ถ้าพูดถึง Evergreen จะต้องนึกถึงอุปกรณ์ตกปลาที่ ไฮโซโก้หรู ซึ่งมันเป็นแบบนั้นจริง เพราะ Evergreen ทำของถูกไม่เป็น (จริงๆ นะ) และเหยื่อที่ผมเอามาให้ชมกันเป็น Combat Crank เหยื่อขายดีที่ใช้ตกปลาชะโดจิบได้ดีอีกด้วย โดยเจ้า Combat Crank จะมีหลักการทำงานคล้ายๆ กับ Risto เลย เพียงแต่วัสดุดีกว่ามาก จึงไม่แตกง่ายๆ หากโดนชะโดกัดเต็มๆ ก็ไปก็ไปได้เหมือนกัน แน่นอนว่าราคาของ Combat Crank แพงกว่ามากอยู่แล้ว เพราะ Evergreen ทำของถูกไม่เป็น (จริงๆ นะ)
ตัวอย่างข้อมูลเหยื่อ
Model | Body Length | Weight | Type | Running Depth |
120 | 58mm | 12.6g | Shallow runner. Floating/diving. Rattling | 3-4 ft |
250 | 58mm | 13.7g | Medium runner. Floating/diving. Rattling | 5-8 ft |
320 | 68mm | 16.5g | Deep runner. Floating/diving. Rattling | 7-10 ft |
480 | 75mm | 26g | Extra deep runner. Floating/diving. Rattling | 13-17 ft |
จากตารางจะเห็นว่า Combat Crank จะมี 120, 250, 320 และ 480 และนอกจากนี้ยังมี 60 ที่เป็นแบบ Floating แอคชั่นก็ส่ายสุดๆ ถึงแม้รูปร่างจะอ้วนๆ ก็ตาม และยังมีรุ่นใหม่ๆ อย่าง 400, 180 แล้วก็ SR อีก (เยอะไม่พูดถึงหลอก) เรื่องราคาแพงหลายห่วง แต่คุณภาพก็ดีเช่นกัน แน่นอนว่าขนาดที่เหมาะสำหรับปลาจิบ (ชะโด) ในบ้านเรา จะเป็น 250 กับ 320 ครับ แต่โดยแต่ที่ตัวผมชอบคือ 320 เพราะน้ำหนักดีมาก ตีไกล แม่นสุดๆ และยังไปได้ถึงความลึกที่เหมาะสมคือ 2 – 3 เมตร ส่วน 480 ดูจะลึกไปหน่อยรอกอาจจะพังได้ (ดูว่าใช้รอกที่เหมาะหรือเปล่าด้วย)
ความเร็วในการดำน้ำเรียกว่าเป็นหัวใจสำคัญของเหยื่อปลอมประเภทนี้เลย ซึ่ง 320 ถือว่าดีหากเอาไปตีปลาจิบแบบจริงๆ จังๆ ตีไกล และดำเร็วมาก ถึงแม้จะไม่เท่า 480 ก็ตาม แต่หากเอาไปเล่นปลาช่อน กระสูบ หรือปลาอื่นๆ น้ำไม่ลึกมาก 120 ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ
วัสดุที่ทำเหยื่อเป็นพลาสติกแข็ง ภายในมีลูกปืนที่เอาไว้สร้างเสียง แรงสั่นสะเทือน และยังทำให้ระยะตีเหยื่อเพิ่มขึ้นด้วย ลิ้นของเหยื่อถือว่าคุณภาพสูงมาก (Risto เห็นน้าบางคนลากกลับมาเหยื่อแต่ลิ้นก็มี) ส่วนเรื่องสีบอกตรงๆ ว่าต้องทำใจครับสีถลอกง่ายแน่นอน
ในการใช้งาน Combat Crank (จะพูดเฉพาะกรณีตีจิบนะครับ) เมื่อเป็นเหยื่อที่ใช้เพื่อตีปลาจิบ (จริงๆ ก็ตกแบบอื่นได้นะ)ตัวเหยื่อจะต้องถูกตีออกไปในที่ๆ มีโอกาสที่ปลาจะกัดสูงมาก อย่างวงน้ำที่ปลาขึ้นมาจิบ หรือตามตอไม้ใต้น้ำ เรื่องตีสุ่มมั่วไม่ใช้ทางเลือกที่ดีสำหรับเหยื่อประเภทนี้แน่นอน เพราะเมื่อมันลงน้ำไปแล้วมันหนักมากกกก อย่างน้อยก็เพื่อถนอมรอกเอาไว้ หากเป็นตกที่เขื่อน ปลาชะโด, ปลากราย จะเป็นเป้าหมายอันดันแรกๆ ของ Combat Crank ..หากถามว่าทำไมไม่มีปลาช่อน..? เพราะปลาช่อนโอกาสเจอน้อยในน้ำลึก
การใช้งานของเหยื่อแบบนี้จริงๆ ความสำคัญทั้งหมดอยู่ที่ สายตาของนักตกปลา ความเร็ว และความแม่นยำที่จะตีเหยื่อออกไปให้ตรงกับเป้าหมาย สรุปคือแบบนี้ต้องใช้ทักษะในการตีเหยื่อที่สูง เพราะโอกาสที่จะเห็นปลาขึ้นจิบน้ำน้อย บางทีจิบ 1 ครั้ง อาจจะต้องรออีกหลายนาทีหรือ อาจจะไปขึ้นไกลออกไปเลย หากโอกาสที่มีเพียงน้อยนิดเสียไปเพราะการตีเหยื่อไม่เก่งพอ ต่อให้เหยื่อดียังไม่ก็เปล่าประโยชน์ และเมื่อเหยื่อตกน้ำก็เก็บสายอย่างเดียว ช้าหรือเร็วต้องกะเอาเอง
ตกปลา ให้สนุกนะครับ
อ่านเรื่องอื่น เรื่องที่คุณอาจไม่รู้ Risto 9 VS Combat Crank 480
[rwp_box id=”0″]