เรื่องราวของปลาที่ ‘โดดเดี่ยวที่สุดในโลก’ และยังเป็นสัตว์สงวนตัวแรกของอเมริกา

นี่คือเรื่องราวของปลาหายากที่สุดในโลก มันอาศัยอยู่ในถ้ำที่เป็นปริศนาทางธรณีวิทยามากที่สุดในโลกอีกด้วย โดยถ้ำนี้มีชื่อว่า "ถ้ำปีศาจ (Devils Hole)" ต้องบอกว่าทุกสิ่งในหลุมนี้เป็นเรื่องเหลือเชื่อ รวมทั้งปลาที่ชื่อว่า Devils Hole Pupfish มันคือปลาชนิดเดียวที่อาศัยอยู่ในถ้ำปีศาจ แต่มันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เดี๋ยวมาดูเรื่องราวของมันกัน

ถ้ำปีศาจ (Devils Hole) คืออะไร?

Advertisements

ก่อนไปดูเรื่องปลา เดี๋ยวขอพูดถึงเรื่องถ้ำปีศาจเล็กน้อย มีคำอธิบายว่า ถ้ำปีศาจคือถ้ำใต้น้ำขนาดมหึมาที่รวบรวมจินตนาการของมนุษยชาติ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Death Valley ซึ่งเป็นหนึ่งในการก่อตัวทางธรรมชาติที่แปลกประหลาดที่สุดในโลก

นอกจากภายในถ้ำยังเป็นปริศนาที่มนุษย์ยังไม่สามารถสำรวจได้หมด มันเป็นที่อาศัยของปลาที่ไม่มีอยู่ที่อื่น และที่น่าเหลือเชื่อคือถ้ำนี้เป็นเหมือนเซ็นเซอร์แผ่นดินไหวตามธรรมชาติที่สามารถตรวจจับแรงสั่นสะเทือนได้จากที่ไกลกว่าปกติมาก เช่นญี่ปุ่นชิลีและอินโดนีเซีย .. แถมยังมีสึนามิที่ก่อตัวขึ้นเป็นของตัวเองอีกด้วย

เรื่องราวของ Devils Hole Pupfish

Devils Hole Pupfish เป็นปลาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ๆ แห้งแล้งที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มันอยู่ใจกลางทะเลทรายโมฮาวีสหรัฐอเมริกา ปลาชนิดนี้มีความยาวไม่เกิด 1 นิ้ว (2.5 ซม.) และจากการสำรวจคร่าวๆ มันมีน้อยกว่า 50 ตัว .. นี่หมายความว่าทั้งโลกอาจมีปลาชนิดนี้แค่ 50 ตัว

ด้วยเหตุนี้ Devils Hole Pupfish จึงเป็นปลาที่หายากที่สุดในบรรดาปลาสายพันธุ์ที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลกและเป็นสัตว์ที่ถูกตัดขาดจากโลกเช่นกัน ..และตอนนี้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าพวกเขาได้พิสูจน์แล้วว่าพวกมันมาจากไหน

ถึงแม้ถ้ำแห่งนี้จะมีทางเข้าอยู่ทางพื้นดิน หรือก็คือเปิดสู่อากาศ แต่น้ำภายในถ้ำกลับไม่ได้เชื่อมต่อกับแหล่งอื่นๆ เลย ที่ด้านล่างของโพรงถ้ำที่ความลึกประมาณ 15 เมตร จะเป็นแอ่งน้ำที่พวก Devils Hole Pupfish ทุกตัวอาศัยอยู่

นักวิจัยกำลังนับจำนวนปลา เป็นการนับจากระดับผิวน้ำและใต้น้ำ

ที่ปลายด้านหนึ่งของโพรงเป็นชั้นหินปูนขนาดเล็ก มีขนาดประมาณ 3×6 เมตร มันเป็นที่หาอาหารและวางไข่ของปลาชนิดนี้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ปลา Devils Hole Pupfish เป็นปลาที่มีพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ขนาดเล็กที่สุดในบรรดาสัตว์มีกระดูกสันหลังทุกชนิดในโลก

ปลาชนิดนี้มีชีวิตอยู่ในสภาพที่เลวร้ายอย่างต่อเนื่อง ด้วยอุณหภูมิน้ำคงที่ 32-33 องศาเซลเซียส (ร้อน) ออกซิเจนอยู่ในระดับต่ำมากและการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำบ่อยครั้ง ..นี่ยังไม่รวมถึงพวกมันจะกินอะไรอีก เรียกว่ามีชีวิตอยู่อย่างยากลำบากจริงๆ

สัตว์สายพันธุ์แรกที่ได้รับการปกป้อง

ด้วยความหายากของปลาชนิดนี้ ในปี 1966 มันเป็นสัตว์สายพันธุ์แรกที่อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติสงวนพันธุ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ฉบับดั้งเดิมของสหรัฐอเมริกา และศาลฎีกาของสหรัฐอเมริกาเคยตัดสินในเรื่องการปกป้องพื้นที่ทั้งหมดในบริเวณที่มันอยู่ทั้งพื้นดินจนถึงใต้ดิน

นั้นคือห้ามสูบน้ำบาดาลในบริเวณใกล้เคียงซึ่งอาจคุกคาม ที่อยู่อาศัยและการดำรงอยู่ของมัน การพิจารณาคดีดังกล่าวได้เพิ่มความเข้มแข็งให้กับการคุ้มครองทางกฎหมายในภายหลังซึ่งเสนอให้กับสัตว์ใกล้สูญพันธุ์หลายๆ ชนิดด้วย

แล้วพวกมันมาอยู่ในถ้ำปีศาจได้ยังไง?

Advertisements

ผู้เชี่ยวชาญมักคิดว่ามันมาถึงที่แห่งนี้เมื่อหลายพันปีก่อน และพัฒนาเป็นสายพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะอย่างที่เห็นในปัจจุบัน แต่เมื่อไม่นานมานี้มีข้อสงสัยเกี่ยวกับมรดกที่เป็นเอกลักษณ์และสถานะที่เป็นสัญลักษณ์ของปลา บางคนเชื่อว่าเป็นเป็นชาวอินเดียพื้นเมืองที่อาจนำปลาไปที่ถ้ำเมื่อนานมาแล้ว

แต่ตอนนี้มีคำตอบจากการศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Molecular Ecology โดยทีมนักวิจัยของสหรัฐอเมริกานำโดย Ismail Saglam และ Michael Miller จาก University of California , Davis, US

พวกเขาตรวจสอบประวัติทางพันธุกรรมของ Devils Hole Pupfish ( Cyprinodon diabolis ) และเปรียบเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกันอีกสองสายพันธุ์คือ Owens pupfish ( C. radiosus ) และ Ash Meadows Amargosa pupfish ( C. nevadensis mionectes ) เพื่อดูว่าพวกมันแตกต่างกันในช่วงไหน

เมื่อพวกเขาตรวจสอบ ก็เกิดเรื่องประหลาดใจที่ได้รู้ว่า Devils Hole Pupfish แยกตัวออกจากสายพันธุ์อื่นเมื่อ 50,000-80,000 ปีก่อน มันเป็นเวลาเดียวกับที่ Devils Hole ปรากฏตัวในทะเลทรายเมื่อ 50,000-60,000 ปีก่อน “นักวิจัยกล่าวว่า Devils Hole Pupfish มาอยู่ในถ้ำและมีชีวิตรอดในถ้ำปีศาจ นับตั้งแต่ที่ถ้ำเปิดสู่โลกภายนอก”

การค้นพบใหม่นี้ได้ยืนยันถึงความหายากและสถานะที่เป็นสัญลักษณ์ของปลาที่รอดชีวิต จากการแยกตัวจากโลกโดยสิ้นเชิงเป็นเวลาถึง 60,000 ปี

“ทุกวันนี้ประชากร Devils Hole Pupfish กำลังใกล้จะสูญพันธุ์โดยมีจำนวนลดลงเหลือเพียง 30 ตัว จากประมาณ 400 ตัวในปี 1970”

ในขณะที่มนุษย์ต้องการน้ำจืดในภูมิภาคนี้และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยเช่นกัน มันเป็นการคุกคามที่อยู่อาศัยของพวกมัน ..หากพวกเราไม่ทำอะไรเพื่อพวกมัน ในอนาคตปลาหรือแม้แต่ถ้ำก็อาจหายไป

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements