นักวิจัยเรียกว่าทะเลสาบเหล่านี้ว่า ทะเลสาบเทอร์โมคาร์สต์ (thermokarst lakes) หรือทะเลสาบที่ละลาย มันก่อตัวเมื่อดินเยือกแข็งใต้พื้นดินละลายเนื่องจากอุณหภูมิที่ร้อนขึ้น จนพื้นผิวดินยุบและเกิดเป็นหลุมยุบ เมื่อเวลาผ่านไปน้ำจะเติมหลุมที่เกิดขึ้นใหม่ ..จนสุดท้ายทำให้เกิดเป็นทะเลสาบ
ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา พื้นที่ของอลาสก้าได้เกิดทะเลสาบเทอร์โมคาร์สต์มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่นักวิจัยกังวลมาก และในตอนนี้โปรเจ็กต์ Arctic Boreal Vulnerability Experiment (ABoVE) ของ NASA กำลังศึกษาการก่อตัวของทะเลสาบเทอร์โมคาร์สต์เหล่านี้ ดังเช่น ทะเลสาบ Big Trail ในอลาสก้า โดยพวกเขาต้องการรู้ว่าทะเลสาบเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในวงกว้างอย่างไร
ปัญหาของทะเลสาบเทอร์โมคาร์สต์
ปัญหาคือแบคทีเรียที่ถูกเก็บไว้โดยน้ำแข็งรวมทั้งดินที่เย็นต่ำกว่าศูนย์ ภายในดินที่เย็นเยือกแข็งมานานหลายทศวรรษ หลังจากที่น้ำแข็งละลาย แบคทีเรียก็เป็นอิสระ พวกมันสามารถแทะเล็มอินทรียวัตถุ แล้วปล่อยก๊าซมีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่อากาศ
“ที่ทะเลสาบ Big Trail เป็นเหมือนกับการเปิดประตูช่องแช่แข็งของคุณทิ้งเอาไว้ และมอบอาหารในช่องแช่แข็งให้จุลินทรีย์ย่อยสลาย ขณะที่พวกมันสลาย ก็จะพ่นก๊าซมีเทนออกมา” Katey Walter Anthony นักนิเวศวิทยากล่าวในโพสต์ของ NASA
ชั้นดินเยือกแข็ง (Permafrost) ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 9 ล้านตารางไมล์ นี้นับเฉพาะในซีกโลกเหนือ ซึ่งเกือบจะมีขนาดเท่ากับสหรัฐอเมริกา จีนและแคนาดารวมกัน ..ในบางส่วนของโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในละติจูดที่สูงขึ้น มีการละลายของน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว
ก๊าซมีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมด ที่ปล่อยออกมาจากชั้นดินเยือกแข็งที่ละลาย ได้สร้างวงจรน่ากังวลอย่างมาก เมื่อชั้นดินเยือกแข็งละลายและแบคทีเรียฟื้นคืนชีพ ก๊าซเรือนกระจกที่เรอออกมาจะลอยเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลก ซึ่งพวกมันจะดักจับความร้อนและมีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อไป
แท้เพียงคาร์บอนไดออกไซด์ก็สร้างความกังวลอย่างมากแล้ว แต่ก๊าซมีเทนนั้นน่ากลัวยิ่งกว่า เพราะมันมีศักยภาพมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 25 เท่า .. และมันยังระเบิดได้ด้วย
แน่นอนว่าในทางทฤษฎี ทะเลสาบเทอร์โมคาร์สต์ ก็มีโอกาสที่จะกลายเป็นกองไฟขนาดใหญ่ได้ และความน่ากลัวอีกอย่างของการละลายของน้ำแข็งคือ มันจะไปปลดปล่อยเชื้อโรคจากอดีตที่หลับไหลอีกด้วย