เต่าชนิดที่พูดถึงคือ เต่าแม่น้ำยักษ์อเมริกาใต้ (Giant South American River Turtle)
เกิดในเขตคุ้มครองริมแม่นํ้า Purus ในอเมซอน พวกมันสามารถวางไข่ได้ครั้งละ 50 – 150 ฟอง โดยในช่วงฤดูผสมพันธุ์ เต่าพวกนี้จะมีพฤติกรรมรวมตัวกันเป็นหมื่นเป็นแสนตัว ด้วยเหตุนี้ทำให้พวกมันเสี่ยงต่อการลักลอบล่าสัตว์
นักอนุรักษ์ของสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ได้เฝ้าติดตามตัวเมียที่โตเต็มวัยและรังของพวกมันที่ Reserva Biologica do Abufari เป็นเวลาหลายเดือนก่อนมันจะฟักตัว
“ช่วงเวลาฟักไข่เป็นการรอคอยที่ดีเสมอ มันเป็นผลลัพธ์สุดท้ายของความพยายามในการอนุรักษ์ของคนจำนวนมาก” Camila Ferrara ผู้เชี่ยวชาญด้านเต่าของ WCS Brazil กล่าว เราเริ่มก่อนระยะเวลาทำรังประมาณ สามถึงสี่เดือนก่อน
การได้เห็นการกลับมาครั้งนี่ถือเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เสมอ แต่ก็ยังเป็นพยานถึงความพยายามในการอนุรักษ์เต่าที่มีชีวิตใหม่” Ferrara กล่าว
การกำเนิดครั้งนี้เป็นกลยุทธ์ของการอยู่รอดสำหรับลูกเต่าเหล่านี้ นอกจากนี้ยังเป็นเหตุการณ์ที่หายากและเกิดขึ้นไม่กี่แห่งบนโลกนี้ โดยสัตว์ที่ใช้กลยุทธ์เดียวกันที่เหมือนกันกันนี้คือเต่ามะเฟือง
“ถึงแม้จะน่าตื่นเต้นแต่โอกาสรอดมีเพียงน้อยนิด เพราะเต่าพวกนี้มีน้อยกว่า 1% ที่จะรอดจนโต และกลับมาวางไข่ได้อีกครั้ง”
ตามที่องค์กรบริหารมหาสมุทรและสภาพอากาศ (NOAA) เต่าที่ฟักตัวนั้นต้องหลบหนีสัตว์นักล่าทุกชนิด ทั้งนก ปู และ แรคคูน เพื่อลงสู่ทะเล เมื่ออยู่ในน้ำ พวกมันก็ยังโดนกินโดย ปลาและนก จากการประเมินว่ามีเต่าทะเล 1 ใน 10,000 ตัวที่รอดจนโต
“เต่าแม่น้ำยักษ์ในอเมริกาใต้ได้เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของสิ่งแวดล้อมในส่วนของห่วงโซ่อาหาร”
เต่าแม่น้ำยักษ์อเมริกาใต้เป็นหนึ่งในเต่าน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามข้อมูลของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งชาติ ตัวเมียสามารถหนักได้ถึง 90 กก. โดยมีกระดองที่ยาวกว่า 80 ซม. เพศผู้มีขนาดเล็กกว่าโดยมีเกระดองยาว 50 ซม. ลูกเต่ามีขนาด 5 ซม.
“สำหรับเต่าแม่น้ำยักษ์ในอเมริกาใต้การเกิดคือการระเบิดเวลาของชีวิต แต่ก็เป็นช่วงที่เปราะบางที่สุดด้วย” เฟอร์รารากล่าว “ ในบางพื้นที่เต่าใช้การคลอดลูกจำนวนมากเพื่อเพิ่มอัตราการรอดชีวิต การเกิดเกิดช่วยให้พวกเต่าเดินทางร่วมกันไปยังแม่น้ำเพื่อเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่”
