ขณะที่ ราฟฟาเอล เอิร์นส์ (Raffael Ernst) ยืนอยู่ในป่าลึกของอเมซอน มันเป็นช่วงเวลาที่ฝนตก เขาได้ยินเสียงที่ผิดปกติ เป็นเสียงของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ แต่ไม่เหมือนที่เขาเคยได้ยินมาก่อน นักธรรมชาติวิทยาชาวเยอรมันคนนี้คุกเข่าลงและเริ่มขุดดินด้วยมือของเขาในดินเปียก
ไม่ช้าเขาก็ถูกโคลนปกคลุม แต่เขาก็พบกับสิ่งที่ค้นหาอยู่ มันเป็นกบสายพันธุ์ใหม่ที่เขาตั้งชื่อว่า “กบซอมบี้” ตัวอย่างที่พบมันมีขนาดเล็ก มีจุดสีส้ม ซึ่งวัดขนาดตัวได้เพียง 1.5 นิ้ว มันมีหน้าตาที่แปลกประหลาด ..ชื่อของกบไม่ได้มาเพราะมันเหมือนซอมบี้ แต่เพราะมันอาศัยอยู่ใต้ดิน ยากที่จะพบ และนานๆ ทีมันจะขึ้นมาบนพื้นดิน เหมือนวิธีที่หนังซอมบี้สมัยก่อนชอบให้พวกมันโผล่ขึ้นจากดิน
ในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสาร Zoologischer Anzeiger ในเดือนกรกฎาคม 2021 ทีมงานได้ระบุกบชนิดใหม่อีก 2 สายพันธุ์ ซึ่งอยู่ในสกุลเดียวกันคือ Synapturanus mesomorphus และ Synapturanus ajuricaba โดยอธิบายเอาไว้ว่า พวกมันเป็น “กบฟอสซิลอเมซอน” อาศัยในพื้นที่ห่างไกลของป่าอเมซอน “อาจมีสายพันธุ์อื่นที่ยังไม่พบมากกว่าที่รู้จักในปัจจุบันถึงหกเท่า”
สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ถือเป็นสัตว์น้ำชนิดหนึ่งที่เป็นตัวชี้วัดถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ แต่ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์กำลังถูกคุกคามด้วยการสูญพันธุ์ “เมื่อใดก็ตามที่เราค้นพบสายพันธุ์ใหม่ ในขณะเดียวกันเราเองก็กำลังสูญเสียสายพันธุ์อื่นไปพร้อมๆ กัน หรืออาจมากกว่าที่เราค้นพบซะอีก”
แม้ว่าป่าฝนอเมซอนจะเป็นหนึ่งในสถานที่ๆ มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก แต่ป่าฝนแห่งนี้ก็ยังอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาลจากผลประโยชน์ทางอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงการขุด การสกัดไม้ การตัดไม้ การรุกล้ำพื้น และโครงการขนาดใหญ่ และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเองก็มีความอ่อนไหวอย่างยิ่งต่อคุณภาพน้ำ พวกมันจึงได้รับผลกระทบต่อสิ่งเหล่านี้เร็วที่สุด
และเนื่องจากกบซอมบี้ และพี่น้องของมันเป็นสายพันธุ์ที่เพิ่งค้นพบได้ไม่นาน จึงต้องได้รับการศึกษาอีกมาก เพื่อให้เข้าใจถึงสัตว์ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ใต้ดิน พวกมันอยู่และกินอะไร รวมถึงวงจรชีวิตของพวกมัน หวังว่าจะมีพวกมันเป็นจำนวนมากและรอดจากการทำลายป่าอย่างต่อเนื่องโดยมนุษย์