แต่ความจริงแล้วสายเอ็นค่อนข้างจะสำคัญกับการตกปลา จึงควรให้ความเอาใจใส่และดูแลสายเอ็นที่ใช้อยู่ เพราะจุดบกพร่องของสายเอ็นเพียงนิดเดียวอาจทำให้สูญเสียปลาได้ สายเอ็นที่ใช้กันอยู่ในวงการตกปลามีอยู่หลายประเภทด้วยกัน เริ่มกันตั้งแต่ยุคแรกของการตกปลาที่ใช้เชือกหรือด้ายที่ทำมาจากพืชเป็นหลัก มีบางส่วนที่ใช้ขนหางม้าและเส้นเอ็นจากสัตว์อยู่บ้าง
จนกระทั่งมาถึงยุคของพลาสติก ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สายเอ็นจึงเปลี่ยนมาเป็นเส้นใยของพลาสติกแทน ในชื่อของไนล่อน (Nylon) ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของพลาสติกประเภทหนึ่ง เส้นใยที่ทำจากไนล่อนมีคุณสมบัติเหมาะสมกับการนำมาทำสายเอ็นหลายประการด้วยกันสายเอ็นที่ทำจากไนล่อนมีทั้ง แบบเส้นเดี่ยว ๆ และแบบหลายเส้นนำมารวมกันสายเอ็นเส้นเดี่ยวเรียกว่า โมโนฟิลาเม้นท์ (Mono Filament) นั่นก็คือสายเอ็นที่เราๆ เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้ ซึ่งมีให้เลือกใช้อยู่หลายขนาดด้วยกัน ตั้งแต่ทนแรงดึงได้ไม่ถึงปอนด์ ไปจนถึงทนแรงดึงได้หลายร้อยปอนด์
สำหรับการตกปลาเพื่อเกมกีฬานั้น จะใช้สายเอ็นในขนาดทนแรงดึงได้ระหว่าง 4-130 ปอนด์ เป็นหลักส่วนที่ทนแรงดึงมากไปกว่านี้ใช้กันอยู่ในวงการตกปลาอาชีพเป็นส่วนมากจากสายเอ็นไนล่อนเส้นเดี่ยวขนาดเล็กจิ๋ว จนแทบมองไม่เห็นถูกนำมาควั่นรวมกันเข้าและถักให้เป็นเส้นเชือก เพื่อเอามาทำสายเอ็นเราเรียกสายเอ็นนี้ว่า โมโนฟิลาเม้นท์ (Mono Filament) ซึ่งจะเรียกกันในชื่อ เบรด ไนล่อน (Braided Nylon) หมายถึงสายไนล่อนที่ถักเป็นเส้นเชือก นักตกปลาบ้านเราเรียกกันว่า สายเชือกหรือสายเชือกถักแต่มักจะเรียกทับศัพท์ของชื่อทางการค้าว่า แดกครอน (Dacron) เป็นสายแดกครอนไปด้วย
รูปแบบของการถักเส้นใยไนล่อนเล็กจิ๋วให้เป็นเส้นเชือก มีรูปแบบของการถักหลายอย่าง เช่น ถักเป็นรูปปลอก หรือหลอด คือเป็นเส้นกลวงโดยตลอดทั้งสาย เมื่อเวลาใช้งานมันจะถูกรีดให้แบนลงได้จากแรงดึงครูดไปกับไกด์บนคันเบ็ด สายเอ็นนี้ใช้กันอยู่ในวงการตกปลาระยะหนึ่ง ก็ถูกพัฒนามาเป็นสายเอ็นแบบมีไส้ในหรือแกนกลาง ซึ่งก็ใช้เส้นใยไนล่อนเล็กจิ๋วนำมารวมกันทำเป็นแกนกลาง ทำให้สายเอ็นแบบนี้เป็นเส้นกลม เหมือนสายไนลิ่นเส้นเดี่ยว และเรียกกันตามชื่อทางการค้าว่า “สายแดกครอน”
สายชนิดนี้แม้ว่าจะเป็นเส้นกลม แต่ผิวนอกของสายเอ็นก็ไม่ได้เรียบลื่นเหมือนกับสายเอ็นไนล่อนเส้นเดี่ยว พูดง่าย ๆ ก็คือมีความคม ที่อาจเป็นอันตรายกับผู้ใช้ได้ถ้าถูกครูดไปกับผิวหนังในยุคหนึ่งมีผู้ผลิตสายเชือกถักแบบไม่มีแกนกลางหรือไส้ในนำมาใส่แกนด้วยเส้นตะกั่วแบบสายฟิวส์ เพื่อให้สายมีน้ำหนักนำไปใช้กับการตกปลาแบบลากเหยื่อ เรียกว่าสาย เลดคอร์ (Lead Core) แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าใดนัก บางท่านอาจสงสัยว่าไส้ตะกั่วมันจะไม่ขาดหรือไงเวลาสู้กับปลาเรื่องนี้เป็นคุณสมบัติพิเศษของสายเอ็นแบบเชือกถักคือ มันจะมีแรงยืดตัว (Stretch) ต่ำมากหรือเกือบไม่มีเลยก็ว่าได้ จึงไม่เป็นปัญหากับไส้ในที่เป็นเส้นตะกั่ว
นอกจากถักเป็นเส้นกลมแล้ว สายไนล่อนยังถักแบบไขว้ไปมาเหมือนถักหางเปียจึงมีลักษณะเป็นเส้นทึบทำให้ลดขนาดของสายเอ็นลงได้อีกแต่ผิวของเชือกถักแบบนี้จะไม่กลมเหมือนการถักอีกแบบหนึ่ง เขาจึงนำมาเคลือบผิวให้กลมรอยของเส้นเชือกที่ผิวไม่เรียบดังกล่าว แต่จะทำให้สายเชือกมีความกระด้างกว่าเดิม ผู้ผลิตบางรายใช้กรรมวิธีหลอมให้ผิวที่มาเรียบเชื่อมติดกันเป็นเนื้อเดียว เหมือนสายเอ็นไนล่อนเส้นเดี่ยว เรียกว่าโมโน ไลค์ (Mono Like) พลาสติคที่นำมาทำสายเอ็นแบบนี้ ส่วนมากจะเป็นกลุ่มโพลีเอทเธอรีน (Polyethylene) เมื่อเปรียบเทียบกับสายเอ็นไนล่อนเส้นเดี่ยว ในขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากัน สายเชือกไนล่อนเคลือบผิว จะทนแรงดึงได้สูงกว่ากันมากทีเดียว
หรือในทางที่กลับกันถ้าเปรียบเทียบในขนาดทนแรงดึงได้เท่ากัน สายเชือดถักเคลือบผิวจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กกว่ากันเกือบเท่าตัว สายเอ็นชนิดนี้มีแรงยืดตัวต่ำมาก ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง มันทนทานต่อการขูดขีดได้ดีกว่าสายเอ็นเส้นเดี่ยว แต่ด้วยลักษณะของการถักสายเชือกแบบที่ผิวไม่เรียบ มันจึงมีความคมมากพอสมควร
การนำไปใช้กับคันเบ็ด ที่ไกด์ไม่แข็งแกร่งพอ จะถูกบาดจนขาดได้ รวมทั้งตัวลูกล้อรับสายเอ็น (Line Roller) ของรอกสปินนิ่ง หรือตัวเกลี่ยสายเอ็น (Level Wind) ของรอกเบทคาสติ้ง ก็อาจเสียหายได้เช่นกันสายเอ็นแบบนี้ไม่ค่อยมีใครเรียกชื่อของสายเอ็นโดยตรง มักจะเรียกตามชื่อของผลิตภัณฑ์ เช่น สายไฟร์ ไลน์(Fire Line) สาย สไปเดอร์ไวร์ (Spider Wire) หรือ ซูเปอร์ เบรด (Super Braid) เป็นต้นในบ้านเรานิยมเรียกว่า สายไดนีน่า (Dynema) ตามชื่อทางการค้าเหมือนไนล่อน
ปัจจุบันสายเชือกถักแบบนี้ใช้วัสดุที่ล้ำหน้าไปไกล เช่นเคฟล่า (Cavlar) กันแล้ว สายเอ็นในกลุ่มนี้มีราคาค่อนข้างแพงมากอาจสูงกว่าสายเอ็นไนล่อน 3-4 เท่าเลยทีเดียว จึงมีผู้ใช้ทำสายเอ็นโดยตรงกันไม่มากนัก แต่นิยมนำมาใช้เป็นสายลีดเดอร์แทน แม้ว่ามันจะมีจุดเด่นหลายประการด้วยกัน แต่ด้วยความคมของสายเอ็นและราคาที่สูงเกินไปมันจึงถูกนำไปใช้งานในวงจำกัดกว่า สายเอ็นไนล่อนเส้นเดี่ยวทั่วไป นอกจากนี้ยังมีสายเอ็นที่เป็นเส้นลวดสเตนเลสอ่อน ที่เรียกว่า โมเนล(Monel) ซึ่งใช้กับงานลากเหยื่อเป็นการเฉพาะ แต่ในแง่ของกฎกติกาของการทำสถิติปลาหรือการแงขันตกปลาแล้ว
สายทุกชนิดจะนำมาทำเป็นสายเอ็นไม่ได้ยกเว้นสายเชือกถักไส้ตะกั่ว หรือสายเลดคอร์(Lead Core) เท่านั้น แต่สายลวดทุกชนิดสามารถนำมาทำเป็นสายลีดเดอร์ได้ มีสายเชือกไนล่อนถักอีกแบบหนึ่งที่มีไส้ใน และการเคลือบผิวด้วยพลาสติคประเภท พีวีซี เพื่อให้ผิวเรียบลื่น และอ่อนนุ่ม สายเอ็นประเภทนี้เรียกว่าสายฟลาย(Fly Line) เป็นสายเอ็นที่มีความยาวไม่ถึงร้อยเมตร ใช้กับงานตกปลาแบบฟลาย (Fly Fishing) เป็นการเฉพาะเท่านั้น
มีขอบข่ายการใช้งานจำกัด ไม่เหมาะที่จะเอาไปใช้งานตกปลาแบบอื่น รวมทั้งราคาค่อนข้างสูงอีกด้วย โดยสรุปแล้วนักตกปลายังนิยมใช้สายเอ็นประเภทสายไนล่อนเส้นเดี่ยวหรือสายโมโน สายเอ็นในกลุ่มนี้มีคุณสมบัติของการใช้งานตกปลาในระดับพื้นฐานอยู่หลายข้อด้วยกัน ทั้งนี้คุณสมบัติของสายเอ็นดังกล่าว จะถูกโฆษณาโดยผู้ผลิตด้วยการเรียกคุณสมบัติของสายเอ็นต่าง ๆ กันไป
ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้สับสนได้บ้างพื้นฐานการใช้ชื่อเรียกคุณสมบัติโดยทั่ว ๆ ไปมีดังนี้ มีความแข็งแกร่งหรือความเหนียว สายเอ็นไนล่อนเส้นเดี่ยวหรือโมโนฟิลาเม้นท์โดยทั่วไป จะมีความแข็งแกร่ง หรือ สเตรนท์ (Strength)ค่อนข้างสูงทีเดียว ความแข็งแกร่งนี้ไม่ได้หมายถึงแข็งแบบเหล็กหรือก้อนหิน แต่เป็นความแข็งแกร่งทนแรงดึงให้ยืดออก หรือแรงต้านให้ยืดออก (Tensile Strength) ระหว่าง 70.000-100.000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
คุณสมบัติตัวนี้ของสายเอ็นไนล่อนทำให้เราใช้สู้กับปลาได้ดีกวาสายเชือกที่มาจากพืชมีแรงยืดตัวน้อย การยืดตัวหรือสเตรทช์(Stretch) สายโมโน หรือสายเอ็นไนล่อน มีการยืดตัวได้บ้าง ระหว่าง 15-30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อทดสอบการดึงขณะสายเอ็นไนล่อนอยู่ในสภาพแห้ง และแรงยืดตัวจะเพิ่มเป็น 20-35 เปอร์เซ็นต์เมื่อสายเปียกน้ำ
ดังนั้นผู้ผลิตจึงพยายามควบคุมขบวนการผลิต ให้สายเอ็นของตนมีแรงยืดตัวต่ำ เพราะจะมีผลต่อการใช้งานคือ เซ็ทฮุค (Set Hook) หรือการกระตุกสายเอ็นให้ตัวเบ็ดฝังกับปากปลาได้เร็ว เพราะสายเอ็นที่มีการยืดตัวสูงจะเซ็ทฮุคได้ไม่ดีเท่าที่ควรทนทานต่อการขูดขีด คุณสมบัติทนทานต่อการขูดขีด หรืออะบราชั่น (Abrasion) นี้อาจไม่ใช่คุณสมบัติโดยตรง
การจะทำให้สายเอ็นทนทานต่อการขูดขีดเกิดจากขบวนการผลิตที่จะทำให้โมเลกุลของสายไนล่อนเรียงตัวอยู่บริเวณผิวของสายเอ็น ซึ่งจะทำให้ผิวนอกของสายเอ็นทนทานเพิ่มขึ้น ดังนั้นการทำให้ผิวนอกของสายเอ็นถลอก จากการขัดถูกับไกด์ของคันเบ็ดที่ชำรุดหรือไกด์คุณภาพต่ำ สายเอ็นจะเสียคุณสมบัติส่วนนี้ไป แต่ส่วนมากแล้วสายเอ็นจะถูกขูดขีดจากการตกปลาที่มีสิ่งกีดขวางอยู่ใต้น้ำเช่น ตอไม้ โขดหิน ฯลฯ เป็นต้น
อ่านเรื่อง ช็อคลีด Duel Hardcore Power Leader FC
อ่านเรื่อง เรื่องจริงของสายเบ็ดตกปลาและสายเอ็นตกปลา กับการมองเห็น