จิ้งเหลนและตุ๊กแกถูกพบในเทือกเขา Mataura ใน Southland และอุทยานแห่งชาติ Nelson Lakes ตามลำดับ มันเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ทางวิทยาศาสตร์ แต่ยังไม่ได้รับการอธิบายอย่างเป็นทางการ
การค้นพบนี้ทำให้นักสัตววิทยา (ผู้เชี่ยวชาญด้านกิ้งก่า) ตื่นเต้นและต้องการรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสายพันธุ์กิ้งก่าที่หลากหลายอยู่แล้วของนิวซีแลนด์ ในนิวซีแลนด์มีตุ๊กแกและจิ้งเหลนมากถึง 126 สายพันธุ์ และยังมี 2 สายพันธุ์ใหม่ซึ่งไม่พบที่อื่นในโลก พวกมันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและให้กำเนิดลูกออกมาเป็นตัว ไม่เหมือนกับกิ้งก่าอื่นๆ ที่วางไข่
“เรายังอยู่ในยุคแห่งการค้นพบ สำหรับกิ้งก่าของเรา เรามีแนวโน้มที่จะพบมากขึ้นในขณะที่เราดำเนินการสำรวจต่อไปในฤดูร้อนนี้” ..Dr. Jo Monks ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของภาควิชาและหัวหน้าโครงการสำรวจกล่าวว่า การสำรวจกิ้งก่าอย่างเข้มข้นเป็นการหากิ้งก่าในสถานที่ที่เราสำรวจน้อยที่สุด
นิวซีแลนด์มีสายพันธุ์กิ้งก่าเฉพาะถิ่นมากกว่านกประจำถิ่น จริงๆ แล้วนิวซีแลนด์เป็น “ดินแดนแห่งกิ้งก่า และ ดินแดนแห่งนก” Monks กล่าว ..หลังจากที่สองสายพันธุ์ล่าสุดได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้ว การสำรวจเพิ่มเติมจะช่วยให้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพวกมัน และกำหนดสถานะการอนุรักษ์ของพวกมันรวมถึงวิธีจัดการพวกมัน
การทดสอบทางพันธุกรรมยังยืนยันว่า ตุ๊กแกถูกพบเป็นครั้งแรกในภูเขาใกล้กับฮาสต์เมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว เหมือนกับที่ก่อนหน้านี้รู้จักเฉพาะบนเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ สิ่งนี้เปลี่ยนแปลงสิ่งที่รู้เกี่ยวกับตุ๊กแกไปอย่างสิ้นเชิง ..ประชากรใหม่หลายตัวของจิ้งเหลน ที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน รวมถึง Eyres skinks และ Cascade geckos ก็ได้รับการยืนยันเช่นกัน
ในทางกลับกัน ตุ๊กแกชนิดที่เรียกว่า “Cupola gecko” ซึ่งพบที่ทะเลสาบเนลสันเมื่อ 50 ปีที่แล้วและอีกครั้งในฤดูร้อนปีที่แล้ว เดิมคิดว่าเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างออกไป แต่มันกลายเป็นประชากรตุ๊กแกป่าที่มีลักษณะเฉพาะทางสัณฐานวิทยา และยังพบได้แพร่หลายในหมู่เกาะทางเหนือและใต้
Makaawhio Rūnanga ประธาน Paul Madgwick กล่าวว่า “เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่กลุ่มของเราเป็นผู้นำในการสำรวจในเซาท์เวสต์แลนด์กับความเป็นไปได้ที่จะค้นพบกิ้งก่าสายพันธุ์อื่นๆ
ประมาณร้อยละ 90 ของสายพันธุ์จิ้งเหลนและตุ๊กแกในประเทศถูกระบุว่าถูกคุกคาม หรือเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ และจำนวนประชากรจิ้งเหลนและตุ๊กแกหลายชนิดกำลังลดลงอย่างน่ากลัว ..กิ้งก่าและพวกสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็กมีความเสี่ยงต่อสัตว์กินเนื้อหลายชนิด รวมทั้งหนู เม่น วีเซิล และแมวป่า นอกเหนือไปจากหนู สโท๊ต และพอสซัม ซึ่งทำให้นกพื้นเมืองเสียหายมากที่สุด นี่เป็นผลกระทบจากเอเลี่ยนสปีชีส์
