เท็กซัสริกฉบับ Bassmaster Part 2 : Hook Selection

หลังจาก Part 1 ก็ได้พูดถึงตัวเบ็ดไปบ้างแล้ว มาถึง Part 2 ก็ยังขอเพิ่มเติมอีกหน่อย สำหรับการเลือกตัวเบ็ดที่เหมาะสมกับการ ตกปลา ด้วย Texas Rig ซึ่งความเหมาะสมกับเทคนิคนี้ต้องเพิ่มความเข้าใจอีกหน่อย เพราะตัวเบ็ดมีให้เลือกใช้เยอะจริงๆ ส่วนจะเป็นยังไงมาอ่านเพิ่มเติมกัน

หลังจาก Part 1 ก็ได้พูดถึงตัวเบ็ดไปบ้างแล้ว มาถึง Part 2 ก็ยังขอเพิ่มเติมอีกหน่อย สำหรับการเลือกตัวเบ็ดที่เหมาะสมกับการ ตกปลา ด้วย Texas Rig ซึ่งความเหมาะสมกับเทคนิคนี้ต้องเพิ่มความเข้าใจอีกหน่อย เพราะตัวเบ็ดมีให้เลือกใช้เยอะจริงๆ ส่วนจะเป็นยังไงมาอ่านเพิ่มเติมกัน

ส่วนต่างๆ ของตัวเบ็ด

Advertisements

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกับคำเรียกของส่วนต่างๆ ของตัวเบ็ดกันก่อนนะครับ จะได้เข้าใจสิ่งที่พูดเกี่ยวกับตัวเบ็ดมากขึ้น ซึ่งตลอดทั้งตัวเบ็ด จะมีคำเรียกเฉพาะได้ 6 ส่วนคือ
1. Point : ก็คือส่วนปลาย หรือคมของตัวเบ็ดนั้นเอง
2. Barb : เป็นส่วนที่คนไทยเรียกว่าเงี่ยง ทำให้ตัวเบ็ดหลุดออกจากปากปลายากขึ้น
3. Bend : ท้องตัวเบ็ด เป็นจุดจำคัญมาก แข็งแรงที่สุดด้วย
4. Gap-Throat : คำอธิบายถึงความกว้างและความสูงของท้องตัวเบ็ด
5. Shank : ก้านตัวเบ็ด มีหลายรูปแบบ กว้าง ยาว
6. Eye : ตาเบ็ด หรือห่วงสำหรับผูกสาย มีการผลิตทั้งแบบแบนและแบบที่เป็นห่วง

แบบไหนละที่ทำงานได้ดีที่สุด.?

โดยพื้นฐานแล้วตัวเบ็ดที่เหมาะกับการตกปลาด้วย Texas Rig จะมีตัวเบ็ดอยู่ 3 ประเภทพื้นฐานคือ Straight Shank (ก้านตรงจนถึงตาเบ็ด), Offset round bend (ก้านตรงก่อนถึงตาจะโค้ง) และ offset wide gap (ก้านโค้ง ก่อนถึงตาเบ็ดก็โค้งอีก) หากถามว่านิยมมากที่สุดคือแบบไหน คำตอบสำหรับ Bassmaster คือแล้วแต่งาน (แต่สำหรับไทยคือ offset wide gap)


Straight Shank (ตัวเบ็ดก้านตรง)

ตัวเบ็ดแบบ Straight Shank สำหรับ Texas Rig จะมีลักษณะก้านยาวและตรงจนถึงตาเบ็ด ทาง Bassmaster อธิบายไว้ว่าใช้กับ Flipping, punching and Pitching คือเหมือนการตกแบบเจาะจง ตำแหน่ง วิธีใช้ตัวเบ็ดแบบนี้ก็ไม่ได้ต่างจากที่เรารู้จักกัน ทั้งวิธีต่อ วิธีเข้าเหยื่อก็ใช่ได้เช่นกัน เพียงแต่เพราะก้านเบ็ดตรง จะทำให้ตัวเบ็ดยืนออกมาด้วยองศาที่มากกว่า และจุดแข็งคือเมื่อลากผ่านอะไรก็ตาม เหยื่อจะพลิกกับมาตำแหน่งเดิมอย่างแน่นอน และโอกาสติดสิ่งต่างๆ ก็ต่ำกว่า เพราะก้านเบ็ดตรง แบบนี้จะใช้ได้ดีกับพื้นน้ำที่ไม่ค่อยเปิดโล่ง

Advertisements


Offset round bend (ตัวเบ็ดก้านตรงก่อนถึงตาจะโค้งอีก)

Advertisements

ตัวเบ็ดแบบนี้บางทีก็เรียก Worm Hook เพราะเหมาะที่จะใช้เกี่ยวหนอนจริงๆ จุดเด่นดูจะเป็นก่อนตาเบ็ด ที่จะมีการเพิ่มส่วนโค้งเข้าไป ซึ่งหากเป็นแบบ “Straight Shank” มันจะดูเหมือนฝืนๆ ที่จะใส่เข้าไป และด้วย “Offset round bend” จะทำให้เหยื่อดูตรงขึ้น เมื่อเทียบกับแบบก้านตรง
เป็นตัวเบ็ดที่มักจะถูกเลือกใช้กับเหยื่อขนาดใหญ่ และปลาขนาดใหญ่ด้วย เนื่องจากเงี่ยงของตัวเบ็ด จะแทรกลงในตัวของเหยื่อยางได้ดี และส่วนโค้งตรงตาเบ็ดจะทำให้ตัวเบ็ดดูแนบกับเหยื่อได้มากขึ้น และจะใช้ได้ดีมากกับพื้นน้ำเปิดโล่ง

 

Offset wide gap (ก้านโค้ง ท้องโค้งก่อนถึงตาเบ็ดก็โค้งอีก)

ตัวเบ็ดแบบที่นิยมมากๆ ในไทย บางทีก็เรียกกันว่า Texas rig hook หรือ Carolina rig hook หรือย่อๆ ว่า EWG Hook  ตัวเบ็ดทั้ง 2 ชื่อนี้ มีความแตกต่างเพียงเล็กน้อย แต่ก็อยู่ในกลุ่ม Offset wide gap อยู่ดี

Advertisements
ตัวเบ็ดแบบนี้จะเหมาะกับเหยื่อพลาสติกตัวหนาหน่อย เนื่องจากท้องเหยื่อโค้งมาก จึงต้องการเนื้อที่มากหน่อย  ตามความเข้าใจของผม (แมวบ้า) แรกๆ คิดว่า ตัวเบ็ดแบบนี้เหมาะที่สุดกับ Texas Rig แล้ว แต่ทาง Bassmaster กลับให้ความเห็นว่า “Offset round bend” เหมาะกับหนอนมากกว่า ส่วน “Offset wide gap” กลับเหมาะกับเหยื่ออ้วน แถมยังบอกว่าเพราะมี Barb (เงี่ยง) ที่โค้งเข้ามาใกล้ส่วนท้องและก้านเบ็ดเล็กน้อย จึงมีโอกาสที่จะได้ปลาน้อยลงนิดหน่อย แต่ถึงงั้นก็เป็นตัวเบ็ดที่ใช้งานได้หลากหลาย ดัดแปลงให้เข้ากับการตกปลาแบบต่างๆ ได้ดี

เอาล่ะขอจบ Part 2 แต่เพียงเท่านี้ ถ้าตามความเห็นของผม ก็คงเลือกใช้ Offset wide gap อยู่ดี ถึงจะบอกว่า Offset round bend จะดีกว่าหากใช้หนอน เพราะชินแล้วอะนะ แต่หากน้าๆ อยากลองว่าดีกว่าจริงหรือเปล่า ก็ลองเลยครับ เพราะหาไม่ค่อยยากสำหรับตัวเบ็ดแบบนี้ เดี๋ยว Part 3 เจอกับเรื่องของตะกั่ว

Advertisements