จนในวันนี้! ในที่สุดชิมาโน่ก็เปิดตัว Vanquish รุ่นใหม่มาซะที และค่าตัวของรอกรุ่นนี้จะอยู่ประมาณ 68,000 เยน หรือประมาณ 18,000 บาท และจะวางขายในญีปุ่นเดือนมีนาคมปี 2023 … เดี๋ยวมาดูกันว่ารุ่นนี้มีอะไรดี?
มากกว่า “ความเบา”
แน่นอนว่าจุดแข็งของ Vanquish คือความเบา มันเบากว่า Stella 2022 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุด 10 – 30g หรืออาจมากกว่านั้น เมื่อเทียบเบอร์ต่อเบอร์ อย่างเช่น Stella #1000 มีน้ำหนัก 165g แต่ Vanquish #1000 มีน้ำหนัก 140g
ลองมาดู Stella #3000 จะหนัก 220g ส่วน Vanquish หนักเพียง 175g เท่านั้น ซึ่งเบากว่ามากเลยทีเดียว และทางชิมาโน่เครมว่ารอกรุ่นนี้จะไม่ใช่แค่เบา แต่เมื่อใช้งานจะรู้สึกถึงความเบาอย่างแท้จริง มันจะนุ่มนวลในขณะที่แข็งแกร่ง
คุณสมบัติหลักๆ ของ Vanquish 2023 ดูเหมือนจะดึงเอาเทคโนโลยีล่าสุดที่ใช้กับ Stella มาทั้งหมด แน่นอนว่าเพื่อให้ได้รอกที่เบา จึงใช้บอดี้ที่สร้างจาก CI4+ ซึ่งถือเป็นวัสดุที่ชิมาโน่ใช้กับรอกที่ต้องการความเบาพิเศษมานานแล้ว
ในรูปร่างผมว่ามันดูคล้ายกับรุ่นปี 2019 พอสมควร รอยบากสปูนก็เป็นแนวตั้งเหมือนกัน และสปูนก็เป็นสีเงินและมีสีดำอยู่นิดหน่อย เรื่องนี้อาจถูกใจคนที่ชอบรอกโทนสว่าง แต่ผมชอบสีดำมากกว่า หุๆ
ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ Vanquish 2023 มีระบบ Magnum Light Rotor ติดตั้งมาด้วย และด้วยสิ่งนี้เลยทำให้รอกมีแรงเฉือยต่ำกว่า Stella 2022 ถึง 28% มันจึงเป็นรอกที่ใช้แรงเพียงเล็กน้อยเพื่อเริ่มหมุนและสามารถหยุดมันได้ด้วยแรงนิดเดียวเช่นกัน
และแน่นอนว่าใน Vanquish 2023 มีสิ่งที่เรียกว่า Super Slow Oscillation ซึ่งเป็นความเร็วหลอดเก็บสายเคลื่อนที่ขึ้นและลง หรือก็คือ “ความเร็วขึ้นลงแนวตั้ง” ซึ่งสิ่งนี้สำคัญต่อรอกสปินนี่ง และมันมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับระบบ Infinity Loop จึงทำให้รุ่นใหม่จึงเก็บสายได้ดีและนุ่มนวลกว่ารุ่นปี 2019 อย่างเห็นได้ชัดเจน
สุดท้ายคงต้องขอเวลาตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ของ Vanquish 2023 อีกที เพื่อให้สามารถสรุปความแตกต่าง และเพื่อให้รู้ว่ามันจะดีกว่ารุ่นเก่าหรือไม่ เพราะมันไม่เสมอไปที่รอกรุ่นใหม่จะดีกว่ารุ่นเก่า … รอติดตามกันต่อไป