เจ้าหน้าที่เตรียมดักจับ ‘เสือโคร่งพิการ’ คาดอาจเป็นตัวที่ทำร้ายชาวบ้าน

จากกรณีเสือโคร่งทำร้ายชาวบ้านที่เข้าไปเลี้ยงควายป่าบริเวณลำห้วยปิล๊อก ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้จัดชุดเฝ้าระวังเสือโคร่งที่อาจเข้ามาในพื้นที่เสี่ยงต่อการทำร้ายชาวบ้าน และประสานทางมูลนิธิฟรีแลนด์ (Freeland Foundation) ทำการติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า (Camera Trap) จำนวน 20 ตัว เพื่อติดตามเสือโคร่งที่อยู่ในพื้นที่ป่าดังกล่าว

เสื้อโคร่งพิการ

จนล่าสุดหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม รายงานว่าเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ได้พบซากควายบริเวณสามแยกสะมะท้อ ที่ได้มีการติดกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า จึงได้ทำการตรวจสอบข้อมูลภาพถ่ายจากกล้องตัวดังกล่าวพบเสือโคร่งจำนวน 1 ตัว มีลักษณะขาหลังด้านขวาขาขาดพิการใช้การไม่ได้ กำลังกินซากควายอยู่

จึงคาดว่าน่าจะเป็นเสือตัวเดียวกันกับที่ทำร้ายชาวบ้านปิล็อกคี่ โดยทางมูลนิธิฟรีแลนด์ (Freeland Foundation) และองค์กร IUCN มีความเห็นร่วมกันว่า เห็นควรดักจับเสือโคร่งตัวที่พิการน่าสงสารดังกล่าว นำมาไว้ดูแลในสถานที่ปลอดภัย

เพราะเสือโคร่งตัวพิการน่าสงสารดังกล่าว จะหากินจับสัตว์ป่าในธรรมชาติได้ยาก ประกอบกับมีหมู่บ้านปิล็อกคี่ อยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ใกล้พื้นที่หากินเสือโคร่งตัวพิการน่าสงสารดังกล่าวด้วย เกรงว่าในอนาคตเสือโคร่งตัวพิการน่าสงสารดังกล่าวอาจจะไม่ปลอดภัย



Advertisements
ทั้งนี้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้ประสานงานไปยังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ดำเนินการในเรื่องช่วยเหลือเสือโคร่งตัวพิการตัวดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านช่วยเหลือเสือโคร่งโดยเฉพาะ

สำหรับในส่วนของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จะคอยระวังภัยให้กับชาวบ้านปิล็อกคี่ ให้ปลอดภัยจากเสือโคร่ง และคอยระวังภัยให้กับเสือโคร่งตัวพิการน่าสงสาร ที่อยู่ในป่าด้วย

อย่างไรก็ตาม ในทางวิชาการ เสือโคร่งแต่ละตัวจะมีลายบนลำตัวที่แตกต่างกัน เหมือนลายนิ้วมือของมนุษย์ การจะพิสูจน์ทราบว่าเป็นเสือตัวเดียวกับตัวที่ทำร้ายชาวบ้านปิล๊อคคี่หรือไม่ ต้องรอการพิสูจน์การเปรียบเทียบลายของเสือโคร่งที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้จัดทำประวัติเสือโคร่งไว้ต่อไป

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements
Advertisements
แหล่งที่มาdnpnews