1. นักตกปลามือใหม่ซื้อ Spinning ได้ไม่ถึง 1 พันบาท
หากน้ากำเงินในมือไว้ 1 พันบาท และน้าอยากได้รอก Baitcasting มาใช้งาน ผมแนะนำให้นักตกปลามือใหม่เลิกคิดไปได้เลย เพราะรอกอย่างรอก Baitcasting คุณภาพพอรับได้ ราคาต่ำกว่า 1 พัน “ไม่มี” ในขณะที่รอก Spinning น้าสามารถใช้เงินไม่ถึง 1 พัน ซื้อรอกคุณภาพพอรับได้มาใช้ได้อย่างสบาย แถมเงินเหลือไปซื้อสายด้วยซ้ำ
ในมุมมือใหม่ตกปลาจะบอกไว้ให้ แม้แต่รอกแบนด์ดังๆ อย่าง Daiwa หรือ Shimano …อย่าว่าแต่รอกอย่างเดียวเลย รอก + คันเบ็ด ในราคาไม่ถึง 1 พันบาท Spinning ก็มีให้เลือกซื้อ จากภาพเป็น Shimano AX 1000 ราคาไม่ถึง 800 บาท ด้วยซ้ำ
2. Spinning ตีง่ายกว่า Baitcasting มาก
ของขึ้นชื่อของ Baitcasting คือ ตีแล้วฟู่ ส่วน Spinning คำว่าสายฟู่แทบไม่มี จะมีก็สายตีเกลียว หากนับเฉพาะการตีท่าพื้นฐานแล้ว ต้องยอมรับว่า Spinning ตีได้ง่ายกว่า Baitcasting มากๆ มีนักตกปลาหน้าใหม่ หรือแม้แต่หน้าเก่า ไม่สามารถตี Baitcasting ได้ดี เมื่อน้าได้อุปกรณ์ Spinning น้าก็แทบจะเอาไปตกปลาได้ทันที
โดยไม่ต้องฝึกมากนัก แต่ถึงต้องฝึก ความเสียหายที่เกิดจากการฝึกของน้าจะน้อยมาก อย่างน้อยก็ไม่ต้องมานั่งแก้สายพู่ หรืออย่างเลวร้ายคือ ตัดสายทิ้ง ซึ่งถือเป็นฝันร้ายของคนที่ใช้ Baitcasting
3. Spinning ตีได้ไกลกว่า Baitcasting
ในฐานนะที่ผมใช้ Baitcasting ค่อนข้างเก่ง และค่อยอยากยอมรับเรื่องนี้ แต่สุดท้ายก็ต้องยอม ที่เรื่องตีไกล Spinning ทำได้ดีในสภาพหมายเปิด ที่ฟ้าลมเปลี่ยนแปลงตลอด โดยเฉพาะหากเอาอุปกรณ์ราคาไม่เกิน 5 พัน มาเทียบกัน ยิ่งเห็นชัด ต้องบอกว่า ถ้า Baitcasting จะสู้กับ Spinning ที่มีราคาไม่เกิน 5 พันบาท น้าอาจจะต้องใช้เงินถึง 1 หมื่น บาท เพื่อจะได้รอกที่ตีได้ไกลสู้ Spinning ในสภาพลมนิ่งๆ
4. Spinning สามารถตีในพื้นที่จำกัดได้ดีกว่า
ด้วยเหตุที่ว่า Spinning ตีง่าย ..มันจะยากมากๆ ที่ตี Spinning แล้วสายจะพู่ หรือพันยุ่งเหยิงอยู่ในสปูน น้าจะสามารถตีต่ำๆ สะบัดสั้นๆ เพื่อหลบกิ่งไม้ใกล้ๆ แล้วยังส่งเหยื่อได้ระยะอีกต่างหาก หรือแม้แต่หยอดระยะใกล้ๆ ใต้ขา ที่บางที Baitcasting ก็ทำได้ยากเหลือเกิน ด้วยเงื่อนไขนี้ Spinning ถูกๆ ก็สามารถทำได้แล้ว
5. Spinning ดูแลรักษาได้ง่ายกว่า Baitcasting
จากประสบการณ์ หากน้าตกปลาในสภาพหมายน้ำจืด ด้วยรอก Spinning น้าสามารถตกอาทิตย์ละ 1 – 2 ครั้ง ตลอดทั้งปี โดยที่ไม่ต้องถอดรอกล้างเลย เพียงแค่คำความสะอาดภายนอก หยอดน้ำมันนิดหน่อย ก็พอแล้ว แต่หากน้าเล่น Baitcasting บอกได้เลยว่าด้วยเงื่อนไขการใช้งานเดียวกัน ปีนึงน้าอาจจะต้องถอดล้างเล็กๆ น้อยๆ อย่างน้อย 1 ครั้งต่อเดือน และล้างใหญ่อย่างน้อยปีละ 3 ครั้ง ด้วยเหตุนี้ Spinning จึงดูแลง่ายกว่า
6. Spinning สายจะไม่พาดคัน
หากน้าเป็นคนที่จะจิตตกเพราะเห็นสายพาดคันเวลาอัดปลา บอกได้เลยว่าคันเบ็ดตีเหยื่อปลอม เวทอ่อนหน่อยๆ รุ่นใหม่ๆ จะถูกหรือแพง หากเป็น Baitcasting ลองใช้ไกค์แบบไมโครไกด์ สายพาดคันทุกคัน แต่ Spinning จะไม่มีอาการนี้นะ ฉะนั้นรับเรื่องนี้ไม่ได้ ต้องเล่น Spinning
7. Spinning มีเสียงเวลาสู้กับปลา
ถ้าน้าเป็นคนชอบเสียงกริ้งๆ แก๊กๆ ของรอก ตอนที่ต้องสู้กับปลา แนะนำให้ซื้อรอก Spinning ครับ นั้นเพราะรอกตีเหยื่อปลอมเกือบทั้งหมดที่เป็น Spinning จะมีเสียง แม้จะเบาก็ตาม แต่ Baitcasting ตีเหยื่อปลอมส่วนใหญ่ไม่มีเสียง ถ้าอยากได้มีเสียงต้องหาหน่อย
8. Spinning ใช้งานได้หลากหลาย
น้าเคยหรือเปล่า เมื่อไปตีเหยื่อปลอม แล้วไม่ได้ตัว ก็เลยจะเปลี่ยนมาตกหน้าดิน หรือตกแนวสปิ้วเล่นๆ ดู นี่ล่ะ ที่ Baitcasting จะโคตรลำบากที่จะตกปลาด้วยเทคนิคเหล่านี้ แต่กับ Spinning ตีเหยื่อปลอม มันเป็นเรื่องง่ายมากๆ ที่จะตกปลาด้วยเทคนิคอย่างสปิ้ว และหากน้าจะไปตกกุ้งแม้น้ำ หรือแม้แต่ตกปลาหมึก หากมีชุด Spinning เหมาะหน่อยๆ ก็สามารถเอาไปตกได้ทันทีเช่นกัน แต่กับ Baitcasting ถึงจะคันอ่อนๆ ก็ต้องคิดหนักหน่อยอะนะ
9. Spinning ตีเหยื่อเบาดีกว่า Baitcasting มาก
น้าอาจจะต้องใช้ Baitcasting แต่งเต็ม ราคาราวๆ 2 หมื่นบาท ถึงจะตีเหยื่อเบามากๆ พอที่จะสู้ Spinning ราคา 5 พันบาทได้ ด้วยเหตุนี้ หากน้าตั้งใจตีเหยื่อเบามากๆ ชนิดที่น้ำหนักไม่ถึง 5 กรัม แนะนำให้ไปคบหา Spinning ได้เลย เรื่องนี้ยังไง Baitcasting ก็สู้ไม่ได้
เรื่องของรอกมือใหม่ กับทุกสิ่งที่คุณควรที่จะรู้
9 อันดับ รอกหยดน้ำเบทคาสติ้ง คุ้มที่สุดในปี 2019
4 ข้อควรรู้ กับความจริงของลูกปืนรอกเบท
