ปลาแสงอาทิตย์ หรือ ปลาโมลา โมลา ( Ocean sunfish, Pacific sunfish, Sunfish, Mola mola) ชื่อวิทยาศาสตร์ Mola mola เป็นปลาทะเลกระดูกแข็งชนิดหนึ่ง ในวงศ์ปลาแสงอาทิตย์ (Molidae) ในอันดับปลาปักเป้า
ปลามูนฟิช หรือ ปลาพระจันทร์ หรือ ปลาโอปาห์ ( Moon fish, Opah) ชื่อวิทยาศาสตร์ Lampris guttatus ปลาทะเลกระดูกแข็งขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ในวงศ์ปลามูนฟิช (Lampridae)
จากข้อมูลด้านบนจะเห็นว่าทั้ง 2 ถือว่าต่างกันมาก โดยเฉพาะวงศ์ของปลาทั้งสอง ดูเหมือนว่าพวกมันจะเหมือนกันตรงที่ทั้งสองเป็นปลาทะเลกระดูกแข็งขนาดใหญ่ทั้งคู่ แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งสองต่างกันมากๆ คือ “มูนฟิชเป็นปลาเลือดอุ่น แต่ซันฟิสไม่ใช่”
ความจริงแล้วปลาเลือดอุ่นถือว่าหาได้ยากมากในทะเล และมูนฟิชเองก็เป็น “ปลาเลือดอุ่น” ชนิดแรกที่มนุษย์รู้จักและระบุตัวได้ ส่วนซันฟิสกลับกลายเป็น “ปลาที่น่าเศร้าที่สุด” ไปซะงั้น ..เหตุเพราะตลอดชีวิตของซันฟิสจะอยู่ด้วยความยากลำบากจริงๆ
มูนฟิชโชคดีที่เป็นปลาเลือดอุ่น
ในฐานะปลาแล้ว การที่เลือดอุ่นย่อมดีกว่าเลือดเย็น เพราะมันจะสามารถรักษาอุณภูมิของร่างกายได้ดีกว่า โดยปลาชนิดนี้จะรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้อบอุ่นกว่าสภาพแวดล้อมในน้ำลึกประมาณ 5 องศาเซลเซียส ตัวอย่างเช่น ถ้าน้ำเย็น 5 องศาเซลเซียส ร่างกายของปลาจะอยู่ที่ 10 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วยทำให้สามารถว่ายลงไปได้ลึกกว่าปลาทั่วไปและอยู่ใต้ทะเลลึกได้นานกว่า
ซันฟิชโชคดีที่ไข่เยอะที่สุดในโลก
ซันฟิส เป็นปลาที่ได้ชื่อว่า “วางไข่ได้มากที่สุดในโลก” มันสามารถวางไข่ได้ครั้งละ 300 ล้านฟอง แต่จะมีไม่ถึง 0.5% ที่จะฟักออกมาสำเร็จ ส่วนจะโตเต็มวัยได้ก็ยิ่งน้อยลงไปอีก โดยไข่จะล่องลอยไปตามกระแสน้ำ และพ่อแม่ปลาก็จะไม่ตามดูแล ด้วยเหตุนี้จึงเหลือรอดและโตมาจนเป็นปลาที่มีขนาดสมบูรณ์มีเพียงไม่กี่ตัว
นักวิทยาศาสตร์ให้ความเห็นว่าปลาชนิดนี้ เป็นปลาที่ไม่ค่อยมีจุดมุ่งหมายในการเกิดมาบนโลกนี้เท่าไร เหมือนปลาที่ไม่ได้ทำอะไร ทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ยังถกเถียงกันอยู่ว่า เจ้าปลาแสงอาทิตย์นั้นเคลื่อนที่ได้อย่างไร?
ครีบที่มีขนาดเล็กนั้นทำได้มากที่สุดแค่กระดิกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มันไม่น่าจะว่ายได้เร็ว ..มันไม่สามารถหนีจากนักล่าได้เลย เมื่อถูกโจมตี สิ่งที่ทำได้คือรอให้นักล่ากัดกินจนพอใจแล้วจากไปเอง
ความโชคไม่ดีของปลามูนฟิช
เรื่องนี้ก็ต่างจากซันฟิชมาก เพราะมูนฟิช “อร่อย” สำหรับมนุษย์ ในขณะที่ซันฟิชไม่อร่อย .. ด้วยเหตุนี้มูนฟิชจึงโดนจับเพื่อเป็นอาหารอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะในประเทศญีปุ่น
และมูนฟิชยังเป็นปลาน้ำลึก พวกมันจะเคลื่อนที่ช้ามาก ด้วยความความเร็วประมาณ 25 เซนติเมตร/วินาที หรือถ้าหนีตายก็เร่งได้เป็น 4 เมตร/วินาที จึงไม่แปลกที่มันจะหนีนักล่าไม่ค่อยได้ (แต่ก็ยังเร็วกว่ามูนฟิช) ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็น “ปลาหายาก” และแพงมากตามข้อมูลเห็นเคยมีขายในไทย 2500 บาทต่อกิโลกรัม
แต่แม้ว่าซันฟิชจะไม่ตกเป็นเป้าหมายในการล่าของมนุษย์ แต่มันดันเป็นปลาที่ช้ามาก และยังชอบลอยขึ้นมาตากแดดบนผิวน้ำ มันจึงมักโดนเรือชน หรือไม่ก็ติดอวนโดยไม่ตั้งใจ
ด้วยน้ำหนักมหาศาลของมันเลยมีโอกาสน้อยที่จะถูกปล่อยโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ (ซันฟิชคือปลากระดูกแข็งที่มีน้ำหนักมากที่สุดในโลก) ..มันจึงอยู่ในสถานะการอนุรักษ์ “ไม่มั่นคง”
ส่วนมูนฟิชก็ไม่ดีไปกว่ากัน แม้จะเอาตัวรอดเก่งกว่า แต่เพราะอร่อยราคาแพง มันจึงเป็นเป้าหมายในการล่าของมนุษย์ด้วย เป็นปลาเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ เนื้อแน่นสีแดงสด มีรสชาติอร่อย
เป็นปลาที่อุดมด้วยคุณค่าทางอาหาร คือโอเมกา 3, โปรตีน, ไนอาซิน, วิตามินบี 6, วิตามินบี 12 แต่มีโซเดียมต่ำ และปลาทั้งตัวจะมีส่วนที่รับประทานได้เพียงร้อยละ 35 เท่านั้น ที่เหลือจะเป็นส่วนที่เนื้อที่แข็งและก้าง ..สถานะการอนุรักษ์ “ไม่เคยได้รับการประเมิน”