ในอดีตมีข้อมูลระบุเอาไว้ว่า เกาะกรุยนาร์ด เคยเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยป่า แต่หลังจากนั้นมันเป็นเกาะที่ “ไม่มีต้นไม้แม้แต่ต้นเดียว” จะมีก็แค่ต้นหญ้า (ตอนนี้เริ่มมีบ้างแล้ว) และยังทำให้สัตว์เลี้ยงลูกนมรวมมนุษย์ตายไปถึง 95% ..เกิดอะไรขึ้น?
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อประมาณปี 1942 ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 หลายๆ ประเทศได้ทำการทดลองอาวุธเชื้อโรค และอังกฤษเองได้รับรายงานว่าอาจจะได้รับการโจมตีจากอาวุธเชื้อโรค (Bio Weapons) ซึ่งเป็นเชื้อโรคแอนแทรกซ์ (Anthrax)
อังกฤษจึงซื้อเกาะกรุยนาร์ด (Gruinard Island) จากคนสกอตแลนด์ โดยเกาะตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือและห่างจากชายฝั่งสกอตแลนด์เพียง 1 กิโลเมตร
งานนี้ก็เพื่อทำการทดลองอาวุธเชื้อโรคอย่างลับๆ โดยสายพันธุ์แอนแทรกซ์ที่เลือกใช้เป็นสายพันธุ์ที่มีความรุนแรงสูงเรียกว่า “Vollum 14578” มันได้รับชื่อตาม RL Vollum ศาสตราจารย์ด้านแบคทีเรียวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดซึ่งเป็นผู้ทำมันขึ้นมา
การทดลองอาวุธ ทำให้เกาะติดเชื้อ
หลังจากการทดลองได้ไม่นาน นักวิทยาศาสตร์ได้สร้างระเบิดที่เต็มไปด้วยสปอร์ของโรคแอนแทรกซ์ จากนั้นได้นำเอาแกะ 80 ตัวมาไว้ที่เกาะ แล้วพวกเขาได้เริ่มจุดระเบิดใกล้กับจุดที่แกะถูกล่ามเอาไว้ ..หนังจากนั้นแกะเริ่มติดเชื้อแอนแทรกซ์และตายภายในไม่กี่วัน (ภาพบางส่วนของการทดลองได้ถูกบันทึกไว้ในฟิล์มขนาด 16 มม. ซึ่งตอนนี้ไม่ถือความลับอีกต่อไป)
หลังจากการทดลองครั้งนี้ เชื้อโรคก็เริ่มแพร่ระบาดจนสร้างหายนะไปทั่วเกาะ ว่ากับว่ามันทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะต้องตายลงถึง 95% จนคนที่เหลือทั้งหมดต้องย้ายออกจากเกาะ และติดประกาศเป็นเกาะอันตราย
จนถึงปี 1981 ซึ่งก็นานมากกว่า 40 ปี ที่เกาะแห่งนี้ไม่มีผู้อาศัย ไม่ว่าจะมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม รัฐบาลได้เริ่มโครงการทำความสะอาดเกาะพื้นที่เกาะทั้งหมด เพื่อกำจัดเชื้อโรคให้หมดไป และเปิดทางให้ประชาชนเข้ามาอาศัยได้
จนในปี 1990 จึงได้มีการประกาศว่าเกาะแห่งนี้ปลอดภัย แต่ก็ยังไม่มีใครกล้ากลับไปอยู่บนเกาะนรกแห่งนี้อยู่ดี จนในปี 2010 เกาะแห่งนี้จึงถูกซื้อคืนโดยทายาทของเจ้าของเดิม ในราคาขายเดิมที่ขายไปคือ 500 ปอนด์สเตอลิงก์ ..และนี่คือเรื่องราวของเกาะกรุยนาร์ด