ทำไมนกฟลามิงโกจึงเป็นสีชมพู?

เคยสงสัยกันหรือไม่? ทำไมนกฟลามิงโกถึงเป็นสีชมพู? ความจริงนกชนิดนี้ไม่ได้เกิดมาแล้วจะมีสีชมพู แต่เดิมแล้วพวกมันมีขนสีขาวหรือไม่ก็ออกเทาๆ แต่เพราะสิ่งที่พวกมันกิน และแหล่งที่มันชอบอาศัย ทำให้ขนของพวกมันเป็นสีชมพู

นกฟลามิงโก

นกฟลามิงโก ค่อนข้างพิเศษ เพราะพวกมันจะอาศัยอยู่ในที่ๆ สัตว์ส่วนใหญ่อยู่ไม่ได้ และพวกมันก็กินของที่สัตว์ส่วนใหญ่กินไม่ได้เช่นกัน “นกฟลามิงโกมักจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำที่ไม่เอื้ออำนวยและค่อนข้างห่างไกล”

หนึ่งในแหล่งอาศัยใหญ่ที่ขึ้นชื่อคือ “ทะเลสาบเนตรอน” มันเป็นที่ๆ มีแหล่งน้ำเป็นสีแดง มี pH สูงถึง 12 และยังร้อน 60 องศาเซลเซียส แม้จะเป็นทะเลสาบที่ไม่น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอะไรอยู่ได้ แต่ที่แห่งนี้มีนกฟลามิงโก้มากกว่า 1 ล้านตัว อาศัยอยู่

ทะเลสาบเนตรอน (Lake Natron) ถือเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของนกนกฟลามิงโกฝูงใหญ่ เป็นทะเลสาบที่ใช้คำว่า อิกซ์ตรีโมไฟล์ (Extremophile) ที่หมายถึง ภาวะสุดขั้วทางกายภาพหรือธรณีเคมีซึ่งเป็นโทษต่อสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่บนโลก ..แต่นกฟลามิงโกชอบ

ปกติแล้วนกฟลามิงโก้ จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่จะฆ่าสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ได้ มันจะ กินกุ้ง ไซยาโนแบคทีเรีย และสาหร่ายไดอะตอม สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน ทุกสิ่งที่มันกินเข้าไป สัตว์ส่วนใหญ่กินไม่ได้

แล้วนกฟลามิงโกสามารถกินอาหารเหล่านี้โดยไม่ป่วย? นั้นเพราะเมแทบอลิซึม (Metabolism) เฉพาะของพวกมัน ทำให้นกสามารถประมวลผลสารเคมีอันตรายเหล่านี้ในตับ แล้วแยกย่อยออกมาเป็นส่วนประกอบเพื่อร่างกายและเม็ดสี

ลูกนกจะมีสีขาว-เทา มันจะกินอาหารและเปลี่ยนเป็นเม็ดสี สุดท้ายขนก็จะเปลี่ยนสี แม้แต่ขาที่เป็นสีดำก็จะเปลี่ยนเป็นโทนชมพู

เม็ดสีเหล่านี้เองที่ทำให้ขนของนกฟลามิงโกค่อยๆ กลายเป็นสีชมพู และด้วยเม็ดสีนี้ยังทำให้ ผิวหนัง ไข่แดง และแม้แต่ไขมันของพวกมันก็เป็นสีชมพู หรือสีที่ใกล้เคียงเช่น สีส้ม แดง หรืออาจเป็นสีทอง ..แน่นอนหากมันไม่ได้กินสิ่งที่กล่าวมาตัวมันก็จะสร้างเม็ดสีไม่ค่อยได้

ที่น่าสนใจคือในขณะที่นกฟลามิงโกเป็นสีชมพู ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการกินอาหารของพวกมัน แต่สีของนกฟลามิงโกก็มีความสำคัญเป็นพิเศษในช่วงฤดูผสมพันธุ์ เพราะในฐานะนกฟลามิงโก ยิ่งคุณมีสีชมพูมากขึ้นเท่าไหร่ นกตัวนั้นก็ยิ่งมีสุขภาพดีขึ้นและยังดึงดูดคู่ได้มากอีกด้วย ..และนี่ก็คือเหตุผลที่นกฟลามิงโกถึงเป็นสีชมพู

อ่านเรื่องอื่น

Advertisements
Advertisements