จริงแค่ไหน? ตำนาน ‘งูยักษ์แห่งถ้ำเมืองกาญ’ สัตว์ร้ายที่ออกมาในช่วง WW2

เรื่องนี้บอกไว้ก่อนเป็นเรื่องเล่าต่อๆ กันมาเป็นรุ่นสู่รุ่น จริงหรือไม่นั้นตัดสินใจกันดูเอง เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และเกิดขึ้นที่กาญจนบุรี โดยมีคำบอกเล่าว่างูตัวนี้มีขนาดใหญ่มาก มันใหญ่ซะจนสามารถกินคนทีละ 2-3 คน ได้อย่างสบาย ส่วนเรื่องราวจะเป็นยังไง ลองอ่านกันดูดีกว่า

งูยักษ์

เรื่องราวเกิดขึ้นที่ จังหวัดกาญจนบุรี

Advertisements

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี พ.ศ. 2485 เป็นช่วงปลายของสงครามโลกครั้งที่ 2 และไทยเองก็อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน ในตอนนั้นไทยถูกญี่ปุ่นยกพลขึ้นบก โดยมีเป้าหมายใช้ไทยเป็นฐานส่งกำลังนำทัพเดินทางไปโจมตีกองทัพอังกฤษ ทหารอเมริกัน ที่อยู่ในประเทศพม่า

เพื่อให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น พวกเขาจึงต้องมีการสร้างทางรถไฟ และสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแควเพื่อให้รถไฟวิ่งผ่าน สามารถลำเลียงอาวุธได้สะดวก เชลยศึกชาวตะวันตกเป็นจำนวนมากที่กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นจับมา จึงต้องมาใช้แรงงานในการสร้างทางรถไฟในจังหวัดกาญจนบุรี

แต่กว่าที่จะสร้างสะพานได้สำเร็จนั้น ต้องสังเวยชีวิตของเชลยศึกสงครามไปหลายหมื่นคน แถมยังเกิดโรคระบาดอย่างไข้มาลาเรียที่คร่าชีวิตเชลยที่สร้างทางรถไฟไปเป็นจำนวนมหาศาล นั้นเพราะสมัยก่อนพื้นที่กาญจนบุรีส่วนใหญ่เป็นป่ารกทึบที่ชุกชุมไปด้วยยุงป่ามาก

“จนมีคำกล่าวเปรียบเปรยถึงผู้ที่เสียชีวิตจากการก่อสร้างทางรถไฟที่แสนยากลำบากสายนี้ว่า หนึ่งไม้หมอนรถไฟแทนหนึ่งชีวิตที่เสีย”

นอกจากภัยจากโรคระบาดที่มากับยุงแล้ว ป่าที่รกทึบก็ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านักล่าอีกมากมาย พวกมันจะออกมาล่าเอามนุษย์กลับไปกิน

มีการตั้งฐานเพื่อเป็นที่พักของทหารญี่ปุ่นที่ถูกส่งเข้ามาคุมเชลย จึงต้องมีการจัดชุดเวรยามตามมาตรฐานของกองทัพเพื่อดูแลความสงบและป้องกันเชลยหลบหนี กองทัพญี่ปุ่นได้จัดชุดลาดตระเวนรอบๆ ฐานทัพ เป็นจำนวน 15 นาย เข้าเวรสลับผลัดเปลี่ยนกันเป็นกะ

“จนวันหนึ่งเรื่องราวที่ต้องสร้างความกลัว ให้กับทหารญี่ปุ่นก็เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่ได้มีการตั้งฐานทัพ”

ทหารญี่ปุ่นที่ถูกส่งออกไปลาดตระเวน มักจะหายตัวไปแบบไร้ร่องรอยวันละ 1-2 นาย มันสร้างความวิตกให้กับผู้บังคับบัญชา เขาจึงได้เพิ่มกำลังทหารเข้าไปอีก จากที่เคยเดินลาดตระเวนจุดละคนก็กลายเป็น 2-3 คน แต่จะเริ่มเข้าไปก็ไร้ผล เพราะทหารยังหายไปเหมือนเดิม

ผู้บังคับบัญชาจึงส่งทหารแกะรอยเพื่อหาสิ่งผิดปกติได้ออกลาดตระเวนไปรอบ ๆ พื้นที่ ที่ตั้งค่ายเป็นรัศมีประมาณ 5 กม. จนกระทั่งได้พบกับถ้ำแห่งหนึ่ง ..พวกเขาจึงส่งทหารเข้าไปสำรวจ

ระหว่างที่ส่งทหารเข้าไป ฝั่งที่เฝ้าอยู่ภายนอกก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1-2 ครั้ง จึงทำให้คิดว่ามีการต่อสู้กับศัตรูฝ่ายตรงข้าม จึงได้ส่งทหารอีกกลุ่มเข้าไปเสริมในทันที ไม่นานนักหลังจากที่ได้ส่งกำลังเสริมไป

“ทหารที่อยู่ปากถ้ำต้องวิ่งกระเจิง เมื่อได้ยินเสียงของทหารที่ถูกส่งลงไปตะโกนด้วยความตกใจว่า “สัตว์ประหลาด” พร้อมกับวิ่งพรวดออกมาเพื่อเอาชีวิตรอด”

สิ่งที่เขาได้เจอมาคือ งูขนาดใหญ่ มันใหญ่มาก พวกเขาไม่เคยพบเจออะไรที่มันใหญ่โตขนาดนี้มาก่อน หัวหน้าจึงได้สั่งให้จัดการกับเจ้าเพชฌฆาตยักษ์นั้นอย่างเด็ดขาด ด้วยวิธีการเอาระเบิดยัดเข้าไปในถ้ำนั้น เพื่อทำการปลิดชีพเจ้างูยักษ์

ระเบิดจำนวนมากถูกลำเลียงมาเพื่อใช้ระเบิดถ้ำปริศนา ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่อยู่ของงูยักษ์ จากนั้นจึงจุดชนวน พอสิ้นเสียงระเบิด เหล่าทหารก็วิ่งเข้าไปสำรวนถ้ำ

“สิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือร่างของงูเหลือมขนาดใหญ่ยักษ์ มีความยาวหลายสิบเมตร กว้างพอๆ กับ ตู้กับข้าวที่อยู่ในกองทัพ แถมปากของมันก็ใหญ่มากพอที่จะสามารถเขมือบคนในคำๆ เดียวได้มากถึง 3 คน ได้”

ถึงเจ้างูยักษ์ตัวนี้จะมีร่างกายที่ใหญ่มหึมามากแค่ไหน แต่ร่างของมันถึงกับขาดวิ่นเป็นท่อน เมื่อต้องพบเจอกับแรงระเบิดจำนวนมหาศาลที่กองทัพใช้ แต่ไม่ได้ทำให้งูยักษ์ตายได้ มันพยายามเลื้อยหนีออกจากถ้ำ

แต่พวกทหารก็ไม่ได้เปิดโอกาส เพราะพวกเขากระหน่ำยิงใส่จนปลอกลูกกระสุนหล่นเกลื่อนกลาดเต็มพื้น ก่อนที่มันจะขาดใจตายอยู่ตรงนั้น ..และนี่ก็เป็นการจบชีวิตของงูยักษ์แห่งเมืองกาญ

อ่านเรื่องอื่น

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “งูเหลือม”

งูเหลือม (Malayopython reticulatus) เป็นงูขนาดใหญ่ ลำตัวยาวเฉลี่ยประมาณ 3.5-6 เมตร จัดเป็นงูที่ยาวที่สุดของโลกซึ่งตัวที่ยาวที่สุดยาวถึง 9.6 เมตร ถูกจับได้เมื่อปี ค.ศ. 1917 ที่ เกาะซีลิเบท เป็นหมู่เกาะแห่งหนึ่งในมาเลเซีย มันมีความยาวกว่างูอนาคอนดา (Eunectes murinus) ที่พบในทวีปอเมริกาใต้ แต่มีน้ำหนักน้อยกว่า อาจจะหนักน้อยกว่างูอนาคอนดาได้ถึงครึ่งเท่าตัว
Advertisements