ในวันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม คณะกรรมาธิการชายฝั่งแคลิฟอร์เนียจะลงคะแนนเสียงในข้อเสนอเพื่อกำจัดสัตว์ฟันแทะที่รุกรานในเกาะต่างๆ ซึ่งตั้งอยู่นอกชายฝั่งซานฟรานซิสโก ด้วยวิธีทิ้งเหยื่อพิษจำนวน 3,000 ปอนด์จากเฮลิคอปเตอร์ หากแผนนี้ได้รับการอนุมัติ เจ้าหน้าที่ก็สามารถดำเนินการได้ภายในฤดูใบไม้ร่วงปี 2023
เรื่องนี้ถกเถียงกันมานานหลายปีว่าจะจัดการกับหนูบนหมู่เกาะฟารัลลอนได้อย่างไร ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จาก FWS ได้พัฒนาแผนการใช้ยาพิษเพื่อฆ่าพวกมันมาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 2000 โดยกล่าวว่าหนูที่มีประชากรมากถึง 60,000 ตัว ในฤดูใบไม้ร่วง เป็นภัยคุกคามต่อนก แมลง และสัตว์เลื้อยคลานเฉพาะถิ่น
หน่วยงานที่รับผิดชอบอธิบายว่า การใช้พิษเพื่อฆ่าหนูเป็นกลยุทธ์เดียวที่เป็นไปได้ในการกำจัดหนูให้หมดสิ้น ซึ่งพวกมันผสมพันธุ์และขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วจนถึงจุดที่น่ากลัว
แต่นักวิจารณ์กล่าวว่าการฉีดพ่นยาฆ่าหนู ซึ่งจะเป็นพิษต่อนกและสัตว์อื่นๆ ด้วย มันมีความเสี่ยงมากเกินไป พวกเขากำลังสงสัยว่า “การทำลายเกาะด้วยยาพิษจะฆ่าทุกสิ่ง” ต่อมาในปี 2019 ทาง FWS ก็เสนอให้ยกเลิกแผนนี้ไป
และข้อเสนอล่าสุดที่เพิ่งยกขึ้นมา ระบุว่าเจ้าหน้าที่ FWS จะเริ่มด้วยการ “กลั่นแกล้ง” นกทะเลเพื่อขับไล่พวกมันออกจากเกาะก่อนที่จะใช้ยาฆ่าหนู โดยใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การใช้ “เลเซอร์ ไฟสปอร์ตไลท์ ดอกไม้ไฟ ไบโอนิค ปืนลม หุ่นจำลอง และว่าว” ส่วนนกเค้าแมวที่ขุดโพรงและนกแร็พเตอร์ตัวอื่นๆ ที่อาจกินหนูที่ติดพิษจนตัวมันเองจะถูกยาพิษไปด้วย จะถูกรวบรวมและส่งออกจากเกาะ
ข้อเสนอนี้ยืนยันว่า แม้ความเสี่ยงต่อซาลาแมนเดอร์ต้นไม้บนหมู่เกาะฟารัลลอนจะต่ำ แต่เพื่อเป็นมาตรการในการปกป้องสายพันธุ์ เจ้าหน้าที่จะรวบรวมพวกมันประมาณ 40 ตัวและเก็บพวกมันไว้ในที่ปลอดภัย จนกว่าความเสี่ยงในการสัมผัสกับยาฆ่าหนูจะหายไป
เมื่อทุกอย่างพร้อม เจ้าหน้าที่จะใช้เฮลิคอปเตอร์พ่นเหยื่อที่มีสาร brodifacoum ให้ทั่วเกาะ จากนั้นเจ้าหน้าที่สัตว์ป่าจะเดินไปรอบๆ เก็บซากหนูและเม็ดที่ไม่ได้กิน เพื่อไม่ให้สัตว์อื่นๆ กินเข้าไป จากนั้นก็รออีกไม่กี่เดือนเพื่อให้ brodifacoum สลายไปเอง
เจ้าหน้าที่สัตว์ป่าและนักนิเวศวิทยาที่ทำการวิจัยบนเกาะกล่าวว่า พวกเขาจำเป็นต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อจัดการกับการระบาดของหนู ซึ่งมาพร้อมกับเรือโดยไม่ได้ตั้งใจในศตวรรษที่ 19 ..ปัจจุบันมีหนูสูงสุดประมาณ 500 ตัวต่อเอเคอร์
