล็กน้อย ซึ่งจะเป็นการช่วยไล่อากาศให้ออกจากถึงถึงลมได้ เมื่อต้องการปล่อยปลาที่จุ่มหัวมันลงไปภายใต้ผิวน้ำแล้วจึงดันตัวให้ไถลตามลงไป

แต่ถ้าใช้วิธีการไล่ลมแล้วยังไม่สามารถไล่ลมออกได้ เราก็ต้องหันมาใช้เข็มเล่มเล็กๆ แทงทะลุผิวหนังปลาเข้าไปในถึงลม เมื่อเห็นฟองกาศซึมผ่านออกมาตามรูจึงใช้มือกดลงไปบนท้องปลาเพื่อช่วยไล่อากาศให้เร็วขึ้น เมื่อปล่อยปลาลงน้ำไปแล้ว บาดแผลเล็กๆ เท่ารูเข็มนี้จะหายไปองในไม่ช้า

อ่าน > วิธีประกอบเท็กซัสริก กับวิธีใช้ที่อ่านจบตกเป็นเลย

Advertisements