ในการตรวจสอบขยะ พบลูกเต่ากระและเต่าตนุ อายุประมาณ 1 เดือน ติดมากับขยะจำนวนมาก จึงเร่งค้นหาโดยรอบพื้นที่เพื่อช่วยชีวิตเต่าที่อาจมีหลงเหลืออีก ผลการตรวจสอบเบื้องต้นสามารถช่วยชีวิตเต่าได้ประมาณ 20 ตัว
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับสัตวแพทย์ประจำศูนย์ ศอพต.ทร. พบว่าเป็น “ลูกเต่ากระ“ (Eretmochelys imbricata) จำนวน 11 ตัว มีชีวิต และ “ลูกเต่าตนุ” (Chelonia mydas) จำนวน 1 ตัว ขนาดกระดองเฉลี่ย (กว้าง x ยาว) = 4 x 5 cm. น้ำหนัก 10 – 27 g. ไม่ทราบเพศ ..สภาพทั่วไปสามารถว่ายน้ำได้ ยกหัวหายใจเองได้ ไม่พบบาดแผลตามลำตัว มีเพรียงเกาะจำนวนเล็กน้อย
กรณีที่พบลูกเต่าทะเลติดมากับแพขยะ และพัดเข้าสู่ชายหาดจอมเทียน คาดว่าลูกเต่าถูกพัดพามาจากแหล่งวางไข่ บริเวณชายหาดของเกาะคราม หรือเกาะล้าน จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการรายงานเต่าขึ้นวางไข่เป็นประจำ
ทั้งนี้เป็นพฤติกรรมของลูกเต่าทะเล ที่เมื่อฟักออกจากไข่แล้วการดำรงชีวิตในทะเลช่วงแรกของชีวิตจะล่องลอยตามกระแสน้ำ และยังไม่สามารถดำน้ำได้ ซึ่งหลบซ่อนตามกองแพขยะ หรือพืชน้ำที่ลูกเต่าลอยไปติด
ช่วงฤดูฝน จะเป็นช่วงที่มีการวางไข่ของเต่าทะเลบริเวณอ่าวไทย โดยจะมีโอกาสพบลูกเต่าหรือเต่าทะเลแม่พันธุ์ พัดเข้าเกยหาดได้โดยเฉพาะในช่วงที่มีคลื่นลมทะเลแรงจัด ..ขอประชาสัมพันธ์ พี่น้องประชาชน ช่วยสังเกตบริเวณชายหาด หากพบเห็นแจ้ง ทช.เข้าช่วยเหลือ