กบชนิดนี้ถูกเรียกว่า Assa wollumbin เป็นกบตัวเล็กที่มีขนาด 16 มิลิเมตร พบบนภูเขาแห่งหนึ่งในอุทยานแห่งชาติวอลลัมบิน (Wollumbin national park) โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล (University of Newcastle) และพิพิธภัณฑ์เซาท์ออสเตรเลียได้วิเคราะห์ทางพันธุกรรม จนระบุได้ว่ามันเป็นกบสายพันธุ์ที่แตกต่างจากญาติสนิทของมัน ซึ่งก็คือ Assa darlingtoni
กบชนิดนี้มักจะเรียกว่า “กบกระเป๋า (Pocket frogs)” โดยกบตัวผู้จะเลี้ยงลูกอ๊อดในกระเป๋าที่ด้านข้างของร่างกาย ซึ่งลูกอ๊อดจะอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาประมาณ 2 – 3 เดือน จึงจะออกมาข้างนอก
Michael Mahony จากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ซึ่งเป็นหนึ่งในนักวิจัยที่ค้นพบกบ กล่าวว่า “กบกระเป๋าไม่เพียงแต่มีลักษณะพิเศษแล้ว แต่มันยังมีความพิเศษที่แทบไม่เหมือนกบอื่นๆ ในโลกอีกด้วย” มีเพียง 4 ใน 4,000 สายพันธุ์ทั่วโลกที่มีการดูแลลูกโดยกบตัวผู้ ซึ่งตัวผู้จะแบกลูกอ๊อดที่กำลังเติบโตตลอดเวลา และประชากรกบตัวเล็กๆ นี้ ก็ถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่ประมาณ 2,000 เฮกตาร์บนภูเขาวอลลัมบิน
Mahony กล่าวว่ามันถูกค้นพบในขณะที่พวกเขากำลังตรวจสอบกบที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล 5 แห่ง ตั้งแต่ควีนส์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้ไปจนถึงดอร์ริโกตอนเหนือของนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีกบในกระเป๋าอาศัยอยู่
โดยกบกระเป๋าที่อธิบายใหม่นี้ เป็นหนึ่งในเก้าสายพันธุ์ของกบที่ถูกคุกคาม ซึ่งนักวิจัยกำลังศึกษาหลังจากเกิดภัยพิบัติไฟป่าในช่วงปี 2019-2020 โดยสปีชีส์ใหม่นี้ได้รับการตั้งชื่อว่า Assa wollumbin