จริงๆ การ ตกปลา แบบ Drop Shot Rig (ดรอปชอตริก) อาจจะไม่ค่อยได้รับความนิยมในไทยสักเท่าไร และแทบจะไม่เคยเห็นคนใช้วิธีนี้ในการตกปลาในไทบด้วย แต่มันก็เป็น 1 ใน 5 ริก ยอดนิยมอยู่ดี เพราะต่างประเทศเขาใช้กันเยอะครับ ส่วนผมบอกตรงๆ ว่าเคยลองไม่กี่ครั้งเอง แต่ผมจะมาพูดเรื่องพื้นฐาน เอาไว้ให้น้าๆ ได้ไปลองเล่นกันดูครับ
โดยหลักการแล้วดรอปชอตริก เป็นการ ตกปลา ในแนวดิ่งครับ นั้นมันเหมาะอย่างยิ่งที่จะตกปลาบนเรือ ในสภาพที่ลอยอยู่เหนือหมาย หรือบริเวณหน้าผาเขื่อน หรือพื้นที่แนวตัดของบ่อที่มีระดับความลึกพอสมควร
สิ่งที่ต้องมีในการตกแบบ ดรอปชอตริก
1. ตะกั่วแบบตุ้ม (เขาเรียกแบบนี้เปล่าหว่า) ที่มีลูกหมุนอยู่บนหัว หรือไม่มีก็ได้ น้ำหนักก็ให้พอๆ กับที่ใช้กับเท็กซัสริก หรือหนักขึ้นอีกหน่อยหากน้ำแรง (แต่ต้องไม่หนักจนยกคันลำบาก)
2. สายช็อคควรมี แต่เส้นไม่ต้องใหญ่ครับ เดี๋ยวแอคชั่นเหยื่อจะแข็ง
3. เหยื่อยาง (ควรเป็นแบบลอย) ถ้าผมเลือกก็คงเลือกตัวยาวๆ ไว้ก่อน เพราะผมชอบเหยื่อเห็นชัดๆ
4. ตัวเบ็ดแบบทางเดียว
เริ่มจากต่อสายช็อคกับตัวเบ็ด ภาพชุดนี้เอามาจาก WikiHow นะครับ ชัดเจนดี
จากภาพ (1) วิธีต่อสายช็อคกับตัวเบ็ด ด้วยวิธีนี้จะเป็นการล๊อคตัวเบ็ดเข้ากับสายช็อตโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อื่นเพิ่มเติม ซึ่งทำให้ปลาระแวงเหยื่อน้อยลง และต้องทิ้งปลายสายให้ยาวอย่างน้อย 30 cm (ให้ปรับตามความต้องการ ดูสภาพหมาย)
การใช้งาน Drop Shot Rig
ลองนึกภาพตามนะครับ ถ้ามีบ่อปลากระพงลึกประมาณ 1 – 3 เมตร ที่ขอบบ่อเป็นแนวตัด แล้วปลากระพงมันกำลังไล่กินเหยื่อตามขอบบ่ออยู่ ถ้าลองเอา ดรอปชอตริก หย่อนมันตรงหน้า ทิ้งตะกั่วให้ถึงพื้น ส่วนเหยื่อลอยสูงขึ้นอีกราวๆ 40cm แล้วก็กระดุ๊กๆ เบาๆ (กระดกคัน) โดยไม่ต้องเก็บสาย ปลาที่กำลังไล่กัดลูกปลาอย่างเมามัน ถ้ามันมาเห็นคงอดใจไม่ไหวแน่นอน
สรุปคือโดยพื้นฐานคือ หย่อนมันตรงหน้า แล้วกระดุกๆ มีปลามากัดวัดเลยนะผมว่า เพราะไอ้ช่อนคงไม่สนเหยื่อแบบนี้เท่าไร
ถามว่าตีออกไปได้หรือเปล่า..? ได้อยู่แล้วครับ แต่ด้วยวิธีผูกแบบนี้ ได้มีเหยื่อพันกับสายหรือตะกั่วแน่นอน หากตีไปเบาๆ อาจจะไม่เป็นไร ส่วนเทคนิคระดับสูงกว่านี้คงต้องไปลองกันดูครับ ยังไงก็ลองดูคลิปประกอบจะทำให้เข้าใจแอคชั่นของมันมากขึ้น
อ่านเรื่อง เท็กซัสริก คลิก
อ่านเรื่อง แคโรไลน่าริก คลิกAdvertisements
