8 เรื่องน่ารู้เมื่อเกิดเหตุวาฬเกยตื้น

หลายครั้งหลายหนที่เราเราจะได้เห็นข่าวที่ว่า "ฝูงวาฬหรือโลมาเกยตื้น" และพวกมันทั้งหมดก็ตายลง มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เกิดขึ้นบ่อยในโลกแห่งนี้ แต่สังเกตไหมว่าเหตุการณ์พวกนี้วาฬและโลมามักจะพุ่งเข้าหาชายหาดเอง จนมีบางทฤษฎีที่ว่าสัตว์เหล่านี้มันฆ่าตัวตาย ซึ่งก็ยังไม่สามารถยืนยันอะไรได้

เป็นเรื่องน่าสงสัยอีกอย่างคือซากวาฬ แทนที่มันจะค่อยๆ เน่าและสลายไปแต่ทำไมซากของพวกมันถึงระเบิดได้ ซึ่งทางนักวิทยาศาสตร์พบสาเหตุมาจากปฏิกิริยาในร่างกายของมัน และการดูซากวาฬระเบิดไม่ใช่เรื่องน่าดูเลย แต่สำหรับบางคนอาจจะมองว่าเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจ (ยกเว้นคนที่ยืนใกล้ๆ มัน) เดี๋ยวมาดูทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาฬเกยตื้น

1. ทำไมวาฬถึงขึ้นมาเกยบนหาด?

Advertisements

โดยปกติแล้ววาฬ เมื่อมันตายโดยสาเหตุธรรมชาติ มันจะส่งผลบวกต่อระบบนิเวศในละแวกนั้น ซากวาฬตัวเดียวทำให้สัตว์น้ำแถวนั้นอิ่มไปได้อีกนาน และเมื่อซากมันจมสู่ก้นทะเลก็จะกลายเป็นอาหารของสัตว์น้ำลึกอีกจำนวนมาก

หากวาฬป่วยหรือเพิ่งตายได้ไม่นาน หลายครั้งกระแสน้ำจะพัดมันเข้าสู่ฝั่ง สำหรับซากหรือวาฬที่ป่วยจะเกยขึ้นฝั่ง เพราะกระแสน้ำ แต่แล้ววาฬที่สุขภาพดีละ? เนื่องจากวาฬหลายชนิดเป็นสัตว์สังคมหลายครั้งที่มันจะเกยตื้นเพียงเพราะพยายามเกาะติดกับเพื่อนที่ป่วยที่โดนกระแสน้ำพัดเข้าหาชายฝั่งจึงทำให้มันเกยตื้นไปด้วย

2. เมื่อพวกมันเกยตื้น ปัญหาจะเริ่มตามมามากมาย

โดยทั่วไปวาฬเป็นสัตว์เลี้ยงโลกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อย่างเช่น วาฬสีน้ำเงิน มันสามารถเติบโตได้ถึง 100 ฟุต และหนัก 150 ตัน ซึ่งเป็นน้ำหนักที่มหาศาล โดยปกติจะมีน้ำช่วยทำให้มันลอยตัวได้ แต่เมื่ออยู่บนที่แห้งนี่เป็นอันตรายกับมันมาก แรงกดจากน้ำหนักจะฆ่ามันช้าๆ แถมผิวหนังที่หนานำไปสู่การขาดน้ำและอุณหภูมิที่ร้อนยิ่งทำให้มันแย่ลงอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ การเกยตื้นยังส่งผลให้เกิดการขาดอาหารของพวกมัน ปกติวาฬต้องกินอาหารระหว่าง 2 – 10% ของน้ำหนักตัวมัน ซึ่งต่อให้ช่วยชีวิตมันได้แต่การขาดอาหารก็จะส่งผลกระทบกับพวกมันด้วย

3. แก๊สในท้องตัวต้นเหตุ

เมื่อวาฬตายนั้น การจัดการซากของพวกมันคืองานใหญ่ เป็นเรื่องปกติที่ซากสิ่งมีชีวิตจะเน่าและสามารถระเบิดได้เพราะแก๊สแต่ปัญหาคือวาฬมีขนาดใหญ่ และแก๊สนี้มากกว่าพวกสัตว์ขนาดเล็กมาก
จุดที่แก๊สสามารถระบายออกได้ก็มีทางปาก จมูก และทางทวารของมัน แต่มันก็เกิดการปิดกั้นได้เนื่องจากเนื้อเยื่อข้างในเริ่มแห้งและไปขวางทาง ซึ่งการขยับซากพลาดนิดเดียวทำให้เกิดระเบิดได้

4. การกำจัดซากวาฬนั้น หลายครั้งจบไม่สวย

Advertisements

ย้อนไปเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 1970 ในเมืองฟลอเรนซ์ เมืองชายหาดเล็กๆ แห่งหนึ่งในรัฐโอเรกอน มีซากวาฬสเปิร์มยาว 45 ฟุต และหนัก 8 ตันได้มาเกยที่หาด ชาวเมืองคิดหาวิธีจะจัดการยังไง เนื่องจากตอนนี้ด้วยอากาศที่ร้อนทำให้ซากของมันมีกลิ่นและกลิ่นลอยเข้าไปในตัวเมือง สุดท้ายเจ้าหน้าที่จะใช้ระเบิดเพื่อระเบิดซากของมันและปล่อยให้นกช่วยจัดการซากเล็กๆ ให้

จอร์จ ธอร์นตัน วิศวกรประจำเมืองไม่แน่ใจว่าต้องใช้ระเบิดขนาดเท่าไร และได้มีนักธุรกิจชื่อวอลท์ ได้เสนอสนับสนุนงบให้ แต่อดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่สองรายหนึ่งได้เตือนจอร์จว่ามันมากไป แต่เค้าไม่สน วันงานมีคนมากมายมาเข้าชม

แต่ทุกอย่างนั้นผิดพลาดอย่างร้ายแรง ทันทีที่ซากระเบิดขึ้น เศษชิ้นส่วนเนื้อเน่าๆ และอวัยวะภายในของวาฬกระจายฟุ้งไปทั่วและตกลอยไปไกลมากๆ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามันไม่ใช่การระเบิดเหมือนในหนัง แต่มันคือเศษเนื้อเน่าๆ และที่แย่สุดคือรถของวอลท์ ที่จอดบริเวณนั้นมีเศษชิ้นส่วนขนาดเท่าล้อรถบรรทุกตกอยู่

อ่าน : สาบานจะไม่ทำอีก ครบรอบ 50 ปี อีเว้นท์ในตำนานระเบิดซากวาฬ

5. ซากวาฬอาจจะระเบิดได้ตลอด

เมื่อการใช้ระเบิดนั้นแย่แล้ว มันมีที่แย่กว่านั้นอีก ที่เมืองไถหนาน ประเทศไต้หวันเจ้าหน้าที่ได้นำซากวาฬขึ้นรถบรรทุกเพื่อนำไปกลบฝัง ซึ่งมันเป็นความคิดที่ดี แต่มันกำลังจะกลายเป็นหายนะ เมื่อซากวาฬเคลื่อนที่แก๊สในตัวมันก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น มีชาวเมืองมามุงดูซากวาฬ ทันใดนั้นท้องของวาฬได้แตกออก ทำให้คนที่อยู่บริเวณนั้นรวมถึงบ้านเรือนและร้านค้าโดนไปเต็มๆ

ข้อคิดจากเหตุการณ์นี้ : วาฬที่ตายแล้ว ทางทีดีควรรอให้มันย่อยสลายไปเอง หรือกำจัดซากโดยไม่ใช้ระเบิดหรือลากมันผ่านเขตชุมชน

6. ซากวาฬนั้นอันตรายกับมนุษย์กว่าที่คิด

ไม่ใช่แค่กลิ่นเหม็นเน่าที่จะติดตัว แต่ซากของมันจะดึงดูดสัตว์นักล่ามากินเช่นหมีและหมาป่า แต่นั้นยังมีอีกหลายครั้งซากวาฬทำให้คนมามุงกัน และมักจะมีคนโง่ๆ ที่ดันไปยืนถ่ายรูปข้างๆ มันหรือหนักสุดปีนไปบนตัวมัน ซึ่งเสี่ยงชีวิตและแขนขาตัวเองอย่างมาก

และเมื่อมันย่อยสลายผิวหนังของมันจะยุ่ยและบางมาก ซึ่งคงไม่ใช่สิ่งที่ดี ถ้าคุณปีนอยู่บนซากมันแล้วทะลุลงไปในของเหลวเน่าๆ ซึ่งมันคงเป็นฝันร้ายดีๆ นี่เอง

7. การป้องกันไม่ให้ซากวาฬที่เกยตื้น

Advertisements

วิธีที่ได้ผลดีสุดคือการเปิดซากของมัน ให้มีช่องระบายก๊าซเน่าเสียออก ซึ่งอันนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและอุณหภูมิด้วย แต่ต้องระวังเหมือนกัน อีกวิธีหนึ่งคือการขุดหลุมและลากซากไปฝัง

8. เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ช่วยหยุดและช่วยชีวิตวาฬไม่ให้มาเกยตื้น

เนื่องจากขนาดของมันทำให้มันไม่ค่อยมีโอกาสรอดนัก หลายครั้งที่วาฬเกยตื้น แล้วไม่สามารถช่วยมันกลับลงน้ำได้ วิธีที่มีมนุษยธรรมสุดคือการการุณยฆาต แต่ในปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้มีหนทางในการช่วยพวกมันเพิ่มขึ้น นอกจากการรักษาอุณหภูมิและความชื้นพวกมันแล้ว ปัจจุบันยังมีการใช้เสียงกระตุ้นเพื่อให้พวกมันออกจากบริเวณเขตน้ำตื้นด้วย

หลายครั้งที่โซนาร์และการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศและน้ำทำให้พวกวาฬมาเกยตื้น แต่ปัจจุบันมนุษย์ก็หาทางแก้ไขเรื่องนี้ ทั้งอุปกรณ์ป้องกันเสียงที่จะไปกระทบต่อพวกมันควบคู่ไปกับการประมงและการเดินเรือพาณิชย์ที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมจะช่วยลดการเกยตื้นของวาฬลงได้

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements