เมื่อไม่นานนี้ทีมนักสำรวจถ้ำชาวโอมานได้กลายเป็นมนุษย์กลุ่มแรกที่สามารถลงมาถึงก้นหลุม “บ่อน้ำแห่งนรก” ที่มีความลึก 112 เมตร มันเป็นหลุมยุบขนาดใหญ่ที่มีตำนานมากมาย และไม่เคยมีใครลงไปสำรวจ หรือลงไปแล้วไม่ได้กลับออกมาเล่าว่าข้างในคืออะไร จนคนท้องถิ่นเชื่อว่าเป็น “ประตูสู่นรก” หรือ “ที่คุมขังของเหล่าปีศาจ”
ทีมนักสำรวจถ้ำโอมาน (OCET) ใช้วิธีโรยตัวลงมาถึงพื้น พวกเขาไม่ได้พบอันตรายระหว่างการลง ตามรายงานเล่าว่าพื้นผิวไม่เรียบ มันขรุขระและมีหินงอกบางส่วนที่สูงถึง 9 เมตร พื้นที่บางส่วนยังปกคลุมไปด้วยไข่มุกที่พบเจอในถ้ำ ซึ่งเป็นสปีลีโอเทม (Speleothem) ชนิดหนึ่ง
จากภายในหลุม ทีมงานยังค้นพบด้วยว่ามีน้ำไหลออกมาจากรูหลายรู ทั่วผนังถ้ำที่อยู่ลึกลงไปใต้ผิวน้ำประมาณ 65 เมตร ทำให้เกิดน้ำตกขนาดเล็ก ตามรายงานของ Muscat Daily เมลิม (นักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น อิลลินอยส์) กล่าวว่าสิ่งนี้ทำให้เกิดน้ำหยด จนสร้างสเปลีโอเทม หินงอกหินย้อยและไข่มุกในถ้ำอย่างที่เห็น
สำรวจยังรายงานว่ามีการพบเห็นสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เช่น งู , กบและแมลงภายในระบบของถ้ำ และยังมีสัตว์ที่ตายแล้วแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นนกที่ดูเหมือนว่าพวกมันลงในหลุมและไม่ได้บินกลับขึ้นไป ซากศพที่เน่าเปื่อยพวกนี้ อาจเป็นคำตอบว่าทำหลุมแห่งนี้ถึงมีกลิ่นเหม็น แต่กลิ่นเหม็นพวกนี้ก็ไม่ได้เหม็นจนทนไม่ไหว
อย่างไรก็ตามนี่เป็นการสำรวจครั้งแรก ทีมงานทำได้เพียงเก็บตัวอย่างที่อาจจะช่วยเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลุมยุบ และการก่อตัวของหลุม “เราเก็บตัวอย่างน้ำ หิน ดิน และสัตว์ที่ตายแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการวิเคราะห์” คาดว่าในไม่ช้าเราจะได้รับคำตอบ และเร็วๆ นี้อาจมีการสำรวจอีก