ไดโนเสาร์คอยาวหรือพวกซอโรพอดเป็นสัตว์บกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา ตัวอย่างเช่นแบรคิโอซอรัส ยักษ์ใหญ่แห่งยุคจูราสสิกที่มีชื่อเสียงจากเรื่อง Jurassic Park มันมีความยาวระหว่าง 20-25 เมตร และมีขาหน้าที่ยาวกว่าขาหลังทำให้มันกินใบไม้บนต้นไม้สูงๆ ได้ และมีน้ำหนักมากถึง 58 ตัน และในช่วงเวลานั้นยังมีซอโรพอดที่มีชื่อเสียงอย่าง บรอนโตซอรัส ที่มีความยาว 25 เมตร และหนักถึง 35 ตัน ด้วยความหลากหลายของไดโนเสาร์กินพืชขนาดยักษ์ พวกมันส่วนมากมักจะตายด้วยสาเหตุตามธรรมชาติ
ในสถานการณ์แบบนี้ อัลโลซอรัส สามารถรอเวลาที่พวกซอโรพอดล้มแล้วเข้าไปกินได้อย่างสบายๆ ซอโรพอดที่ตายหนึ่งตัวสามารถเลี้ยงพวกอัลโลซอรัสครอบครัวหนึ่งให้อิ่มไปได้หลายวัน ซึ่งนอกจากสามารถหาอาหารได้ง่ายแล้ว ยังลดความเสี่ยงจากการโดนเหยื่อขนาดยักษ์พวกนี้กระทืบหรือใช้หางฟาดได้อีกด้วย
เนื่องจากอัลโลซอรัสมีขนาดยาวเพียง 8-10 เมตร และหนักเพียงสองตัน พวกมันเพียงตัวเดียวไม่สามารถทำอะไรกับพวกคอยาวที่โตแล้วได้เลย ถ้ามันจะล่าได้ก็คงเป็นพวกที่ยังเด็กหรือพวกที่ป่วยใกล้ตาย
สมมติฐานนี้ได้รับการศึกษาจากซากฟอสซิลที่รวบรวมมาจากแหล่งขุดค้นที่ Morrison Formation บริเวณนี้มีสัตว์โบราณอยู่มากมาย โดยเฉพาะพวกซอโรพอดคอยาว ซึ่งบางตัวอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของรายการอาหารของพวกอัลโลซอรัสก็เป็นได้
เพื่อเปรียบเทียบระหว่างไดโนเสาร์นักล่าและกินซาก ผู้เชี่ยวชาญยังได้ศึกษาข้อมูลทางกายภาพของกะโหลกพวกมันด้วย นอกจากนี้ยังได้มีการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดของอัลโลซอรัสและญาติๆ ของมันอย่าง เซอราโตซอรัส (Ceratosaurus) ด้วย
อัลโลซอรัสไม่ใช่นักล่า?
จากการศึกษาพบว่ากะโหลกของอัลโลซอรัส ไม่เหมาะสำหรับการล่า เพราะมันค่อนข้างจะแคบและบาง นอกจากนี้มันยังขาดการมองเห็นแบบกล้องส่องทางไกลในระบบสัมผัสการมองเห็นเพื่อโจมตีและกำหนดเป้าหมายของเหยื่อ ระบบการมองเห็นของมันมีแค่ 30% เมื่อเทียบกับไทแรนโนซอรัส และเพียง 15% เมื่อเทียบกับพวกเสือและสิงโตในปัจจุบัน
อัลโลซอรัสนั้นอยู่ในภาคตะวันตกของอเมริกาเหนือในช่วงปลายยุคจูราสสิก เมื่อประมาณ 155 – 125 ล้านปีก่อน แต่มันก็อาจจะไม่ใช่สัตว์ที่กินซากไปตลอด เป็นไปได้ว่ามันเองก็อาจจะล่าพวกซอโรพอดที่ยังไม่โตหรือพวกที่บาดเจ็บหรือป่วย และมีความเป็นไปได้ที่พวกมันอาจจะกินกันเองด้วยก็เป็นได้ แต่กระนั้นเรื่องนี้ก็ยังมีข้อสงสัยหลายอย่าง
เพราะถ้ามันเป็นสัตว์กินซากทำไมมันมักอยู่รวมกันเป็นฝูง เพราะการอยู่เป็นฝูงของมันสามารถล้มพวกคอยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สุดท้ายทฤษฎี สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เหมือนกับช่วงหนึ่งที่มีการถกเถียงว่าทีเร็ก เป็นไดโนเสาร์นักล่าหรือกินซากกันแน่ ซึ่งผลสุดท้ายก็ออกมาว่าเป็นทั้งสอง ล่าก็ได้แต่ถ้ามีซากสัตว์ตรงหน้ามันก็กิน ไม่ต่างจากสัตว์ปัจจุบันอย่าง เสือ สิงโต หรือจระเข้