“เรื่องเล่านี้เกิดขึ้นบนแผ่นดินของ “ซาราวัก” เป็นหนึ่งรัฐของประเทศมาเลเซีย ที่ตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียว เรื่องของบูจังเซนัง เป็นเรื่องเล่าที่สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ที่ได้ยิน มันเป็นเรื่องของจระเข้ยักษ์ ที่มีหลังเป็นสีขาว ชาวซาราวักกล่าวว่า มันคงอยู่มานานและคุกคามอยู่แถวน่านน้ำ Batang Lupar”
“ต้องบอกว่าจระเข้ตัวนี้คล้ายชาละวันบ้านเรา ต่างกันตรงที่ชาละวันบ้านเราแปลงเป็นคนได้และมีชีวิตที่สุขสบาย แต่ บูจังเซนัง เป็นมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ความแค้นรุนแรง จนกลายเป็นจระเข้ยักษ์..ลองอ่านกัน”
ความตายของนักรบที่น่าเกรงขาม จุดเริ่มต้นความแค้น
ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยนักรบที่ชื่อ Simalungun แห่งเผ่า Iban เขาไม่เพียงแค่เก่งกาจเท่านั้น แต่ยังมีชื่อเสียงอย่างมากใน Sarawak รวมทั้งบริเวณน่านน้ำ Batang Lupar
Simalungun มีชื่อเสียงในเรื่องการสังหารศัตรูมานับไม่ถ้วน จนศัตรูของเขาเริ่มคิดว่า Simalungun อยู่ยงคงกระพัน จนอาวุธอย่าง Parang (มีดดาบขนาดใหญ่) ไม่สามารถทำอันตรายเขาได้เลย และเพื่อจะเปิดเผยความลับของ Simalungun เหล่าศัตรูของเขาได้ลักพาตัวเมียของเขา แล้วนำเธอไปที่ Batang Lupar
แน่นอนว่า Simalungun ได้ปรากฎตัวขึ้นมาช่วยเหลือเธอ และได้ฆ่าศัตรูที่ลักพาตัวเธอในเวลาเดียวกัน แต่เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เมียของเขา ถูกฆ่าตายด้วยหอกในขณะที่เธอถูกปล่อยตัว และด้วยความโกรธแค้น Simalungun จนได้ล่าสังหารศัตรูตลอดทาง จนถึงฝั่งแม่น้ำ Batang Lupar และในที่สุดศัตรูของเขา ก็สังเกตุเห็นว่า Simalungun พักอยู่ที่แม่น้ำ และเริ่มหมดแรง
กำเนิดทรราชฟันน้ำนม
หลังจากที่ไล่สังหารศัตรูไปมากมาย ในที่สุด Simalungun ก็หมดแรงลง เขาอยู่ในช่วงเวลาที่เปราะบางที่สุด จนในที่สุดก็ถูกสังหารด้วยหอกและลูกศร จากนั้นเขาและเมียถูกเอาศพไปทิ้งไว้ที่ริมฝั่ง Batang Lupar
หลังจากการค้นหาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จนในที่สุดญาติของเขาคนนึงซึ่งเป็นหมอผีที่มีพลังอำนาจมหาศาล ได้ฝันถึง Simalungun ที่ถูกฆ่าตาย เขาบอกว่าต้องการแก้แค้น และด้วยพลังของหมอผี เขาได้ขอความช่วยเหลือจากเทพเจ้าโบราณ Iban เพื่อเปลี่ยน Simalungun ให้เป็นจระเข้หลังขาวขนาดยักษ์ เพื่อที่ Simalungun จะสามารถล่าสังหารคนที่ฆ่าเขา ตลอดจนคนรุ่นหลังต่อๆ ไปด้วย
จระเข้ที่น่ากลัว
บูจังเซนัง (Bujang Senang) ไม่ใช่จระเข้ทั่วไป มันเป็นจระเข้น้ำเค็มขนาดใหญ่และทรงพลังมาก มีจุดเด่นที่หลังมีสีขาวชัดเจน มันยาวราวๆ 20 ฟุต
จระเข้ตัวนี้สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนไปทั่ว Batang Lupar ตั้งแต่ปี 1941 บูจังเซนังฆ่าคนไปมากมาย แต่ไม่มีบันทึกจำนวนเอาไว้ได้ อย่างไรก็ตามมีการบันทึกเอาไว้ในช่วง ปี 1982 – 1992 มีการโจมตีมนุษย์ 14 ครั้ง
เหยื่อรายสุดท้าย
จนถึงปี 1991 มีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจาก “บูจังเซนัง” 13 ราย และในปีต่อไป บูจังเซนัง โจมตีอีกครั้ง คราวนี้เป็นแม่น้ำ Pelaban ที่อยู่ใน Batang Lupar
เรื่องมีอยู่ว่า ดายังและแม่ของเขา กำลังมุ่งหน้าไปยังพื้นที่นาที่ไม่ไกลจากแม่น้ำ Pelaban ในเวลานั้นน้ำกำลังขึ้นสูง และท้องฟ้าก็มืดสลัว ดายังได้ส่งให้แม่ขึ้นฝั่งก่อนที่ตามขึ้นไป แต่ในขณะที่ดายังกำลังจะขึ้นไป เธอถูกดึงลงไปในพริบตา ดายังร้องลั่นและแม่ของเธอก็ตกใจเมื่อเห็นลูกสาวสุดที่รักกำลังถูกจระเข้ตัวใหญ่ลากออกไป
แม่ของดายังกรีดร้องขอความช่วยเหลือ หลังจาก “อีนี” พี่ชายของดายังซึ่งทำงานอยู่ใกล้ๆ รีบวิ่งไปที่เกิดเหตุพร้อมกับเพื่อนๆ ของเขา และเริ่มค้นหาจระเข้ โดยครั้งนี้ชาวบ้าน “Rumah Bayang” ก็เข้าร่วมการค้นหาครั้งนี้ โชคไม่ดีที่ร่างของดายังถูกดึงลงก้นแม่น้ำ จึงเป็นเรื่องยากที่จะค้นหา พวกเขาใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมง จนในที่สุดก็พบศพของดายัง
หลังจากพบศพดายัง พวกชาวบ้านก็เริ่มตามล่าบูจังเซนัง จนในที่สุดพวกเขาก็พบจระเข้ตัวใหญ่ พวกเขาเริ่มยิงมัน แม้จะมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด แต่แทบเป็นไม่ได้ที่จะเอาชนะจระเข้ตัวนี้ แต่พวกเขาก็ไม่ล่ะความพยายาม พวกเขาทั้งยิง และแทงด้วยหอก
จนในที่สุดบูจังเซนังก็เริ่มหมดแรง มันจึงอ้าปากกว้างเพื่อปล่อยเสียงคำราม พวกพี่ชายของดายังเห็นโอกาสจึงได้ปล่อยห่ากระสุนเข้าปากของบูจังเซนัง จนในที่สุดมันก็ตาย และมีการบันทึกไว้ว่า 12 พฤษภาคม 1992 เป็นวันที่สามารถฆ่าบูจังเซนังสำเร็จ