เรื่องวงในปลาตู้ ฉีดสีปลาไปจนถึงสักผิวปลา

ในวงการปลาสวยงาม นอกเหนือจากผู้ผลิตและผู้จำหน่าย ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีรายได้จากการเพิ่มมูลค่าของสินค้า โดยการฉีดสีลงไปในตัวปลา .. เดี๋ยวเราจะมาคุยกันในเรื่องนี้

ปลาสวยงาม

เคยสังเกตุมั๊ยว่าปลาบางชนิดที่เราซื้อมา เลี้ยงสักพักนึงแล้วสีสันฉูดฉาดมันหายไป ไม่ใช่แค่ซีดลงแต่เป็นสาปสูญไปเลยจากตัวปลา นั่นเพราะสีเหล่านั้นไม่ได้มีอยู่จริงในเม็ดสีของตัวปลาตั้งแต่ต้นนั่นเอง

สินค้ายอดนิยมที่ถูกแต่งสีโดยการฉีดเพิ่มลงไปบนตัวได้แก่ ปลาแป้น ปลาหมู ปลาปีกไก่ ปลานกแก้ว แต่ที่นิยมที่สุดของที่สุดต้องยกให้กับปลาเสือเยอรมัน ที่เราจะหยิบเอามาคุยกันในบทความนี้

แรกเริ่มเดิมทีปลาเสือเยอรมันมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ แถบประเทศปารากวัย บราซิล และอาร์เจนติน่า ด้วยความที่เป็นปลาเลี้ยงง่ายออกลูกง่าย อุปนิสัยไม่ดุร้ายเลี้ยงรวมกับอะไรก็ได้ หน้าตาก็น่ารักประมาณหนึ่งจึงได้รับความนิยมไปทั่วโลก

ลวดลายดั้งเดิมของปลาเสือเยอรมันมีสีดำที่ครีบบนล่าง รวมถึงครึ่งตัวด้านหลัง และหนึ่งขีดที่ครั้งตัวด้านหน้ากับอีกหนึ่งขีดที่กลางลำตัว นี่คือลักษณะปกติของปลาชนิดนี้ซึ่งในบ้านเราเรียกมันว่า “ปลาเสือเยอรมันดำ”

ปลาเสือเยอรมันดำ

เมื่อเรานำมาเพาะพันธุ์ไปเรื่อยๆ ปลาบางตัวที่เริ่มเลือดชิด สีดำก็จะเริ่มหายไปกลายเป็นปลาสีขาว ซึ่งมันไม่ได้รับความนิยมเพราะแลดูไม่สวย เพาะมาแล้วก็ต้องเอาไปเททิ้งบ้างทำเป็นปลาเหยื่อก็มี

จนมาวันหนึ่งก็มีคนเติมสีให้มันด้วยการเอาเข็มฉีดยาดูดสีสังเคราะห์ จิ้มไปบนแนวสันหลังและช่วงท้องตรงครีบล่าง ปลาที่เคยมีสีขาว ก็กลายเป็นสีสันสดใสเหมือนในภาพ แนวสีเป็นเส้นวิ่งตลอดหลังปลาด้านบนและแนวท้องปลาด้านล่าง กลายออกมาเป็น “ปลาเสือเยอรมันฉีดสี” นั่นมีความหมายว่า การฉีดสีปลาเสือเยอรมันต้องฉีดกับปลาเสือเยอรมันขาวเท่านั้น

กลายเป็นนวัตกรรมการเพิ่มมูลค่าสินค้าที่น่าสนใจ เปลี่ยนจากปลาที่ไม่มีความต้องการ ให้กลายเป็นปลาที่ได้รับความนิยม ความต้องการปลาเสือเยอรมันฉีดสีนั้นมีมากกว่าเสือเยอรมันดำเสียอีก มากเสียจนห่างกันแบบไม่เห็นฝุ่นเลยด้วยซ้ำ

กลุ่มปลาฉีดสีนั้นได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง จนทุกวันนี้ก็ยังคงนิยมกันมากอยู่ แอดมินเคยส่งปลาชนิดนี้ทีนึงตั้งหลายพันตัว ถ้ารวมกับปลาแป้นฉีดสี คิดว่าในรอบเดียวอาจจะเคยส่งถึงหนึ่งหมื่นตัวด้วยซ้ำไป (คนฉีดสีปลาคงมือหงิกกันไปเลยกว่าจะฉีดครบทั้งออเดอร์)

แต่ในเมื่อสีเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากเม็ดสีจริงของปลา ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ สีเหล่านี้ก็จะถูกขับออกจากร่างกายด้วยกระบวนการธรรมชาติ และกลายร่างกลับมาเป็นเสือเยอรมันขาวในท้ายที่สุด

การฉีดสีปลานั้นไม่ได้ทำกันง่ายๆ มันต้องใช้ศาสตร์ความรู้และประสบการณ์ควบคู่กัน ฟาร์มที่เค้ารับฉีดสีเนี่ยเค้าปิดฟาร์มนะครับไม่ให้คนเข้าไปดูว่าเค้าทำกันยังไง คือมันก็น่าสนใจนะว่าทำยังไงให้ปลามันอยู่นิ่ง เค้าน็อคหรือสลบมันก่อนรึเปล่า

สีที่ใช้ล่ะต้องผสมอะไรในสีโปสเตอร์มั๊ย ฉีดยังไงให้ปลาช้ำน้อยที่สุด และทำยังไงให้สีมันติดทนนานที่สุด ในวงการปลาส่งออกปลาสวยงามมันมีระดับคุณภาพของฟาร์มปลาฉีดสีนะครับ ฟาร์มไหนฝีมือดีปลาก็สวย ฟาร์มไหนฝีมือห่วยฉีดออกมาไม่สวยคนก็ไม่ค่อยซื้อ

Advertisements

ที่สำคัญคือ ปลาที่พึ่งฉีดสีมาจำเป็นต้องพักสองสามวัน ก่อนถึงจะสามารถส่งออกได้ ถ้าฉีดปั๊บแล้วส่งเลยอัตราการเสียหายแทบจะหนึ่งร้อยเปอร์เซนต์ ปลามันคงเจ็บแผลแหละโดนเอาเข็มจิ้มตัวแล้วยังต้องเดินทางไกลอีก

ซึ่งศาสตร์การฉีดสีนั้น มีวิวัฒนาการขึ้นไปถึงระดับการสักบนผิวปลา ยกตัวอย่างเช่นปลาบอลลูนขาว สอดเซลฟินสีขาว ก็มีรูปหัวใจสีชมพูน่ารักเชียว มีลวดลายเหมือนเอาพู่กันไปวาดไว้บนลำตัว เมื่อสมัยบอลโลกปี 2010 จัดที่แอฟริกาใต้ โอ้โหลูกค้าญี่ปุ่นสั่งมาว่า ขอลายธงชาติทีมที่ได้เข้ารอบบอลโลกมาสีละหลายร้อยตัว

ตอนเห็นปลาครั้งแรกแอดมินถึงกับต้องอุทานแม่เจ้าโว๊ย เคยเห็นธงบราซิลบนตัวปลาบอลลูนปะล่ะ อย่างทึ่งอะงานคราฟท์แท้ๆ ธงฝรั่งเศสขาวแดงน้ำเงิน ส่วนของญี่ปุ่นก็หนึ่งจุดแดงแต้มสองฝั่ง

แบบที่แปลกน้อยลงมาหน่อย ก็เอาปลาแรดทองมาสักรูปหัวใจเต็มเลย สั่งมาก่อนวาเลนไทน์สัปดาห์นึง รอบนั้นก็ประทับใจอยู่คิดได้ไง เอาหัวใจแปะไปบนตัวปลา

คิดว่าผู้เลี้ยงปลารุ่นใหม่น่าจะไม่เคยเห็นแล้ว เพราะมีคนทำแล้วใช้ได้จริงอยู่ฟาร์มเดียว คนอื่นทำมาแล้วปลาช้ำส่งไปก็เสียหายหมด และฟาร์มลุงแกคนที่ทำแล้วดีก็เลิกทำปลาไปแล้วด้วย แกหนีไปเลี้ยงนกแทนบอกได้เงินดีกว่า ส่วนใครนึกภาพไม่ออกลองกูเกิ้ลคำว่า molly fish tattoo ดูนะครับยังมีภาพให้เห็นอยู่บ้าง

อย่างไรก็ดี ศาสตร์การฉีดสีนี้น่าจะใกล้ถึงทางตันมากแล้ว จากการมาถึงของปลาเรืองแสง ปลากลุ่มนี้ถูกตัดแต่งพันธุกรรมมาให้เม็ดสีมีความเรืองแสงมาแต่กำเนิดและตลอดไป โดยยีนส์สีเหล่านี้มาจากแมงกะพรุนทะเลและสามารถถ่ายทอดต่อทางพันธุกรรมรุ่นสู่รุ่น และปลาเสือเยอรมันก็เป็นหนึ่งในปลาลำดับต้นๆที่ได้รับการตัดแต่งนี้

Advertisements

ในเมื่อมันเรืองแสงจากเม็ดสีของตัวเองแล้ว ต่อไปนี้ปลาเสือเยอรมันสีก็จะไม่ซีดลงอีกเมื่อเวลาผ่านไป นั่นทำให้ความต้องการปลาเสือเยอรมันฉีดสีลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในตลาดส่งออกตอนนี้แทนที่ลูกค้าจะถามหาเสือเยอรมันฉีดสีก็เปลี่ยนเป็นถามหาเสือเยอรมันสะท้อนแสงกันเกือบจะทั้งหมด

ส่วนลูกค้าตะวันออกกลางก็ยังสั่งทั้งแบบฉีดสีและตัดแต่งพันธุกรรมไปด้วยกัน อาจเป็นเพราะทางเลือกของสีสำหรับแบบ GMOs ยังคงมีไม่มากนักก็เลยยังซื้อแบบฉีดสีไปด้วยอยู่

ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า ผู้มีอาชีพฉีดสีปลาจะต้องปิดกิจการไป เพราะเอาเข้าจริงกลุ่มปลาที่ถูกตัดแต่งพันธุกรรมนั้น ก็จำกัดวงอยู่ในปลาที่เลี้ยงง่ายออกลูกง่าย ซึ่งการฉีดสีปลาชนิดอื่นๆ นั้น แทบทั้งหมดเป็นปลาที่จับจากแหล่งน้ำธรรมชาติ

จริงๆ แล้วประเทศในกลุ่ม EU เค้ามีข้อห้ามในการนำเข้าปลาฉีดสีและตัดแต่งพันธุกรรมนะครับ เค้าไม่สนับสนุนการฉีดสี เพราะเป็นการทารุณสัตว์ ส่วนปลาตัดแต่งพันธุกรรมก็ไม่สนับสนุนเพราะผิดหลักธรรมชาติ และเกรงว่าถ้าหลุดลงไปในแหล่งน้ำธรรมชาติอาจะทำให้สายพันธุ์ที่ถูกตัดแต่งนี้แพร่กระจายออกไป

เรื่องทารุณสัตว์นี่เห็นด้วยและเข้าใจได้ แต่เรื่องปลาตัดแต่งพันธุกรรมนี่ก็แอบแปลกใจนิดนึง เพราะในกลุ่มประเทศ EU ปลาเหล่านี้ไม่สามารถอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติได้อยู่แล้ว เพราะฤดูหนาวมาถึงทีปลาก็ตายกันหมดแล้วมันไม่น่ามีชีวิตอยู่ได้ในอุณหภูมิต่ำขนาดนั้น ดังนั้นถ้าข้อบังคับนี้ใช้กับประเทศที่ตั้งอยู่บนเส้นศูนย์สูตรยังน่าจะสมเหตุสมผลกว่า

แต่ทั้งหมดทั้งมวลเราต้องไม่ลืมนึกว่า ปลาที่มันเรืองแสงได้ในความมืดนี่ มันคงมีชีวิตในแหล่งน้ำธรรมชาติได้ไม่นานหรอก เล่นเปิดไฟว่ายน้ำตลอดเวลา ปลาช่อนปลาชะโดหรือแม้แต่พวกกลุ่มแคทฟิชแบบสวายคงเล่นจ๊ะเอ๋กันสนุกเลย

อ้างอิงงานเขียนจาก เพจ Thai Fish Shop

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements
Advertisements
แหล่งที่มาThai Fish Shop