10. เบนเบอร์รีขาว (White Baneberry)
ด้วยรูปร่างของผลที่มีลักษณะกลม มีสีขาว และมีจุดดำบริเวณที่เคยเป็นยอดของเกสรตัวเมียมาก่อน ทำให้มันมีอีกชื่อหนึ่งว่า “ดวงตาตุ๊กตา” (doll’s-eye) พิษที่อยู่ในผลของพืชชนิดนี้จะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจหยุดการทำงาน
มันจึงเป็นอันตรายร้ายแรงถึงตายได้หากรับประทานเข้าไปโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แต่ไม่มีผลกับนกซึ่งเป็นตัวช่วยแพร่กระจายเมล็ดให้กับมัน
9. ยูโฟเบีย โอเบซ่า (Baseball Plant)
เป็นพืชอวบน้ำจากแอฟริกาใต้ มีลักษณะอ้วนกลมเป็นสันๆ ชาวต่างชาติเรียกกันอย่างแพร่หลายว่า Baseball Plant เนื่องจากรูปทรงที่คล้ายกับลูกเบสบอลนั่นเอง สามารถโตได้ถึง 20 เซนติเมตร และทนความร้อนได้ดี
ในธรรมชาติถือเป็นพืชที่ใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากน้ำมือมนุษย์บวกกับการเติบโตที่ช้า อย่างไรก็ตามมีการปลูกกันอย่างแพร่หลายโดยมนุษย์เช่นกัน
8. เห็ดฟันเลือด (Hydnellum Peckii)
Hydnellum Peckii เป็นเชื้อราชนิดพิเศษที่ผลิตเลือดหรือน้ำสีแดงแปลกๆ ออกมา พืชชนิดนี้ได้ฉายาว่า ‘’เชื้อราเลือด’’ จากสีของมัน พืชชนิดนี้พบได้ในอเมริกาเหนือและยุโรป และในทางเทคนิคแล้วเห็ดชนิดนี้ไม่ใช่เห็ดพิษ จึงกินได้ แต่ไม่อร่อย
Advertisements
เห็ดฟันเลือด มักพบตามพื้น โคลนต้นสน เห็ดจะเปลี่ยนพวกธาตุอาหารและอะมิโนเอสิก จากดินแล้วตรึงพวกคาร์บอนไว้กับรากพืช เส้นใยใต้ดินของเห็ดจะเจริญเข้าไปในเนื้อเยื่อรอบๆรากพืช การอาศัยอยู่ร่วมกับรากพืชนี้สร้างประโยชน์ให้แก่รากพืชด้วยเอ็นไซม์จากเห็ดจะเปลี่ยนสารประกอบอินทรีย์ให้ง่ายต่อการดูดซึมของพืช
เห็ดฟันเลือด สามารถใช้สกัดสาร Atromentin ซึ่งมีประสิทธิภาพสารกันเลือดแข็ง ไม่ให้เกิดลิ่มเลือด สำหรับรักษาคนที่มีโรคลิ่มเลือดอุดดตันเส้นโลหิตในสมอง ทำให้สมองขาอออกซิเจน จนเป็นอัมพาต Atromentin ยังมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย ยับยั้งเอนไซม์ สิ่งจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์ของกรดไขมันในแบคทีเรียอีกด้วย
7. เวลวิชเซีย (Welwitschia Mirabilis)
Welwitschia Mirabilis เป็นพืชชนิดพิเศษที่พบได้ในทะเลทรายของนามิเบีย พืชชนิดนี้มีอายุยืนยาวมากๆ มันมีอายุได้ถึง 1500 ปี สามารถมีชีวิตรอดได้ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายสุดๆ
เวลวิชเซียจะเติบโตอย่างช้าๆ แต่ก็โตอย่างต่อเนื่อง และยังแยกระหว่างต้นที่เป็นตัวผู้และตัวเมียอย่างชัดเจน ..อ่านใบไม้ที่ไม่มีวันตาย
6. ไลทอป (Lithops)
ได้ฉายาอีกอย่างว่าหินที่มีชีวิต พืชชนิดนี้รูปลักษณ์เหมือนกับก้อนหิน มันมีใบอ้วนๆ ที่แยกออกมาเป็นสองแฉก เติบโตได้อย่างรวดเร็วในช่วงฤดูฝน พบได้มากในแอฟริกาใต้ พืชชนิดนี้ยังสามารถมีอายุยืนยาวถึง 50 ปี
Advertisements
ไลทอป (Lithops) เป็นพืชชนิดหนึ่งในกลุ่มของพืชอวบน้ำ ชื่อนี้มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก คือ คำว่า “Lithos” ซึ่งแปลว่า “หิน” และ “-ops” ซึ่งแปลว่า “เหมือน” ดังนั้นคำว่า “Lithops” จึงแปลได้ว่า “เหมือนหิน” ซึ่งตรงกับลักษณะของพืชชนิดนี้ เพราะพืชชนิดนี้มีลักษณะเด่นที่แตกต่างจากพืชชนิดอื่นอย่างชัดเจน กล่าวคือทั้งรูปร่าง ลักษณะ สีสัน คล้ายคลึงกับ ก้อนหิน ก้อนกรวด จนมีผู้เรียก Lithops ว่า “หินมีชีวิต” เป็นพืชขนาดเล็ก ขึ้นอยู่ในพื้นที่แห้งแล้ง และอากาศเย็นในเวลากลางคืน ส่วนใหญ่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศนามิเบีย และประเทศแถบแอฟริกาใต้
5. ต้นไมยาราบ (Mimosa Pudica)
Mimosa Pudica หรือชื่อไทยว่า ต้นไมยาราบ พบในเอเซียและอเมริกาใต้ มันยังได้ฉายาอีกว่าพืชขี้อาย โดยใบมันจะหุบอย่างรวดเร็วเมื่อมีอะไรมาสัมผัสใบอย่างมัน ระบบประสาทของมันนั้นดีที่สุดในบรรดาพืชหลายชนิด
ไมยราบเป็นพืชที่มีลำต้นผอมเรียว แตกกิ่งก้านสาขามาก มีหนามตามลำต้นประปรายจนถึงหนาแน่น ลำต้นอาจยาวได้ถึง 1.5 เมตร (5 ฟุต) ลำต้นของไมยราบจะตั้งตรงเมื่อยังเล็ก แต่จะเริ่มเลื้อย และชอนไช ไปตามพื้นผิวต่าง ๆ โดยจะเกาะอยู่ตามที่ต่ำ ตามพื้น และเกาะอยู่อย่างหลวม ๆ ใบของต้นไมยราบเป็นใบประกอบขึ้นอยู่ตามต้น
4. ดอกไม้ศพ (Corpse Flower)
พืชชนิดนี้หรืออีกชื่อคือดอกไม้ศพ เป็นดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนโลก ในช่วงบานเต็มทีมันสามารถมีความสูงถึง 8.2 ฟุต โดยมันจะออกดอก 40 ปีครั้งเท่านั้น และก็สมกับชื่อของมัน เพราะเมื่อมันออกดอกจะส่งกลิ่นเหม็นจนได้ชื่อว่าเหม็ดที่สุดในโลกด้วย
3. Rafflesia Arnoldii
หนึ่งในดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดบนโลก และยังมีกลิ่นไม่ต่างกับดอกไม้ศพในข้างต้น ดอกไม้ชนิดนี้พบได้ในป่าฝนของสุมาตรา Rafflesia สามารถโตได้มากถึง 3 ฟุต เหมือนกับดอกไม้ศพมันสร้างกลิ่นเหม็นซึ่งดึงดูดแมลงมา Rafflesia ยังมีสองเพศในตัว
Advertisements
2. กาบหอยแครง (Venus Flytrap)
ชื่อไทยคือ “กาบหอยแครง (Venus flytrap)” เป็นต้นไม้ที่กินแมลงหรือสัตว์ขนาดเล็กเป็นอาหาร เมื่อมีแมลงหรือสัตว์ผ่านมามันจะงับซึ่งจะใช้เวลาในการย่อยอาหารนานถึง 10 วัน
กาบหอยแครง เป็นพืชกินสัตว์ที่ดักจับและย่อยกินเหยื่อที่จับได้ซึ่งส่วนมากเป็นแมลงและแมง กาบหอยแครงมีโครงสร้างกับดักคล้ายคล้ายบานพับแบ่งออกเป็น 2 กลีบ อยู่ที่ปลายใบของแต่ละใบ และมีขนกระตุ้นบางๆบนพื้นผิวด้านในกับดัก เมื่อแมลงมาสัมผัสขนกระตุ้นสองครั้ง กับดักจะงับเข้าหากัน การที่ต้องการสิ่งกระตุ้นที่ซับซ้อนนี้ก็เพื่อป้องกันการสูญเสียพลังงานไปกับการดักจับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่อาหาร
1. หม้อข้าวแกงลิง (Pitcher Plant)
หม้อข้าวแกงลิง (nepenthes) เป็นพืชกินสัตว์ประเภทหนึ่ง มีมากกว่า 160 ชนิด และลูกผสมอีกมากมาย พบกระจายพันธุ์ในเขตร้อนชื้น ตั้งแต่ตอนใต้ของจีน, อินโดนีเซีย, มาเลเซียและฟิลิปปินส์
หม้อข้าวหม้อแกงลิงเป็นไม้เลื้อย มีระบบรากที่ตื้นและสั้น สามารถสูงได้หลายเมตร ลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตรหรืออาจหนากว่านั้นในบางชนิด เช่น N. bicalcarata เป็นต้น ..จากลำต้นไปยังก้านใบที่มีลักษณะใบคล้ายกับสกุลส้ม ยาวไปจนสุดเป็นสายดิ่งซึ่งบางสายพันธุ์ใช้เป็นมือจับยึดเกี่ยว แล้วจบลงที่หม้อซึ่งเป็นใบแท้แปรสภาพมา หม้อเริ่มแรกจะมีขนาดเล็กและค่อยๆ โตขึ้นอย่างช้าๆ จนเป็นกับดักทรงกลมหรือรูปหลอด