เรื่องจริงของสายเบ็ดตกปลาและสายเอ็นตกปลา กับการมองเห็น

วันหนึ่งเมื่อเดินเข้าไปในร้านอุปกรณ์ ตกปลา เพื่อซื้อหาสายสำหรับ ตกปลา น้าจะได้พบกับสายเบ็ดตกปลาและสายเอ็นตกปลาที่มีอยู่หลายประเภทให้เลือกใช้ มีทั้ง Fluorocarbon, Monofilament หรือจะเป็นสาย Braided (PE) ทำให้เกิดคำถามว่าแล้วสายพวกนี้มันต่างกันยังไง ทั้งสีอีก ปลาจะมองเห็นสายพวกนี้ยังไง.? และนี้คือผลการทดสอบของสายแต่ละประเภทเกี่ยวกับการมองเห็นเมื่ออยู่ใต้น้ำ คิดว่าน่าจะมีประโยชน์มากทีเดียว ข้อมูลจาก Fix.com

สายเบ็ดตกปลา Fluorocarbon

Advertisements

เริ่มด้วยสาย Fluorocarbon โดยเจ้าสายตัวนี้ถือเป็นสายเบ็ดตกปลาที่มองไม่เห็นมากที่สุดเมื่ออยู่ในน้ำ ตามคุณสมบัติการหักเหแสงของน้ำ มันจึงแทบจะมองไม่เห็น หรือมองไม่เห็นเลย มันเป็นคุณสมบัติที่ดีที่สุดของสายประเภทนี้ แต่มันจะเหมาะกับน้ำที่เกือบจะใส คุณสมบัติเรื่องการมองไม่เห็น “invisible” จึงแสดงได้เต็มที่ ด้วยความที่มองไม่เห็น ตามทฤษฎีจะนำไปสู่การเพิ่มโอกาสที่ปลากัดได้มากขึ้น

สายเบ็ดตกปลา Pink Fluorocarbon

มาดูสาย Fluorocarbon สีชมพูกันบ้าง ในไทยมีหรือเปล่าไม่แน่ใจ ผมเองก็ไม่เคยเห็น ทางผู้ผลิตอ้างว่าสายสีชมพูจะมองเห็นได้ยากมากเมื่ออยู่ใต้น้ำ

มันอาจยากที่จะเชื่อว่ามันจะมองเห็นได้ยาก แต่มันเป็นเรื่องจริงที่เหยื่อจะสมจริงกว่าเมื่อต่อกับสายสีชมพู  แต่จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ และจากคู่มือนักดำน้ำมือใหม่

ได้แสดงให้เห็นว่าสีชมพูจะสูญเสียสีของมันไปที่ระดับความลึกต่างๆ มันผสมผสานกับน้ำ ในขณะที่มันดูจะเป็นเรื่องผิดปกติที่จะย้อมสีประเภท Fluorocarbon

โดยสายประเภทนี้มีคุณสมบัติมองไม่เห็น “invisible” อยู่แล้ว เพราะสุดท้ายสีชมพูก็จะสูญเสียสีของมันไปเมื่ออยู่ใต้น้ำอยู่ดี

สายเบ็ดตกปลาแบบ Monofilament

สาย Monofilament หรือเรียกบ้านๆ ว่าสายเอ็นตกปลา ถือเป็นสายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในท้องตลาด มีสีให้เลือกใช้มากมาย  สายพวกนี้จะมองเห็นได้ยากเมื่ออยู่ใต้น้ำอยู่แล้ว แต่จะมองเห็นได้ง่ายขึ้นเมื่ออยู่เหนือน้ำ ต่อไปเป็นรายละเอียดของสี

Yellow
สายสีเหลืองสด จะเป็นการง่ายมากที่จะมองเห็นได้เมื่อปลากัดโดยจะเห็นจากด้านบนผิวน้ำ แม้จะเป็นการกัดเพียงเล็กน้อย แต่ข้อเสียคือมันทำให้ปลามองเห็นได้ง่ายขึ้น

มันจะเป็นทางเลือกที่ดีหากเลือกใช้ในแหล่งน้ำที่ไม่สะอาด น้ำขุ่น แต่ถึงจะบอกว่ามองเห็นได้ง่ายในน้ำขุ่น แต่ตามทฤษฎีปลาที่ดุ หรือก้าวร้าว พวกมันไม่สนใจสิ่งเหล่านี้

Red
เป็นโทนสีที่เชื่อกันว่ามองไม่เห็นมากที่สุด เมื่ออยู่ใต้น้ำ เพราะสีแดงจะเป็นสีแรกที่สูญเสียสีไป แต่ในทางตรงกันข้ามนักดำน้ำกลับบอกว่า

วัตถุที่เป็นสีแดงจะสูญเสียสีของมันไปจนกลายเป็นสีดำ และนักตกปลาที่ใช้สายสีแดงต้องยอมรับว่ามันจะง่ายต่อการมองเมื่ออยู่เหนือน้ำ

มีเรื่องที่น่าสับสนอีกเรื่องเมื่อบริษัทผู้ผลิตตัวเบ็ดใช้สีแดง ด้วยเหตุผลที่ว่ามันจะสร้างโอกาสให้ปลากัดได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมันสีเหมือนเลือด จึงเป็นเรื่องน่าคิดว่าสายสีแดงจะทำให้กัดง่ายขึ้นหรือเปล่า.?

Clear
Clear ใส ขาว ขุ่น ไม่ถึงกับ invisible เหมือนกับ Fluorocarbon แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสาย Monofilament ข้อดีของสายสีนี้คือมันทำงานได้ดีกว่า Fluorocarbon ในเรื่องการมองเห็นได้ยากในทุกสภาพ และสายชนิดนี้ยังไม่แข็งกระด้างอีกด้วย

สายเบ็ดตกปลา Braided Lines or PE Line

Advertisements

สายถัก ได้รับความนิยมค่อนข้างมากในตลาดเหยื่อปลอม ข้อดีของสายชนิดนี้คือมีความแข็งแรงสูงมาก ไม่ยืดตัว สายประเภทนี้ไม่เหมาะกับน้ำใสเท่าไร เพราะปลาจะมองเห็นได้ง่าย

แต่จะเหมาะกับสภาพน้ำขุ่น น้ำสกปรก น้ำโคลน หากใช้น้ำใส่ สามารถต่อสายโมโน หรือฟูโอ จะช่วยให้มองไม่เห็นและยังทำให้เกิดการยืดตัวป้องกันสายขาดอีกด้วย

เงื่อนง่ายๆ สำหรับต่อ PE กับ Fluorocarbon

มีการสับสนมากกับสีของสาย ที่จะมองเห็นใต้น้ำ ซึ่งในความเป็นจริงสายที่เหมาะสมจะถูกเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ ตามหมายที่ตกอยู่

ดังเช่นสาย Fluorocarbon ที่มีคุณสมบัติ invisible จะไม่มีประโยชน์เลยหากมาเจอกับน้ำสีโคลน ในขณะที่สาย PE มีความแข็งแกร่งสูง แต่จะมองเห็นได้ง่ายในน้ำใส

แน่นอนว่าหากต่อเข้ากับสาย Fluorocarbon มันก็กลายเป็นสายที่มองไม่เห็นในน้ำใสได้อยู่ดี แต่สุดท้ายสายสีสดที่มองเห็นได้ง่าย มันจะมีข้อดีที่มองเห็นได้ชัดเมื่ออยู่เหนือน้ำ จะช่วยให้ตรวจจับอาหารของปลาได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

สรุป:

ตอนนี้น้าๆ คงที่จะรู้เรื่องสายเบ็ดตกปลาแล้วว่า สายเบ็ดตกปลาแต่ละชนิดควรที่จะใช้ตอนไหน เพราะสายเบ็ดตกปลามีผลมากที่จะทำให้ปลาที่จะตกนั้นตกใจแล้วว่ายหนีไปได้

แล้วสายพาดคันเบ็ดหละน้าๆคิดว่าจะมีผลต่อการตกปลาให้ได้ปลาไหมน้าแมวมีคำตอบให้แล้วไปดูกันเลยที่ สายพาดคันเบ็ด มีผลกับการตกปลาหรือไม่

Advertisements