ตกปลา กับการใช้เหยื่อยาง อย่างพวกปลายางหนอนยาง มันเป็นอะไรที่ใครๆ ก็ต้องเคยใช้กันมาบ้าง แต่ใครจะรู้ และแยกประเภทของเหยื่อยางได้ชัดเจน ซึ่งตัวผมเองยอมรับว่า ตกปลา มานานก็แยกไม่ค่อยถูก รู้แค่หนอนยางทรงทั่วไปที่ร้านค้าชอบเอามาขาย หรือปลายางหางแบนๆ ก็เช่นกัน มาวันนี้เรามาจำแนกประเภทของหนอนยางกันสักหน่อยละกันครับ
แยกจากสไตล์ของเหยื่อ
หากจะแยกได้ง่ายหน่อย ก็คือการแยกเอาจากสไตล์ของเหยื่อ ซึ่งสามารถแยกได้ 6 สไตล์หลักๆ ดังนี้
1. Tubes
2. Curly Tails
3. Solid Bodies
4. Shad / Stinger tails
5. Paddle tails
6. Split tails
1. Tubes
สำหรับสไตล์ Tubes จะเป็นเหยื่อยางอ่อน ที่มีลักษณะพิเศษอยู่ที่ ลำตัวท่อนบน (ครึ่งบน) จะกวง มีลักษณะคล้ายกระโปรง และครึ่งล่างจะเป็นหนวด โดยปกติแล้ว ครึ่งบน และล่างจะทำสีแยกกัน
ส่วนใหญ่เหยื่อสไตล์ Tubes จะมีขนาด 1 – 3 นิ้ว และที่ให้ช่วงบนกวงและกางได้เหมือนกระโปรง ทางผู้ผลิตตั้งใจให้เอาไว้ให้นัก ตกปลา เติมกลิ่นเพื่อเรียกความสนใจของปลานั้นเอง เหยื่อสไตล์นี้ที่ดังๆ ก็มี Southern Pro Lil’ Hustlers และ Midsouth Tackle (ในไทยหาไม่ค่อยจะเจอ)
2. Curly Tails
เหยื่อสไตล์นี้คุ้นเคยกันดีอย่างแน่นอน สำหรับนักตกปลาชาวไทย เพราะผมเองก็ชอบใช้มัน (หาง่าย และเข้าตาดี) เหยื่อสไตล์นี้ชอบเอามาใช้ ตกปลา แบบเท็กซัส ริก อีกด้วย
รูปร่างหน้าตาของมันก็สมชื่อเลยครับ “หางหยิก” มันถูกออกแบบให้มีลำตัวที่อ้วน และหางหยิกเป็นลอน ข้อดีของมันคือ สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือน หรือเรียกความสนใจได้ดี แม้จะเคลื่อนที่ช้ามากๆ เพราะหางที่เป็นหยิก .. ส่วนยี่ห้อดังๆ ที่ขายดีมากในอเมริกาคือ Twister Tail 4 และ 6 นิ้ว (ในไทยก็มีขาย แต่แพงนิดนึง)
3. Solid Bodies
จะเรียกสไตล์นี่ว่าไงดีหว่า คือประมาณว่า มันถูกเรียกว่า “solid” เพระตัวเหยื่อจะมีส่วนที่แข็งที่ท่อนบน (ไม่ได้แข็งมาก) และส่วนที่อ่อนที่ท่อนล่าง ซึ่งท่อนล่างนี่ละที่จะมีการเปลี่ยนแปลง โดยการเอาของสไตล์อื่นมาแปะ เลยทำให้เป็นเหยื่อที่หางที่หลากหลาย
ถ้าสงสัยว่าเป็นเป็นแบบ Solid หรือเปล่า สามารถดูที่ซองได้เลยครับ ปกติมันจะมีเขียนไว้ว่า “Solid body” เหยื่อสไตล์นี่ผมก็ไม่เคยใช้เหมือนกัน เพราะในไทยไม่ค่อยมีคนนำเข้ามาสักเท่าไร ส่วนยี่ห้อดังๆ ก็มี Muddy Waters Baits กับ Crappie Thunder by Mr. Crappie
4. Shad / Stinger tails
ต่อไปเป็นสไตล์ Shad / Stinger tails เขาเรียกว่าไงกันหว่า ผมเรียกหางเข็มละกัน เพราะหางมันแหลม เรียว โดยสไตล์นี้นัก ตกปลา ชาวไทยคงจะเห็นกันบ่อย เพราะมีคนนำเข้ามาขายครับ เป็นเหยื่อที่สามารถตกปลากระพงได้หลากหลายวิธีมาก จะติดหัวจิ๊ก หรือแม้แต่เอาไปพ่วงกับป็อปก็มีคนใช้กัน
การทำงานของเหยื่อจะตรงข้ามกับสไตล์ Curly Tails เลย เพราะหางมันจะเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยปกติแล้วหากลากกลับมาเฉยๆ อาการของหาง แรงสั้นสะเทือนจะน้อยมาก การใช้เหยื่อนี้ต้องกระตุกๆ เคาะๆ ยี้ห้อดังๆ ก็มี Lake Fork Live Baby Shad, Southern Pro Stinger Shad และ Bobby Garland Baby Shad
5. Paddle tails
ผมเคยเรียกเหยื่อสไตล์นี้ว่าหางตุ่มใหญ่ บางทีก็หนอนสไปเดอร์ เป็นเหยื่อที่ต้องรู้จักกันอยู่แล้ว เพราะ Paddle Tails ที่เป็นชื่อเรียกของหางเหยื่อ ก็ถูกใช้กับปลายางหลายๆ ตัวด้วย หรือแม้แต่กบยางที่ขาตีน้ำ ก็มีขาแบบนี้ โดยที่หางจะมีลักษณะแบน ต้านน้ำ เวลามันโดนลากกลับมา หางจะสั่นดุกดิ๊กๆ เร็วมาก
ผมว่าเจ้าตัวนี้ เป็นเหยื่อยางที่ใช้ ตกปลา ได้หลายแบบนะครับ จะใส่หัวจิ๊กก็ได้ จะตกแบบเท็กซัส ริก ก็พอไหว เล่นง่ายดีด้วย ลากกลับมาเฉยๆ ก็ได้แอคชั่นโดนๆ แล้ว ส่วนเจ้าดังๆ ก็มี Slider กับ Bobby Garland Stroll’R
6. Split tails
เป็นเหยื่อยางที่ได้รับความนิยมน้อยที่สุดเลยก็ว่าได้ แม้แต่ในอเมริกาก็ตาม ยิ่งในไทยไม่ต้องพูดถึง แทบไม่เจอ ลักษณะเด่นของสไตล์ Split tails คือหางมันจะแยกเป็นแฉก จะ 2 แยก, 3 แยก
ตัวเหยื่อจะเป็นยางอ่อนทั้งตัว วิธีนำมาใช้ส่วนใหญ่จะใส่หัวจิ๊กเพราะลำตัวเหยื่อจะสั้นหน่อย เลยใส่ตัวเบ็ดใหญ่ๆ ไม่ค่อยจะได้ ส่วนยี้ห้อดังๆ ก็มี The Bobby Garland Split Tail และ the Crappie Magnet
ก็ขอตัดจบเพียงเท่านี้ก่อนเลยนะครับ สำหรับเรื่องสไตล์เหยื่อยางทั้ง 6 แบบ หวังหว่าจะช่วยให้รู้จักมันเหยื่อยางมากขึ้น ..ยังไงก็ ตกปลา ให้สนุกนะครับ ..ผิดพลาดประการใดบอกกันด้วยนะครับ จะได้แก้ไขครับ ^ ^
อ่านเรื่องอื่น อดีตเทพ (ราคา) เหยื่อยาง Mask VIB