ประวัติ ‘ซีลาแคนท์’ ปลาที่กลับมาจากการสูญพันธุ์ รสชาติเป็นเช่นไร? เก่าแก่ที่สุดหรือไม่?

สมัยเรียนประถม ผมชอบเข้าห้องสมุดเพื่อไปอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับสัตว์ ยูเอฟโอ แล้วก็ไดโนเสาร์ และผมก็ชอบปลาซีลาแคนท์มาก แล้วก็รู้ว่ามันเป็นหนึ่งในสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปจากโลกนับล้านปี แต่ภายหลังก็ได้รู้ว่าความจริงมันไม่เป็นเช่นนั้นเลย เพราะเมื่อปี ค.ศ. 1938 ได้มีการค้นพบว่าปลาโบราณที่ใครๆ ก็คิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้วแน่ๆ กลับยังมีชีวิตอยู่ แถมยังถูกคนพื้นเมืองจับกินอีกด้วย และการค้นพบตัวเป็นๆ ของปลาพวกนี้ ก็ทำให้ผมคิดว่า พวกนักวิจัยก็เก่งนะ ที่เห็นเศษฟอสซิลของปลา แล้วอนุมานรูปร่างของปลาได้เกือบจะตรง ...เดี๋ยวมาฟังเรื่องราวของปลาชนิดนี้กัน

ประวัติการพบ ซีลาแคนท์

Advertisements

ซีลาแคนท์ (coelacanth) หมายถึงกลุ่มของปลาที่มีครีบเป็นพู่ขนาดใหญ่ (large lobe-finned fishes) พวกมันอาจมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับสัตว์จำพวกเตตระพอด (Tetrapods) มันเป็นปลาที่มนุษย์อย่างเราเคยคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อ 66 ล้านปีก่อน จนกระทั่งถูกจับตัวได้แบบเป็นๆ ในทะเลแถบแอฟริกาใต้ เมื่อปี ค.ศ. 1938

ทั้งนี้ปลาซีลาแคนท์ ที่จับได้ในปี ค.ศ. 1938 ถูกตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Latimeria chalumnae (ลาติเมเรีย ชามัมแน) มันเป็นปลาที่พบในทะเลแถบ คอโมโรส, เคนยา, แทนซาเนีย, โมซัมบิก, มาดากัสการ์ เป็นต้น

จนในปี ค.ศ. 1999 นักวิจัยก็พบเข้ากับปลาซีลาแคนท์ชนิดที่สอง บริเวณเกาะซูลาเวซี ประเทศอินโดนีเซีย มันถูกเรียกว่า Latimeria menadoensis (ลาติเมเรีย เมนาโดเอนซิส) และจากการค้นพบนี้ ทำให้นักวิจัยทราบว่า ปลาซีลาแคนท์ไม่มีปอดและมีโครงสร้างที่ไม่เกี่ยวข้องกับเตตราพอดแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้ตำราเก่าที่บอกว่ามันเป็นปลาที่มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับสัตว์จำพวกเตตระพอตจึงมีน้ำหนักที่น้อยลง

ในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2007 ก็มีการจับปลาซีลาแคนท์ได้อีกตัวในประเทศอินโดนีเซีย มันเป็นปลาที่ถูกจับได้โดยชาวประมงในจังหวัดสุลาเวสี เป็นปลาที่ยาว 122 เซนติเมตร หนักเกือบ 50 กิโลกรัม มันถูกขังไว้สระที่อยู่ในทะเล แต่ก็ตายลงภายในเวลาไม่ถึงวัน

ในวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2009 ปลาซีลาแคนท์อีกตัวถูกจับได้โดยชาวประมงในจังหวัดสุลาเวสี มีความยาว 114 เซนติเมตร จนวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 ปลาซีลาแคนท์อีก 5 ตัว ก็ถูกจับได้ในบริเวณเดียวกัน…และนี่ก็เป็นประวัติบางส่วนของปลาซีลาแคนท์

ทำไมซีลาแคนท์จึงยังไม่สูญพันธุ์?

เนื่องจากซีลาแคนท์เป็นปลาขนาดใหญ่เพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถอาศัยอยู่ในทะเลลึกแถบนั้น ดังนั้นมันจึงถูกจัดเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร และในสภาพแวดล้อมอย่างนั้นทำให้มันไม่มีผู้ล่า

นอกจากนี้สภาพแวดล้อมใต้ทะเลลึก ยังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงบนผิวโลกค่อนข้างน้อย ทำให้พื้นที่อยู่อาศัยของพวกมันแทบไม่ต่างไปจากเมื่อ 400 ล้านปีก่อนเลย และดูเหมือนมันจะเป็นปลาที่ไม่อร่อยเอามากๆ อีกด้วย มันจึงไม่ค่อยจะถูกจับกิน แต่เพราะมันถูกค้นพบโดยนักวิจัย ทุกอย่างมันก็เริ่มเปลี่ยนไป

400 ล้านปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ซีลาแคนท์ดำรงชีวิตอยู่ได้ในธรรมชาติ แต่เมื่อมันถูกค้นพบว่ายังคงมีอยู่ มนุษย์ก็แห่แหนกันไปค้นคว้าวิจัย พากันไปอนุรักษ์สายพันธุ์ จากนั้นก็ออกก็กฎหมายห้ามจับ แต่ทว่าสิ่งที่พวกเรากำลังทำกลับกลายเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า ในโลกนี้ยังมีปลาโบราณหายาก ที่มีคุณค่าในการสะสมเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชนิด

ดังนั้นพวกมันจึงตกเป็นเป้าหมายในการล่าเพื่อการค้าทำกำไร แน่นอนว่าพวกลักลอบล่าสัตว์สงวนนั้นมีอยู่ทุกมุมโลก ยิ่งหายาก ยิ่งถูกห้ามก็ยิ่งแพง ปลาสายพันธุ์โบราณ กลายมาเป็นสัตว์สต๊าฟของเศรษฐี เกล็ดของมันถูกนำมาทำเครื่องประดับ อีกทั้งยังเจอเข้ากับการฆ่าโดยไม่ตั้งใจจากการใช้อวนหรือเครื่องมือจับสัตว์น้ำ

เมื่อหนังสืออนุรักษ์แปรเปลี่ยนเป็นแคตาล็อกสะสมสัตว์หายาก ทำให้ในปัจจุบันปลาซีลาแคนท์ลดจำนวนลงเหลือน้อยกว่า 1,000 ตัว และถึงแม้ปลาชนิดนี้จะสามารถอาศัยอยู่ที่ความลึกกว่า 700 เมตร มันก็ยังถูกมนุษย์จับได้อยู่ดี

นอกจากนี้มันยังเป็นปลาที่ออกลูกเป็นตัว จะให้ลูก 3 – 30 ตัวในทุกๆ 5 ปี และด้วยอายุขัยที่ประมาณ 40 – 100 ปีของมัน แม่ปลาแต่ละตัวจะให้กำเนิดลูกได้ไม่กี่ครั้ง แถมจากผลการวิจัยล่าสุดยังชี้ว่า ปลาชนิดนี้จะโตเต็มวัยเมื่ออายุถึง 55 ปี จากเดิมที่เคยคิดว่า 20 ปี พวกมันจึงอาจตายก่อนที่จะได้สืบพันธุ์ ด้วยเหตุนี้ประชากรของพวกมันจึงเพิ่มขึ้นได้ช้ามาก และหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกมันอาจจะสูญพันธุ์ไปจริงๆ

ปลาซีลาแคนท์ รสชาติเป็นเช่นไร?

คงต้องเล่าย้อนกลับไปก่อนที่นักวิจัยจะรู้ว่าปลาซีลาแคนท์ยังมีชีวิตอยู่ ในตอนนั้นชาวประมงท้องถิ่นเรียกมันว่า Gombessa (กอมเบสซา) ซึ่งแปลว่าไร้ค่าในภาษาพื้นเมือง ปลาชนิดนี้แม้แต่จะเอามากินก็ยังไม่ได้ และอาจเป็นเพราะเหตุนี้ เลยทำให้มันยังมีเหลืออยู่จนถึงทุกวันนี้

หากถามว่ารสชาติของปลาซีลาแคนท์เป็นเช่นไร? คนกลุ่มแรกๆ ที่พบปลาซีลาแคนท์ในศตวรรษที่ 20 ที่เคยกินปลาชนิดนี้ อธิบายว่ามันมีกลิ่นไม่ดี มีเมือกปกคลุม ทุกอย่างที่มันมีไม่เหมาะกับการทำอาหาร ลักษณะเด่นที่สุดของปลาคือเนื้อที่เต็มไปด้วยน้ำมัน

ความจริงยังไม่มีคำอธิบายที่เหมาะสมเกี่ยวกับรสชาติของปลาซีลาแคนท์ แต่มันเป็นการรวมตัวของขี้ผึ้งเอสเทอร์ (waxes esters) สิ่งนี้เป็นยาระบายที่ดี และมนุษย์อย่างเรายังไม่สามารถย่อยขี้ผึ้งเอสเทอร์ส่วนใหญ่ได้ หากคุณกินปลาซีลีแคนท์เข้าไป มันจะมีกลิ่นเหม็นรสชาติแปลกๆ และอาจทำให้คุณต้องวิ่งเข้าห้องน้ำ

และแม้มันจะไม่อร่อย แต่ปลาซีลีแคนท์ที่จับได้นอกชายฝั่งอินโดนีเซีย ก็ถูกขายให้กับร้านอาหารท้องถิ่น แต่มันไม่ได้ถูกเอามากิน เจ้าของร้านเลือกที่จะเอามันมาโชว์ และถึงจับได้เป็นๆ และดูแลอย่างดี มันก็จะตายภายในเวลาไม่ถึงวัน เนื่องจากแรงดันที่เปลี่ยนแปลง

ปลาซีลาแคนท์คือสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกหรือไม่?

Advertisements

หลายคนอาจคิดว่า “ปลาซีลาแคนท์” คือสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่ที่สุด นั้นเพราะมันอยู่มาตั้งแต่ 400 ล้านปีก่อน อยู่มาก่อนไดโนเสาร์ซะอีก แต่ทาง Guinness World Records ได้ระบุว่า “สิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดบนโลก” คือ ไทรออปส์ แคนซิริฟอร์มิส (Triops cancriformis) หรือที่เรียก กุ้งลูกอ๊อด มันมีอายุประมาณ 250 – 201 ล้านปีก่อน

Triops cancriformis

แต่นักวิจัยด้าน DNA เผยว่าไทรออปส์ชนิดนี้ต่างจากไทรออปส์ยุคโบราณ แม้หน้าตาจะคล้ายกัน แต่มันก็มีอายุไม่เกิน 25 ล้านปี ..ด้วยเหตุนี้ตำแหน่งสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดของมันจึงไม่มั่นคงนัก

หากกลับมามองที่ปลาซีลาแคนท์ แม้มันจะอยู่มานาน โดยหลักฐานจากฟอสซิล ทำให้พวกเราทราบว่าปลาชนิดนี้อยู่มาอย่างน้อย 400 ล้านปี ซึ่งมากกว่า ไทรออปส์ ถึงสองเท่า แต่จากงานวิจัยล่าสุดระบุว่า “ปลาซีลาแคนท์” ที่ว่ายอยู่ในมหาสมุทรตอนนี้ ไม่เหมือนกับตัวที่กลายเป็นซากดึกดำบรรพ์ และจริงๆ มันเป็นชนิดที่เพิ่งเกิดมาในช่วง 20 – 30 ล้านปีก่อน

ด้วยเหตุนี้ระหว่างไทรออปส์ กับ ปลาซีลาแคนท์ จึงคู่คี่กันอยู่ แต่ยังมีสัตว์อีกตัวที่อยู่มานานไม่แพ้กัน มันคือ “แมงดาทะเล” เพราะสัตว์ชนิดนี้ถือเป็นสัตว์โบราณอย่างแท้จริง มันมีร่างกายและเลือดที่พิเศษ และยังมีนับอายุย้อนกลับไปได้ประมาณ 480 ล้านปี …แต่! มันก็เหมือน ไทรออปส์ กับ ซีลาแคนท์ เพราะพวกมันเองก็วิวัฒนาการ และนักวิจัยก็รู้ว่าแมงดาทะเลเอเซียซึ่งเก่าแก่ที่สุด ได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณ 25 ล้านปีก่อน

แล้วก็อย่างที่เห็นจาก 3 สายพันธุ์นี้ สัตว์ชนิดไหนควรได้รับตำแหน่ง “สิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่ที่สุด” หรือที่อยู่มานานที่สุด ก็ถือว่าตัดสินยาก หากมองไปถึงต้นตระกูลของพวกมัน คงต้องยกให้ “แมงดาทะเล” แต่หากเป็นรุ่นล่าสุดที่อยู่ตอนนี้ อาจเป็น “ซีลาแคนท์” ก็ได้ แต่หากยืดเอาตาม Guinness World Records ก็เป็น “ไทรออปส์” นั้นละ ….ส่วนใครเห็นว่าเป็นเช่นไรก็เชิญคอมเมนต์กันได้

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements