1. ในขณะทำการตกปลาอยู่ในบริเวณกองหินโขดหิน ควรหมั่นตรวจเช็ก สายทุกๆ ครั้งหลังตีเหยื่อออกไป 10-15 ครั้งแล้ว
2. ถ้าน้าๆ ใช้สายเบ็ดที่มีอัตราความยืดตัวน้อย ควรทำการปรับเบรกให้มีระดับความหนืดอยู่ในระดับกลางๆ อย่าแข็งมากจนเกินไป เพราะปลาล่าเหยื่อ ส่วนมากมักมีพละกำลังที่รุนแรงในการกระชากสายออกไปจากสปูล
3. ถ้าน้าๆ กำลังตกปลาล่าเหยื่อในช่วงโพล้เพล้ ความเร็วในการกรอสายลากเหยื่อจะต้องอยู่ในระดับที่ช้ากว่าปกติเล็กน้อย
4. สายถักหรือพวกสาย “ซูเปอร์ไลน์” ชนิดต่างๆ เป็นสายเบ็ดที่มีอัตรากรยืดตัวต่ำมากๆ หรือจะไม่ยืดตัวเลย ดังนั้นในการวัดคันเบ็ดแต่ละครั้งจึงควรใช้กำลังน้อยลงกว่าเดิม หรือจะใช้คันเบ็ดที่มีแอ็กชั่นอ่อนกว่าปกติก็ได้ เพราะถ้าวัดแรงเกินไปหรือใช้คันแอ็กชั่นแข็งๆ ก็อาจะทำให้ปลาปากฉีกได้ในกรณีที่ตัวเบ็ดเกี่ยวติดปากปลาอย่างหมิ่นเหม่
5. ถ้ารักจะตีเหยื่อปลอม ไม่ว่าจะสปินหรือเบท ควรกรอสายให้เต็มสปูล เพราะสายที่ไม่เต็มสปูลจะทำให้การตีเหยื่อเหวี่ยงเหยื่อไม่ได้ระยะทางเท่าที่ควร เพราะสายเอ็นจะสีกับขอบสปูลทำให้เกิดความฝืด แต่ในทางกลับกัน การใส่สายมากเกินไปก็เกิดปัญหามากมายตามมาเช่นกัน
6. รอกสปินนิ่งบางรุ่นอาจจะแถมสปูลสำรองมาด้วย สปูลหรือหลอดเก็บสายสำรองนี้ละ ที่เราควรนำมันมากรอสายใส่ให้เต็ม แล้วนำไปออกทริปด้วยทุกครั้งเพราะเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมักเกิดขึ้นได้เสมอ เช่นสายเอ็นอาจขาดหรือมีรอยถลอกไปกว่าครึ่ง ซึ่งทำให้เราต้องหันมาใช้บริการของสปูลสำรองตัวนั้น อีกทั้งยังเร็วกว่ามานั่งกรอสายเอ็นเข้าไปใหม่ในสปูลตัวเดิมด้วย
7. มีกฎของการตีเหยื่อปอลมอยู่ข้อหนึ่งว่า “อย่าลังเลที่จะเปลี่ยนความเร็วและทิศทางในการลากเหยื่อ ให้ได้หลายๆ รูปแบบ” การรีบคิดรีบทำอาจจะทำให้น้าๆ มีโอกาสได้ตัวมากขึ้น
8. มีข้อสะกิดใจของนักตกปลาอยู่อีกข้อหนึ่งว่า “วันนี้เข้าทีแต่พรุ่งนี้อาจไม่เข้าท่า” เพราะฉะนั้นจงเปลี่ยนเหยื่อและเทคนิคของน้าๆ ได้ทุกครั้งที่ต้องการ แน่นอนที่ปลามันต้องชอบเหยื่อตัวใดตัวหนึ่งของน้าๆ ในกล่องเหยื่อปลอมใบนั้นแน่
9. ในแหล่งน้ำที่มีระดับน้ำค่อนข้างตื้น ไม้แรกๆ ควรลองลากเหยื่อให้มีความเร็วสักหน่อย และในทางตรงข้ามถ้าแหล่งหมายนั้นมีระดับน้ำค่อนข้างลึก ก็ลองลากเหยื่อให้ช้าๆ ลงหน่อย
10. สีสันที่สดใสของตัวเหยื่อรุ่นต่างๆ นั้น มันสามารถที่จะใช้ “ตก” นักตกปลาได้ก่อนปลาเสียอีก ดังนั้นถ้าไม่อยากเสียเงินมาก ๆก็ควรเช็กหาข้อมูลดีเสียก่อนว่าปลาในถิ่นนั้นๆ ส่วนมากชอบเหยื่อสีอะไร
11. ถ้าหากจะกล่าวถึงเรื่อง “สี” ของเหยื่อปลอมที่ปลาชอบละก็ พูดยังไงก็ไม่มีทางจบเพราะมันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของนักตกปลาแต่ละคนด้วย แต่สีที่จะแนะนำต่อไปนี้ส่วนใหญ่เป็นสีที่นักตกปลาเลือกใช้แล้วค่อนข้างจะประสบความสำเร็จ เช่นในสภาพพื้นน้ำขุ่นเป็นโคลนก็ควรเลือกใช้พวกสีสะท้อนแสดง ในสภาพพื้นน้ำใสก็ควรใช้สีขาว สีเงินหรือสีนาก
12. มีกฎพื้นฐานของการตกปลาหน้าดินอยู่ข้อหนึ่งว่า ถ้าจนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีปลามากินเหยื่อซักที ขั้นแรกที่ควรทำคือลองเปลี่ยนความยาวของสายลีดเดอร์ให้สั้นขึ้นหรือยาวอีกหน่อย แต่ถ้าจนแล้วจนรอดก็ยังเหมือนเดิมก็ควรย้ายที่ย้ายทางเสียเถอะ เพราะตรงนั้นคงไม่มีปลาแน่ๆ เลย
13. แว่นกันแดดจัดเป็นอุปกรณ์ประกอบอย่างหนึ่งที่สำคัญในการตกปลาที่ควรใช้ทุกครั้งเมื่อออกทริป เพราะรังสีจากแสงแดดอาจทำให้นัยน์ตาเสียได้ ยิ่งกว่านั้นมันยังสามารถป้องกันไม่ให้เศษเหยื่อหรือคมเบ็ดมาเป็นอันตรายแก่นัยน์ตาได้อีกแต่แว่นตานี้ทั่วไปก็มีน้าๆ สมบัติที่เหมือนๆ กัน อยู่ข้อหนึ่งคือ “จมน้ำ” ดังนั้นจึงควรมีสายแว่นเอาไว้คล้องคอด้วย ถ้าหาไม่ได้ก็ใช้สายเอ็นนั่นละครับง่ายดี
14. ถุงพลาสติกหรือถุงก๊อบแกบก็จัดเป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้รักกีฬาลางแจ้งทั้งหลายควรมีติดไว้ทุกครั้งที่ออกทริป อย่างแรกมันจะช่วยเก็บของที่ไม่ถูกกับน้ำเช่นกล้องถ่ายรูปได้ อย่างที่สองสามารถนำมาใช้ใส่เสื้อฟ้าที่เปียกหรือของสกปรก และก็สามารถนำมาทำเป็นหมวกคลุมศีรษะยามฝนตกก็ได้อีกเช่นกัน
15. เมื่อต้องออกตกปลาตามสถานที่ที่อับชื้น เลือดอุ่นๆ ของน้าๆ อาจเป็นที่ชอบใจของแมลงต่างๆ ได้ หากไม่สามารถหายาทากันยุงและแมลงได้ ก็ให้ใช้ครีมทาผิว 3 ส่วนและวิกส์ 1 ส่วน เอามาผสมกัน จากนั้นก็ละเลงไปได้ตามส่วนของร่างกายที่คิดว่าจะถูกยุงกวน สูตรนี้ท่านว่าชะงัดดีนักแล คิดได้ไงไม่รู้
16. ในแต่ละระดับความลึก หากน้าๆ เลือกใช้น้ำหนักเหยื่อที่เหมาะสมก็จะทำให้แอ๊กชั่นของเหยื่อมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่นในระดับความลึกไม่เกิน 5 ฟุต ให้ใช้เหยื่อหนัก 1/8 ออนซ์ ระดับลึก 5-10 ฟุตใข้เหยื่อหนัก 3/16 ออนส์ หรือในระดับ 10-15 ฟุตที่ใช้เหยื่อหนัก ¼ ออนส์เป็นต้น
17. ถ้าน้าๆ กำลังลากเหยื่อแบบผิวน้ำแล้วสังเกตเห็นว่ามีปลาว่ายตามเหยื่อมาแต่ไม่ยอมเข้าชาร์จ ให้ลองใช้พู่สีสดใสมาผูกไว้เหนือตัวเหยื่ออีกทีในระยะห่างประมาณ 1 ฟุต ให้ดูคล้ายกับว่าตัวเหยื่อกำลังไล่ล่าเหยื่อเหมือนกัน มันจะเป็นจุดสนใจกระตุ้นให้เจ้าปลาล่าเหยื่อพุ่งเข้าชาร์จเหยื่อก็ได้นะ
18. หากว่าน้าๆ กำลังใช้เหยื่อสปินเนอร์เบทอยู่แต่ไม่มีปลาเขากัดเลย สิ่งแรกที่ควรทำหากต้องการจะใช้เหยื่อสปินเนอร์เบทเหมือนเดิม ก็คือเปลี่ยนใบสปินที่ต่างขนาดต่างสีและต่างแบบ (ใบกลมและใบยาว) ไม่ใช่เปลี่ยนตัวสเกิร์ตหรือพู่ก่อน
19. เมื่อต้องกาที่จะใช้เหยื่อชนิดจมน้ำ (Sinking) นักตกปลาบางท่านต้องการที่จะให้เหยื่อเคลื่อนที่ด้วยอัตราที่ไม่เร็วมากนัก ก็ควรเปลี่ยนมาใช้ขนาดสายเอ็นให้ใหญ่ขึ้น
20. ถ้าไม่อยากจะให้ปลาหลุดไปพร้อมกับเหยื่อตัวโปรด (ก็เพราะมันแพงน่ะซิ) ก็พยายามตรวจเช็คตรงรอยต่อของปลายสายกับตัวเหยื่อหลังได้ปลาขึ้นมาแล้ว แต่ถ้าจะให้ชัวร์ก็ผูกเงื่อนใหม่เลยดีกว่า
21. กฎว่าด้วยเรื่องของสภาพอากาศกับเกมฟิชนั้น มีอยู่ว่าวันที่มีเมฆปกคลุมจะตกปลาได้ดีกว่าวันที่ฟ้าโปร่ง วันที่มีอากาศอบอุ่นดีกว่าวันที่อากาศเย็นและวันที่มีลมพัดก็จะดีกว่าวันที่ลมสงบ
22. ทริกต่อไปนี้จะช่วยให้น้าๆ รักษาเหยื่อปลั๊กราคาแพงของน้าๆ ไว้ไม่ให้สูญไปอย่างง่ายๆ โดยนำคีมตัดลวดมาตัดคมเบ็ดด้านที่เหยื่อจะต้องสัมผัสกับพื้นหรือสวะใต้น้ำออกหนึ่งเงี่ยง ทั้งเบ็ดตัวหน้าและเบ็ดตัวหลัง ซึ่งจะทำให้เหลือเบ็ดสองทางว่ายในลักษณะหงายหลังให้พื้นหรือกิ่งไม้คล้ายกับตัวเบ็ดของเหยื่อสปินเนอร์เบต แค่นี้ก็จะช่วยลดอัตราการเสียเหยื่อสปินเนอร์เบต แค่นี้ก็จะช่วยลดอัตราการเสียเหยื่อตัวโปรดไปได้บ้าง
23. เคยไหมครับที่ขณะออกทริปตกปลาเพลินๆ แล้วบังเอิญเดินถือคันเบ็ดอีท่าไหนไม่ทราบ พลั่ก! ทิ่มเข้าให้กับกิ่งไม้หรืออะไรก็ตามที่เป็นต้นเหตุให้ปลายคันหักทันตา น่าเศร้านะ วิธีแก้ไขง่ายๆ คือก่อนอกทริปก็หาของเหล่านี้ใส่ไว้ในกล่องอุปกรณ์คือกระดาษทราย (ชิ้นเล็กๆ) กาวอีพ้อกซี่ (ถ้าหาไม่ได้จะเอากาวข้างก็ได้) และสุดท้ายคือทิปทอปหรือไกด์ตัวปลายสำรอง (เก็บเอาไว้ในกล่องใส่ฟิมล์ถ่ายรูปจะเจ๋งที่สุด) แล้วจัดการได้เลยครับเดี๋ยวไม่ทันกระสูบฝูงต่อไปนะ แค่ห้านาทีก็เสร็จแล้วละ
24. วิธีเก็บรอกเบตคาสติ้งให้ปราศจากรอยขีดข่วน ซึ่งตามธรรมดาแล้วส่วนมากมักจะเก็บเอาไว้ในกล่องอุปกรณ์เลย บางท่านที่พิถีพิถันก็อาจจะมีถุงใส่รอกอีกชั้นซึ่งก็อาจจะเทอะทะไปหน่อย แต่ถ้าไม่มีเลยก้ไม่ยากครับ เพียงแต่หาถุงเท้าชนิดฟูนุ่มขนาดสั้นทั้งแบบใช้แล้วลังไม่ได้ใช้ มาห่อหุ้มแทนถุงใส่รอกทั้งกระชับ ไม่ใหญ่โตและประหยัดเลิศกว่าใครเชียว
25. สำหรับการใช้เหยื่อหนอนยางหรือไส้เดือนยางให้คืบคลานไปอย่างช้า ใต้ก้นบ่อ ด้วยการเกี่ยวเหยื่อแบบ Carolina Rigs (การเกี่ยวให้เหยื่อยางกับตะกั่วอยู่ห่างกันประมาณ 1 คืบ) น้าๆ อาจจะพบว่าถ้าหากเราเพิ่มลูกปัดชนิดเซรามิกสักสองลูก แล้วกระดกปลายคันเล็กน้อยขณะกรอกลับ จะทำให้ลูกปัดกระทบกันจนเกิดเสียงที่น่าดึงดูดใจมากขึ้น
26. ตามปกติตัวเบ็ดที่ใช้เกี่ยวเหยื่อยาง ทางด้านบนของก้านเบ็ดจะมีรอยหยักเพื่อที่ให้ส่วนหัวของเหยื่อเกาะอยู่ได้โดยไม่รูด แต่หากน้าๆ ไม่มีตัวเบ็ดอย่างว่าละครับ ไม่เป็นไรก็เอาตัวเบ็ดแบบธรรมดาๆ นี่ละ ขนาด 1/0 กำลังเหมาะมาใช้เกี่ยวได้ดีเหมือนกัน แต่ต้องเพิ่มไม้จิ้มฟันเป็นส่วนประกอบด้วย โดยเอามาเสียบให้ทะลุหัวเหยื่อผ่านห่วงออกไปอีกด้านหนึ่ง แล้วหักปลายทั้งสองให้พอดี ก็เป็นอันเสร็จพิธีไม่มีรูด
27. ปัญหาเรื่องเหยื่อยางรูดนี้มักเกิดขึ้นได้เสมอๆ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าเราจะมีเทคนิกอย่างไรที่จะจัดการกับมัน อีกวิธีหนึ่งก็ด้วยการใช้กิ๊บ (คลิป) มาช่วยไงครับซึ่งสามารถใช้กับตัวเบ็ดธรรมดาได้ดีเสียด้วย เพียงแต่เกี่ยวเหยื่อยางเข้ากับคลิปที่ส่วนหัวของเหยื่อด้วยเลย จะทำให้เหยื่อมีลักษณะตรงไปตรงมาไม่ม้วนงอบิดรูดขณะที่ตีเหยื่อหรือหลังใช้งานไปนานๆ
28. เวลาที่น้าๆ ตีเหยื่อใบพัดออกไป เคยสังเกตบ้างไหมครับว่าสายเอ็นช่วงสามสี่ฟุตหน้าเหยื่อจะจมน้ำ พอน้าๆ เริ่มกรอกลับจะทำให้เหยื่อจมมุดลงน้ำนิดหน่อยเสียจังหวะไป เหตุก็เพราะสายที่จมน้ำนั่นแหละครับ งั้นจะทำให้สายส่วนนั้นลอยน้ำล่ะทำยังไง ง่ายมากครับก็ใช้เทียนไขมาทาที่ส่วนจองสายเอ็นหน้าตัวเหยื่อซักสี่ห้าฟุตนั่นเอง
29. เมื่อทำการจิ๊กเหยื่อในแนวดิ่ง ตัวเหยื่อจิ๊กมักจะหมุนตัวไปรอบ ๆ และเป็นต้นเหตุทำให้สายตีเกรียว ซึ่งสายที่ตีเกรียวนั้น มันก็จะขึ้นมาพ้นอยู่กับปลายคันเบ็ดหรือไม่ก็ไปพันติดอยู่กับวงไกด์ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้นได้ ก็ควรจะผูกลูกหมุนลูกเล็กๆ กับสายเบ็ดเหนือตัวเหยื่อขึ้นมาประมาณ 1-2 ฟุต
