เกิดอะไรขึ้นบ้าง เมื่อหนอนแปลงร่างเป็นผีเสื้อ

จริงๆ แล้วผีเสื้อมีวงจรชีวิตที่แปลกประหลาด พวกมันจะมี “4 ขั้น” เริ่มตั้งแต่เกิดจนตาย โดยจะเริ่มจาก ไข่ > ตัวหนอน >ดักแด้ จนสุดท้ายกลายเป็นผีเสื้อ

แต่ขั้นตอนช่วงที่น่าสนใจที่สุดคือ ช่วงการเปลี่ยนจากหนอนผีเสื้อเป็นผีเสื้อ ซึ่งมีขั้นตอนที่เป็นเอกลัษณ์ และบางครั้งอาจถึงตาย ซึ่งยากที่จะเชื่อว่าหนอนน่าเกลียดพวกนี้จะกลายเป็นผีเสื้อแสนสวยในอนาคตได้ โดยการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ซึ่งเราจะมาอธิบายขั้นตอนแต่ละขั้นตอนกัน

การเปลี่ยนแปลงที่สมบูรณ์ 4 ขั้นตอน

การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ จะพบได้ในสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างตอนเกิดต่างกับตอนโต เช่น ผีเสื้อ ซึ่งจะมีขั้นตอนหลายขั้นตอนกว่าจะโตเต็มที่ ส่วนมากจะเป็น 4 ขั้นตอน แต่บางชนิดมีถึง 6 ขั้นตอน ซึ่งหลายครั้งแทบไม่เชื่อว่ามันจะเป็นชนิดเดียวกัน

อย่างผีเสื้อมีช่วงเวลาที่เป็นหนอนและดักแด้ ซึ่งทำให้มันเติบโตได้รวดเร็วมาก โดยการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ยังพบได้ในแมลงเช่น มด ยุง ผึ้งและ ด้วง

ผีเสื้อจะจับคู่กันและผสมพันธุ์ได้นานถึงสองอาทิตย์

ผีเสื้อเป็นหนึ่งในสัตว์หลายๆ ชนิดที่จะมารวมกลุ่มกันเพื่อจับคู่ก่อนผสมพันธุ์กัน ในระหว่างการหาคู่นั้นตัวผู้จะกระพือปีกเพื่อปล่อยฟีโรโมนพิเศษในปีก โดยสารฟีโรโมนเป็นตัวกระตุ้นทางเพศให้ผีเสื้อตัวเมียสนใจในตัวผู้ ตัวเมียจะใช้หนวดเพื่อตรวจฟีโรโมนของตัวผู้ว่ามันมีสุขภาพดีไหม ซึ่งขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงจนถึงสองอาทิตย์ขึ้นกับสายพันธุ์ของผีเสื้อ

การวางไข่ไม่ใช่ขั้นตอนง่ายๆ

เมื่อตัวเมียพร้อม มันจะหาสถานที่สำหรับวางไข่ ผีเสื้อตัวเมียนั้นจะเจาะจงกับสถานที่สำหรับวางไข่มาก โดยมันจะเลือกสถานที่ที่มีใบไม้ที่เหมาะสำหรับลูกๆ ของมัน แต่สถานที่นั้นขึ้นกับชนิดของผีเสื้อ โดยตอนวางไข่มันจะมีสารยึดไข่ให้ติดกับใบไม้เผื่อป้องกันไม่ให้ไข่หล่น และบางชนิดก็วางไข่ใต้ใบไม้หรือบนลำต้น

หนอนกินจุมาก มันจะกินจนตัวแทบแตก

โดยทั่วไปไข่จะใช้เวลา 5-10 วันถึงจะฟักตัว ในช่วงแรกพวกนี้จะกินจุมากๆ และเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยพวกมันจะลอกคราบ 3-4 ครั้งในช่วงนี้ และมันจะมีขนาดใหญ่กว่าตอนออกจากไข่มากถึง 100 เท่า ภายในช่วง 2-3 อาทิตย์แรก สาเหตุที่มันกินมากแบบนี้เพื่อเก็บสารอาหารให้พอสำหรับในระยะดักแด้

ระยะดักแด้ (คลิป)

เมื่อหนอนผีเสื้อเติบโตมาถึงจุดสูงสุดแล้ว มันจะลอกคราบครั้งสุดท้ายเพื่อเตรียมไปขั้นตอนที่สำคัญที่สุด คือระยะดักแด้ โดยหนอนจะอยู่นิ่งๆ ในที่หนึ่งนานถึง 3 วันเพื่อยึดตัวเองให้แน่นกับพื้นผิวอย่างปลอดภัย และช่วงนี้ขาเก่าของมันและผิวหนังเริ่มหดตัว

 

จากนั้นช่วงอกจะเริ่มขยายตัวและมันจะสร้างรังไหมมาคลุมตัวเอง โดยมีรังไหมเป็นเปลือกหุ้มเพื่อป้องกันอันตรายจากภายนอก

ข้างในดักแด้เป็นยังไงกันแน่?

สิ่งที่เกิดข้างในนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป และการกำเนิดเซลล์ใหม่เพื่อพัฒนาแต่ละส่วนของร่างกาย

อวัยวะและคุณสมบัติต่างๆ ที่เรารู้จักของผีเสื้อจะซ่อนอยู่ในตัวของหนอน ซึ่งในระยะยดักแด้นี้ อวัยวะส่วนนั้นจะเริ่มงอกออกมาหลังจากเซลล์เนื้อเยื่อเก่าหดหายไป ซึ่งเรียกขั้นตอนนี้ว่า Histogenesis ช่วงประมาณ 3 วันก่อนดักแด้จะฝักตัว รังไหมจะเริ่มโปร่งใสทำให้เห็นลวดลายและสีของปีกของผีเสื้อได้

กำเนิดใหม่ของผีเสื้อ

ขึ้นกับชนิดของผีเสื้อ รวมถึงสภาพอากาศ ดักแด้จะแยกออกแล้วผีเสื้อที่โตเต็มที่ก็จะออกมา ซึ่งระยะโตเต็มวัยนี้มันสามารถมีชีวิตได้หนึ่งสัปดาห์จนถึง 40 สัปดาห์ขึ้นกับชนิดของมัน

ในระหว่างนี้ ปีกของมันจะเหี่ยวและเสี่ยงต่อการถูกล่า มันต้องใช้เวลาสักพักเพื่อให้ปีกของมันแห้งถึงจะบินได้ ซึ่งมันมักจะหาที่เกาะแล้วห้อยปีกลง ซึ่งจะช่วยให้เลือดไหลเวียนในปีกทำให้ปีกขยายได้เต็มที่และเเข็งแรงก่อนจะออกบินครั้งแรกอีกด้วย

ผีเสื้อสามารถหาแหล่งอาหารได้แม้แต่ที่ๆ คิดไม่ถึง

หลังจากผีเสื้อออกบินได้แล้ว มันจะค้นหาสองสิ่งคืออาหารและคู่ครอง ผีเสื้อตัวผู้รู้กันว่าก่อนเกิดมันจะสะสมสารอาหารเผื่อมอบให้ตัวเมียในช่วงผสมพันธุ์ อย่างไรก็ตาม สารอาหารไม่ได้มาจากพืชเท่านั้น แต่มาจากโคลน มูลสัตว์ ปัสสาวะ แม้แต่ซากสัตว์ มันอาจจะฟังดูน่าขยะแขยง แต่พวกนี้มีสารอาหารที่มากกว่าน้ำหวานหลายเท่า และยังช่วยผลิตฟีโรโมนให้ตัวผู้อีกด้วย

และนี่คือเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ของหนอน ก่อนที่พวกมันจะกลายเป็นผีเสื้อที่สวยงาม ก็หวังว่าจะชอบกัน และอย่าลืมแชร์ให้น้าๆ ท่านอื่นได้อ่านกันครับ

อ่านเรื่องอื่น

• หนอนผีเสื้อสุดเจ๋ง กับการแปลงร่างเป็น “งู” ที่เหมือนซะจนนักล่ายังไม่กล้าหือ

• นี่คือหนอนขนปุกปุยน่าจับ แต่อย่าได้โดนแม้แต่เส้นขน เพราะจะเจ็บปวดไปถึงกระดูก